กรุงเทพฯ 4 ธันวาคม 2566 — ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ต้อนรับคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิชาการทางด้านทางเดินอาหารกว่า 3,000 คนจาก 60 ประเทศเข้าร่วม “การประชุมวิชาการระบบทางเดินอาหารภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก” หรือ “Asian Pacific Digestive Week 2023 (APDW 2023)” ซึ่งเป็นงานประชุมทางด้านทางเดินอาหารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นำเสนอ และแลกเปลี่ยนความรู้ รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในโรคระบบทางเดินอาหารในระดับนานาชาติ เปิดโอกาสให้บุคลากรทางการแพทย์ไทยและนานาชาติโชว์ศักยภาพในเวทีนานาชาติ พร้อมร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ในระหว่างวันที่ 6-9 ธันวาคม 2566 นี้
Asian Pacific Digestive Week 2023 (APDW 2023) การประชุมทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินอาหาร และตับ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้ธีม “Optimizing Strategies For Maximizing Outcomes” เปิดโอกาสให้แพทย์ และนักวิชาการทางการแพทย์ ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลวิทยาการในการรักษาโรคทางเดินอาหาร และตับ ตลอดจนกลุ่มโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจัดประชุมในรูปแบบของการบรรยาย การบรรยายกลุ่ม การทำ Workshop และการสาธิตการใช้งานในรูปแบบออนไลน์ (Live Demonstration) ผ่านการส่งงานวิจัย และนวัตกรรมเข้าร่วมการคัดเลือก เพื่อนำเสนอทั้งในรูปแบบ การบรรยาย (Oral Presentation) และโปสเตอร์ (Poster Presentation) โดยการประชุมนี้มีกำหนดจัดขึ้นทุกปีในประเทศกลุ่มเอเชียแปซิฟิก โดยครั้งนี้นับเป็นโอกาส ครั้งที่ 2 ของประเทศไทยที่ได้รับเลือกให้เป็นประเทศเจ้าภาพ นับตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อปี 2555
ศาสตราจารย์ นายแพทย์สมชาย ลีลากุศลวงศ์ นายกสมาคมแพทย์ระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย และประธานการจัดงานประชุมวิชาการโรคระบบทางเดินอาหาร ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (APDW 2023) เผยว่า “จากข้อมูลสถิติทะเบียนมะเร็งประเทศไทย ปี 2565 โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับ และท่อน้ำดี รวมถึงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และลำไส้ตรง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าปัญหาสุขภาพทางเดินอาหาร เป็นสิ่งควรตระหนักในวงกว้าง และประชากรภายในประเทศควรเข้าถึงกระบวนการวินิจฉัยโรค และระบบการรักษาพยาบาลได้โดยง่าย ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้นับโอกาสอันดีหากทางรัฐบาลได้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านการวิจัย และนวัตกรรมทางด้านทางเดินอาหาร และเข้ามาสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเพื่อร่วมขับเคลื่อนวงการแพทย์ด้านสุขภาพ ทางเดินอาหารให้เติบโตไปอย่างยั่งยืน”
“ซึ่งในปีนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานการประชุม APDW อีกครั้ง จากความพร้อมใน 5 ด้านสำคัญ ประกอบด้วย 1) ความเชี่ยวชาญที่หลากหลายของคณะกรรมการ และบุคลากรทางการแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านระบบทางเดินอาหารของไทย 2) เครือข่ายทางการแพทย์ของแพทย์ไทยในระดับนานาชาติที่เข้มแข็ง 3) ความพร้อมในการจัดงานประชุม ทั้งในรูปแบบการจัดงานประชุมวิชาการ และนำเสนอผลงานวิจัย 4) เสน่ห์ของประเทศไทย และ 5) สถานที่การจัดงานประชุมที่สามารถรองรับการประชุมนานาชาติ ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมในครั้งนี้จะสามารถสร้างความประทับใจให้ผู้เข้าร่วมกว่า 3,000 คนจากทั่วโลก และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ผ่านการท่องเที่ยว และจับจ่ายใช้สอยของผู้เข้าร่วมประชุมอีกด้วย”
“สำหรับสถานที่จัดประชุมนั้น เราเลือกศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพราะเป็นสถานที่ที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศ พร้อมด้วยจุดเด่นต่างๆ อาทิ ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ที่ง่ายต่อการจัดหาที่พักชั้นนำ เพื่อรองรับผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งล้วนเป็นบุคคลสำคัญ ทั้งยังสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญอื่นๆ ได้สะดวกไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถยนต์ รถไฟฟ้า BTS หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT รวมถึงศักยภาพพื้นที่ของห้องประชุม และที่จอดรถที่สามารถรองรับคนจำนวนมาก” ศาสตราจารย์ นายแพทย์สมชาย กล่าวทิ้งท้าย
สุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยในการเป็นสถานที่จัดงานประชุมระดับนานาชาติ และต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วโลก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนบุคลากรของเราจะมีส่วนช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมประชุม และโชว์ศักยภาพในการเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการจัดงานระดับนานาชาติ ที่สร้างความสำเร็จให้กับผู้จัดงาน อันนำมาซึ่งชื่อเสียงของประเทศต่อไป”
#####
ติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมต่างๆ ภายในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ได้ที่ :
• เว็บไซต์ : www.qsncc.com
• เพจเฟซบุ๊ก : https://web.facebook.com/QueenSirikitNationalConventionCenter
• อินสตาแกรม : https://www.instagram.com/qsncc
• ทวิตเตอร์ : https://twitter.com/QSNCC
• ไลน์ออฟฟิเชียล : @qsncc
No comments:
Post a Comment