กรุงเทพฯ 7 ธันวาคม 2566 – ไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินกลยุทธ์ขยายสาขาล้อมเมืองกำลังซื้อสูง อัดงบ 400 ล้านบาท ขยายสาขาที่ 77 ไทวัสดุ x บีเอ็นบีโฮม นครอินทร์บนพื้นที่ 20,000 ตร.ม รองรับดีมานด์สินค้าวัสดุก่อสร้าง – ของตกแต่งบ้าน จากคนในพื้นที่กว่า 250,000 ครัวเรือน ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งในระดับกลางและระดับบน ในทำเลย่านพระราม 5 นครอินทร์ - ราชพฤกษ์ แหล่งโครงการอสังหาฯ – ที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ พร้อมตอบรับเมกะโปรเจกต์จากทั้งภาครัฐและเอกชน ผ่านกลยุทธ์การตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า ในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้ ไทวัสดุได้ขยายสาขาเพิ่มอีก 3 พื้นที่ โดยไฮไลต์แห่งแรกเริ่มที่สาขานครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งสอดรับกับกลยุทธ์ป่าล้อมกรุง โดยเฉพาะในบริเวณเขตพื้นที่กรุงเทพ – ปริมณฑล รองรับดีมานด์อุตสาหกรรมก่อสร้างเติบโตจากบิ๊กโปรเจกต์ของภาครัฐและเอกชน จากการขยายโครงข่ายเส้นทางคมนาคม และการเข้ามาลงทุนของกลุ่มอสังหาฯ ที่เพิ่มมากขึ้นในจังหวัดนนทบุรี โดยเฉพาะบนทำเลพระราม 5 - นครอินทร์ - ราชพฤกษ์ ที่มีความสะดวกสบายในการเดินทาง และยังเป็นจุดเชื่อมต่อสู่ถนนสาทร ที่เป็นย่านธุรกิจ CBD ของกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ทำเลดังกล่าวยังถือเป็นแหล่งรวมโครงการบ้านพักอาศัยแนวราบระดับไฮเอนด์ ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มที่มีกำลังการจับจ่ายค่อนข้างสูง จึงเป็นโอกาสของไทวัสดุที่จะขยายความครอบคลุมสู่บริเวณนี้
• ตอบโจทย์ทุกบริการเรื่องบ้าน – กลุ่มลูกค้าไทวัสดุถือว่ามีความหลากหลายมากทั้งผู้รับเหมา ช่าง และเจ้าของบ้านทั่วไป ทำให้ไทวัสดุได้มีผู้เชี่ยวชาญประจำโซนต่างๆ เพื่อคอยให้คำปรึกษาและแนะนำสินค้า ให้ตรงความต้องการและปัญหาที่เกิดขึ้นมากที่สุด นอกจากนี้ไทวัสดุยังมีช่างมือชีพคอยให้บริการเรื่องงานบ้านทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซม ปรับปรุง ต่อเติม ตกแต่ง หรือติดตั้ง
• ตอบโจทย์พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ - ออฟไลน์ ด้วยการนำเสนอสินค้าที่ตรงใจกับผู้เข้ามาใช้บริการอย่างเป็นระบบ มีข้อมูลสำคัญก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ การดูหลังการขาย แพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งที่เป็นแอปพลิเคชัน และบราวเซอร์ที่มีความรวดเร็ว สามารถจัดส่งสินค้าได้แบบ
ออนไทม์ - เรียลไทม์ ซึ่งยังครอบคลุมไปถึงบริการงานช่างอย่าง v-FIX ที่ตอบโจทย์ปัญหาการซ่อมแซม การติดตั้งจากทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญอีกด้วย
“ไทวัสดุยังเดินกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์กับความยั่งยืน โดยที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนมา โดยตลอด โดยเฉพาะในมิติของชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ร้านไทวัสดุได้มีการรวบรวมและจัดหาสินค้าก่อสร้างและของตกแต่งบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาจัดจำหน่ายที่ร้านไทวัสดุทุกสาขาทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง และในทุก ๆ สาขาจะมีการติดตั้งหลังคาโซลาร์รูฟเพื่อลดค่าใช้จ่ายและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สำหรับไทวัสดุ x บีเอ็นบีโฮม สาขาครอินทร์ได้ดำเนินการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อประบบ On-grid ขนาด 999 KWp และยังได้ร่วมกับผู้ร่วมค้าในการให้การสนับสนุนสมทบทุนบริจาคให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางไผ่ เพื่อเสริมศักยภาพทางการแพทย์ในพื้นที่” นายสุทธิสาร กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับในปี 2566 จนถึงเดือนกันยายนนี้ไทวัสดุ ได้เปิดสาขาใหม่แล้วทั้งสิ้น 12 สาขา ได้แก่
1. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขารังสิต คลอง 4 2. ไทวัสดุ สาขาโคราช หัวทะเล 3. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาภูเก็ต ฉลอง 4. ไทวัสดุ สาขากำแพงเพชร 5. ไทวัสดุ สาขาชัยนาท 6. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเมืองเอก 7. ไทวัสดุ สาขาเลย 8. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาสมุทรปราการ 9. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเชียงใหม่ สันทราย 10. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาบางใหญ่ 11. ไทวัสดุ สาขาศรีสะเกษ และ
12. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขานครอินทร์ โดยยังมีแผนเปิดสาขาอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องในเดือนธันวาคมนี้
###
หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,648 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ 30 มิถุนายน 2566 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 59 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566)
No comments:
Post a Comment