Capri Holdings ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ ภายในปี 2025

ลอนดอน — 22 เมษายน 2020 — Capri Holdings Limited (NYSE:CPRI) กลุ่มผู้นำแบรนด์แฟชั่นลักซ์ชัวรี่ระดับโลก ประกาศกลยุทธ์ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรครั้งแรก ในวันครบรอบ 50 ปี วันคุ้มครองโลก (Earth Day)

ประกาศนี้ได้ต่อยอดจากการดำเนินงานของแต่ละแบรนด์ในองค์กรรวมถึงการนำกลยุทธ์ระดับโลกมาปรับใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและสามารถประเมินผลชี้วัดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทางสังคม รวมถึงการจัดหาแหล่งวัสดุ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้น้ำ การลดของเสีย ความหลากหลายทางสังคมและการกุศล

กลยุทธ์ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรแบ่งออกเป็น 3 ส่วน:

1. เพื่อโลกของเรา - มุ่งเน้นไปที่การดำเนินงานขององค์กรรวมไปถึงระบบ supply chain เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

2. เพื่อองค์กรของเรา - สร้างขวัญและกำลังใจ สนับสนุนด้านสุขภาพ สนับสนุนความหลากหลายและการมีส่วนร่วมในที่ทำงานของพนักงานทุกคน

3. เพื่อมูลนิธิและการกุศล - กระจายความสามารถและความสำเร็จของแบรนด์ในองค์กรไปสู่กลุ่มที่ต้องการทั่วโลก

รายงานด้านความรวมผิดชอบต่อสังคม (CSR) ของ Capri Holdings มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการสนับสนุน 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ (17 Sustainable Development Goals)

Capri Holdings ตั้งเป้าหมายที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยที่สุดในกระบวนการผลิต โดยมุ่งเน้นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเท่ากับศูนย์ และจัดหาแหล่งพลังงานทดแทนสำหรับการบริโภคและการดำเนินกิจการทั้งหมด ภายในปี 2025 นอกจากความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ยังมีความตั้งใจที่จะดำเนินกิจการตามเป้าหมายของสนธิสัญญาปารีส (Paris Agreement) บริษัทยังคงให้คำมั่นที่จะตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยมลพิษตลอดการดำเนินงานและการบริหารจัดซื้อตามฐานวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative) ภายในปี 2021

บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะต่อยอดกลยุทธิ์ดังต่อไปนี้

• กระบวนการรีไซเคิล การย่อยสลาย และการนำกลับมาใช้ซ้ำของพลาสติกบรรจุภัณฑ์จะแล้วเสร็จภายในปี 2025

• 100 เปอร์เซ็นต์ ของวัสดุบรรจุภัณฑ์ สามารถนำไปรีไซเคิลได้ภายในปี 2025

• การร่วมมือกับซัพพลายเออร์หลักเพื่อลดการใช้น้ำ

• การทวนสอบย้อนกลับของระบบ supply chain ทั้งหมด

• ใช้หนังฟอกที่ผ่านการรับรองอย่างน้อย 95% ภายในปี 2025

• ส่งเสริมความหลากหลายและการผนวกรวมภายในองค์ผ่าน Global D&I Counci

• ดำเนินการสร้างโปรแกรมที่มุ่งเน้นไปในด้านสิทธิมนุษยชนและค่าจ้างที่เป็นธรรม ให้เป็นไปตามกรอบของสหประชาชาติ ตามมาตรฐานของกรมการสุขภาพและการเสริมพลังสตรีในปี ภายในปี 2025

รายงานนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้มาอย่างยาวนาน รวมถึงความสำเร็จครั้งสำคัญที่เราได้มอบอาหารจำนวนกว่า 19 ล้านมื้อ ให้แก่เด็กในพื้นที่ที่ยากไร้ทั่วโลก ผ่านโครงการ Michael Kors Watch Hunger Stop

