กรุงเทพฯ 30 มิถุนายน 63 - กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปั้นฉลากพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอไทย Thailand Textiles Tag สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้านำร่องเฟสแรกพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอไม่น้อยกว่า 50 ราย หวังสร้างมูลค่าเพิ่มฟื้นฟูสิ่งทอไทย ไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท
นายเจตนิพิฐ รอดภัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ได้ดำเนินกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอเข้าสู่มาตรฐานอุตสาหกรรม พร้อมจัดประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ Thailand Textiles Tag เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพของเนื้อผ้า ความคงทนของสี และความปลอดภัยจากสารเคมีตกค้าง ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัล คือ นายพิเชษฐ์พล ไทยประสงค์ นักออกแบบอิสระ โดยตราสัญลักษณ์ Thailand Textiles Tag หมายรวมถึงวัตถุดิบที่ใช้และกระบวนการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศไทย (Made in Thailand) โดยพิจารณาแหล่งกำเนิดของสินค้ายึดตามหลักสากล ได้แก่
- เส้นด้ายที่ผลิตในประเทศไทย (Yarn Forward) หมายถึง กรณี ผู้ประกอบการซื้อเส้นใยแล้วนำมาผ่านกระบวนการปั่นเป็นเส้นด้ายในประเทศไทย
- ผ้าผืนที่ผลิตในประเทศไทย (Fabric Forward) หมายถึง กรณี ผู้ประกอบการซื้อเส้นด้ายแล้วนำมาผ่านกระบวนการทอ หรือ ถัก เป็นผ้าผืนในประเทศไทย รวมถึงผ่านกระบวนการฟอก ย้อม พิมพ์ และตกแต่งสำเร็จในประเทศไทยด้วย
พร้อมกันนี้ กสอ. มีแนวทางส่งเสริมศักยภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอไทยให้มีคุณภาพตั้งเป้าพัฒนาผู้ประกอบการ ไม่น้อยกว่า 50 ราย เพื่อขอรับฉลากคุณภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอไทย รวมทั้งส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมรณรงค์และกระตุ้นให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เกิดความต้องการใช้และเกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของประเทศไทย ภายใต้ฉลาก Thailand Textiles Tag นายเจตนิพิฐ กล่าว
โดยในปัจจุบันอุตสาหกรรมสิ่งทอเครื่องนุ่งห่มของไทยอยู่ในสภาวการณ์ชะลอตัว ตลาดส่งออกแข่งขันค่อนข้างสูง มีการนำเข้าสินค้าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มจากต่างประเทศมากขึ้น ในขณะที่การผลิตสินค้าดังกล่าวสำหรับการใช้ในประเทศก็มีปริมาณมากเช่นกัน สำหรับภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ในเดือนเมษายน 2563 พบว่า การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 377.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 29.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวของปีก่อน ส่งผลให้ภาพรวมดุลการค้าเกินดุล คิดเป็นมูลค่า 24.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
No comments:
Post a Comment