กรุงเทพฯ 13 สิงหาคม 2564 – นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผย เซ็นทรัล รีเทล ยังคงเดินหน้าธุรกิจต่อไปอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่รวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแผนการทำธุรกิจในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว พร้อมทั้งปรับโมเดลธุรกิจและพอร์ตโฟลิโอให้มีความยืดหยุ่น สอดคล้องตามเทรนด์ตลาด และความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจออมนิแชนแนล และกลุ่มฮาร์ดไลน์เติบโตสูงเป็นนิวไฮ จนสามารถสร้างรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมทั้งดันผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ของเซ็นทรัล รีเทล เติบโตขึ้น โดยมีรายได้รวม 46,376 ล้านบาท (+12% YoY) EBITDA 4,088 ล้านบาท (+218% YoY) และขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 426 ล้านบาท (+83% YoY)
สำหรับนิวไฮของธุรกิจเซ็นทรัล รีเทล ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ประกอบด้วย
1. การเติบโตอย่างมีศักยภาพของธุรกิจฮาร์ดไลน์ ที่นับได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้ง เซ็นทรัล รีเทล มา โดยเติบโตเป็นอันดับหนึ่งจากทุกกลุ่มทั้งด้านรายได้รวม EBITDA และกำไรสุทธิ ทั้งยังมีสัดส่วนยอดขายเพิ่มสูงขึ้นจาก 32% เป็น 39% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการทำตามกลยุทธ์เชิงรุกที่ได้ตั้งเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการควบรวม บมจ.ซีโอแอล (COL) ที่ทำให้ธุรกิจฮาร์ดไลน์สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม B2B รวมถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของไทวัสดุ ซึ่งได้เปิดให้บริการไปแล้ว 4 สาขาในปีนี้ และจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาภายในสิ้นปี นอกจากนี้ยังเตรียมแผนที่จะขยายไทวัสดุไปยังประเทศเวียดนามอีกด้วย
2. การเพิ่มช่องทางการขายใหม่ ๆ ของแพลตฟอร์มออมนิแชนแนล อาทิ บริการ Personal Shopper ผู้ช่วยช้อปส่วนตัวสำหรับลูกค้าทุกคน ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ต, การเพิ่มจำนวนสาขาของท็อปส์ที่ให้บริการ
ควิกคอมเมิร์ซ และการเปิดตัวแอปพลิเคชัน GO! ของธุรกิจฟู้ดในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ยังเห็นความสำเร็จของ CENTRAL App ซูเปอร์แอปพลิเคชันที่เป็น One-stop Shopping รวมสินค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล ครบจบในที่เดียว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมบริการช้อปส่งไวถึงมือภายใน 3 ชั่วโมง โดยปัจจุบัน CENTRAL App มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 2.7 ล้านดาวน์โหลด ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากการเปิดตัวครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2563
3. การขยายธุรกิจ Property มีการขยาย ปรับปรุง และเปลี่ยนโฉมสาขาอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ โดยในประเทศเวียดนาม ได้เปิดศูนย์การค้า GO! สาขาท้ายเหงียนในเดือนเมษายน และยังเตรียมเปิด GO! สาขาใหม่อีก 2 แห่ง ภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 นี้
“ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 คือเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงกลยุทธ์เชิงรุกในการดำเนินธุรกิจและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยในครึ่งปีหลังเราจะยังคงเน้นการเติบโตและการขยายธุรกิจผ่านการลงทุน การควบรวม และการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการจัดการวิกฤตโควิด-19 และมีมาตรการดูแลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งพนักงาน, ลูกค้า, คู่ค้า, ผู้ถือหุ้น และชุมชน ตลอดจนยกระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุขในการให้บริการอย่างเคร่งครัด ทำให้เราเชื่อมั่นว่าเมื่อประเทศไทยสามารถเปิดประเทศ และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เซ็นทรัล รีเทล จะเป็นรายแรก ๆ ที่สามารถกลับมาเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม” นายญนน์ กล่าวปิดท้าย
###
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย และเป็นบริษัทเรือธงด้านค้าปลีกซึ่งเป็นรากฐานของกลุ่มเซ็นทรัล มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,687 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564) นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท (Multi-category) ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มออมนิแชนแนล ธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มแฟชั่น เน้นสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ภายใต้ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) และรีนาเชนเต (Rinascente); (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ เน้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ภายใต้ ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์, เพาเวอร์บาย, เหงียนคิม, ออฟฟิศเมท, บีทูเอส, และเมพ (e-book); (3) กลุ่มฟู้ด เน้นสินค้าของสดและของใช้บริโภคในครัวเรือน ภายใต้ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท, บิ๊กซี/โก! และลานชี มาร์ท; และ (4) กลุ่มพร้อพเพอร์ตี้ เน้นให้เช่าพื้นที่ค้าปลีกแก่บุคคลภายนอกและร้านค้าในเครือฯ ภายใต้ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์, ท็อปส์ พลาซ่า, และบิ๊กซี/โก! โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 54 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 39 จังหวัด, และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน2564)
Post Top Ad
Friday, August 13, 2021

Home
การเงิน การลงทุน
CRC ผลประกอบการไตรมาส 2 โต 12% อัดกลยุทธ์ระยะยาว สร้างนิวไฮกลุ่มฮาร์ดไลน์ และออมนิแชนแนล
CRC ผลประกอบการไตรมาส 2 โต 12% อัดกลยุทธ์ระยะยาว สร้างนิวไฮกลุ่มฮาร์ดไลน์ และออมนิแชนแนล
Tags
# การเงิน การลงทุน
Share This
About threportor
การเงิน การลงทุน
Labels:
การเงิน การลงทุน
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
No comments:
Post a Comment