“เรามีความภาคภูมิใจที่บริษัทของเราได้ขับเคลื่อนแนวความคิดที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมภายในองค์กร รวมไปถึงโลกของเรา” John D. Idol ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Capri Holdings กล่าว “ต้นปีที่แล้วไม่นานหลังจากที่เราก่อตั้ง Capri Holdings องค์กรลักซ์ชัวรี่แฟชั่นระดับโลก เราประเมินความเป็นไปได้ในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่แต่ละแบรนด์ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องไปกับค่านิยมหลักขององค์กร นอกจากนี้เรายังคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ต่อชุมชน รวมไปถึงบุคคลากรภายในองค์กรของเรา เราตระหนักดีว่าเมื่อบริษัทของเราเติบโตขึ้น เรายิ่งต้องมีหน้าที่รับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆ มากขึ้นด้วยเช่นกัน เราเชื่อว่านโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ดีนั้น ต้องประกอบไปด้วยความถูกต้องตามหลักจริยธรรมและความรับผิดชอบทางการเงิน ด้วยเหตุนี้เราจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาวิธีการทำงานของเราเพื่อให้โลกที่เราอยู่อาศัยนั้นดียิ่งขึ้น” เขากล่าวเสริม

John D. Idol ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Capri Holdings ได้ลงนามใน United Nations Global Compact ซึ่งเป็นองค์กรริเริ่มเพื่อความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอันยั่งยืน ด้วยการลงนามใน UN Global Compact โดย Capri Holdings ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการจัดวางกลยุทธ์และการดำเนินงานด้วยหลักการสากลทางด้านสิทธิมนุษยชน ด้านแรงงาน ด้านสิ่งแวดล้อม การต่อต้านการทุจริต รวมถึงการพัฒนาสังคมอันสอดคล้องกับแนวคิดว่าด้วยการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

นอกเหนือจากความมุ่งมั่นกับสัญญาที่มีต่อ UN Global Compact แล้ว Capri Holdings ได้ลงนามก่อนหน้านี้ในด้านการเสริมสร้างศักยภาพและพลังของผู้หญิงของสหประชาชาติ, สนธิสัญญาแฟชั่น, สนับสนุนในความหลากหลายทางสังคมในการแต่งตั้งผู้บริหาร ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณต่อหุ้นส่วน กลุ่มอุตสาหกรรม และผู้นำจากแบรนด์อื่น ๆ ให้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในการรับผิดชอบต่อสังคมของ Capri Holding ได้ทางเว็ปไซต์ capriholdings.com/csr.


เกี่ยวกับ Capri Holdings Limited

Capri Holdings Limited เป็นกลุ่มผู้นำแบรนด์แฟชั่นลักซ์ชัวรี่ระดับโลกรวบรวมแบรนด์ไอคอนิกซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านการออกแบบ การรังสรรค์ และความวิจิตรประณีต โดยแต่ละแบรนด์ครอบคลุมสินค้าหรูตั้งแต่แอคเซสเซอรี่ รองเท้า เสื้อผ้าทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ รวมไปถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ นาฬิกา เครื่องประดับ แว่นตา และผลิตภัณ์ฑ์น้ำหอมเต็มรูปแบบ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้เข้าถึงและขยายเครือข่ายของแบรนด์ให้กว้างยิ่งขึ้น ขณะที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และดีเอ็นเอของแบรนด์ Capri Holdings จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ New York Stock Exchange (NYSE) ภายใต้ชื่อ CPRI


เกี่ยวกับ United Nations Global Compact

United Nations Global Compact (UNGC) คือ คือโครงการหนึ่งของสหประชาชาติที่มีเป้าหมายในการกระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกหันมาใช้นโยบายในการดำเนินกิจการซึ่งมีความยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ผ่านหลักปฏิญญาสากล 10 ประการว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน, แรงงาน, สิ่งแวดล้อมและการต่อต้านการทุจริต UNGC ก่อตั้งครั้งแรกในปี 2000 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้คำแนะนำและสนับสนุนธุรกิจทั่วโลกให้บรรลุตามเป้าหมายขององค์กรสหประชาชาติและปฎิบัติตามหลักการรับผิดชอบขององค์กรอย่างมีคุณค่า นอกจากนี้ด้วยจำนวนบริษัทที่มากกว่า 10,000 แห่ง และผู้ลงนามกว่า 160 ประเทศ อีกทั้งจำนวนธุรกิจท้องถิ่นกว่า 60 แห่ง ถือได้ว่าเป็นองค์กรแรกที่มีความมั่นคงและยั่งยืนใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับข้อมูลสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ @globalcompact ในช่องทางออนไลน์และทางเว็ปไซต์ unglobalcompact.org.


การแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ที่อาจถูกมองว่าเป็น “การแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า” โดยข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าบ่งบอกถึงสิ่งที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นการคาดการณ์ ในเหตุการณ์ปัจจุบันของผู้บริหาร Capri Holdings Limited เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคตซึ่งมีความไม่แน่นอน ทำให้ผลลัพธ์ที่คาดการณ์อาจจะแตกต่างจากผลลัพธ์ในอนาคตที่เกิดขึ้นจริง โดยข้อความใดๆ ที่นำหน้าหรือตามด้วยและรวมถึงคำว่า "แผน", "เชื่อ", "คาดหวัง", "ตั้งใจ", "จะ", "ควร", "ทำได้", "อาจ", "อาจจะ" “ คาดการณ์ล่วงหน้า” หรือคำวลีที่คล้ายกันเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าทั้งสิ้น การแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้ไม่ได้รับประกันผลประกอบการทางการเงินในอนาคต แต่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่ซึ่งเกิดขึ้นแล้วแต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลลัพธ์ที่คาดหวังที่ตั้งอยู่บนสมมติฐาน ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้ ความเสี่ยง ความไม่แน่นอนและปัจจัยอื่น ๆ รวมถึงผลกระทบของการระบาดใหญ่ของไวรัส COVID-19 ที่มีต่อธุรกิจ หรืออาจจะรุนแรงมากกว่านั้น หากร้านค้ายังคงปิดทำการ และสถานการณ์ของโรคระบาดยังไม่คลี่คลาย จะสร้างผลกระทบทางการเงินและการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท จากการคาดการณ์ผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจนี้อาจจะมีผลกระทบที่ไม่เท่าเทียมกันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของ COVID-19 ว่าจะหนักมากน้อยเพียงใด ระยะเวลาของการระบาด และการฟื้นฟู ระดับการหมุนเวียนของเงิน ความสำเร็จ และความสามารถของบริษัทในการคาดการณ์ล่วงหน้าเมื่อเข้าซื้อกิจการใดๆก็ตาม ซึ่งความเสี่ยงทั้งหมดจะมีผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจ ผลกระทบเชิงลบของเหตุการณ์ต่อราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท และผลการดำเนินงาน ต้นทุนการทำธุรกรรมที่สำคัญ หนี้สิน และความเสี่ยงของการถูกฟ้องร้องหรือการดำเนินการด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท ความผันผวนของอุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท ระดับของหนี้ (รวมถึงภาระหนี้ที่เกิดขึ้นจากการถือครองสิทธิ์) ระยะเวลาและขอบเขตของการซื้อคืนหุ้นในอนาคต ซึ่งอาจทำในตลาดเปิดหรือธุรกรรมที่เจรจาต่อรองเป็นการส่วนตัว ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด ข้อกำหนดทางกฎหมายที่บังคับใช้ ข้อจำกัด ทางการค้าภายใต้นโยบายการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยอาจถูกระงับหรือหยุดในเวลาใดก็ได้ ระดับของกิจกรรมการลงทุนและการใช้เงินสด การเปลี่ยนแปลงของปริมาณผู้บริโภคและเทรนด์ธุรกิจค้าปลีก การสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดและการแข่งขันในอุตสาหกรรม ความผันผวนของตลาดทุน ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน การเกิดขึ้นของโรคระบาดและการระบาดใหญ่ทั่วโลก ภัยพิบัติหรือหายนะที่ไม่คาดคิด ความไม่แน่นอนทางการเมืองหรือเศรษฐกิจในตลาด ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ทั้งจากการฟ้องร้อง เรื่องทั่วไป เศรษฐกิจระดับท้องถิ่นและระดับโลก การเมือง ธุรกิจ และสภาวะตลาด รวมถึงความเสี่ยงที่ระบุไว้ในรายงานที่บริษัทยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาเป็นครั้งคราว รวมถึงรายงานประจำปีของบริษัทในแบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 30 มีนาคม 2562 (ไฟล์หมายเลข 001 -35368) และรายงานรายไตรมาสเกี่ยวกับแบบฟอร์ม 10-Q สำหรับไตรมาสบัญชีสิ้นสุดวันที่ 28 ธันวาคม 2019 (ไฟล์หมายเลข 001-35368) แถลงการณ์ที่ได้กล่าวถึงในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ที่กล่าวถึง ณ วันที่ที่ระบุไว้เท่านั้น และ บริษัท ฯ ไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการปรับปรุงหรือแก้ไขแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าหรือข้อความอื่น ๆ ที่มีอยู่ในที่นี้