“วาสลีน” ชวนคนไทยเป็นฮีโร่ในชีวิตจริง เปิดตัว “โครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน” ตอกย้ำความจำเป็นเร่งด่วนของการบริจาคผิวหนังเพื่อต่อลมหายใจให้เพื่อนมนุษย์ พร้อมส่ง “วาสลีน ปิโตรเลียม เจลลี่ ลิมิเต็ด อิดิชัน” ทุกการซื้อ 1 กระปุกร่วมบริจาค 1 บาท ระดมทุนสนับสนุนสภากาชาดไทย - Siam Outlook

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Thursday, December 28, 2023

“วาสลีน” ชวนคนไทยเป็นฮีโร่ในชีวิตจริง เปิดตัว “โครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน” ตอกย้ำความจำเป็นเร่งด่วนของการบริจาคผิวหนังเพื่อต่อลมหายใจให้เพื่อนมนุษย์ พร้อมส่ง “วาสลีน ปิโตรเลียม เจลลี่ ลิมิเต็ด อิดิชัน” ทุกการซื้อ 1 กระปุกร่วมบริจาค 1 บาท ระดมทุนสนับสนุนสภากาชาดไทย

“วาสลีน” ชวนคนไทยเป็นฮีโร่ในชีวิตจริง เปิดตัว 
“โครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน” 
ตอกย้ำความจำเป็นเร่งด่วนของ
การบริจาคผิวหนังเพื่อต่อลมหายใจให้เพื่อนมนุษย์
พร้อมส่ง

“วาสลีน ปิโตรเลียม เจลลี่ ลิมิเต็ด อิดิชัน”
ทุกการซื้อ 1 กระปุกร่วมบริจาค 1 บาท ระดมทุนสนับสนุน
สภากาชาดไทย


กรุงเทพฯ
– 26 ตุลาคม 2566 – วาสลีน ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในการดูแลสุขภาพผิวดีทุกวัน เดินหน้าสานต่อภารกิจการทำสิ่งดีๆ ของ “ยูนิลีเวอร์” จับมือ “สภากาชาดไทย” และ “เซเว่น อีเลฟเว่น” เปิดตัว “โครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน” เชิญชวนผู้บริโภคร่วมเป็นฮีโร่ในชีวิตจริงที่มีส่วนช่วยในการมอบชีวิตใหม่ให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บบนผิวหนังอย่างรุนแรงอีกหลายร้อยชีวิต โดยสร้างการรับรู้ให้คนไทยตระหนักในความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนของการบริจาคผิวหนังสำหรับนำมาต่อลมหายใจให้กับผู้ที่ผิวหนังได้รับบาดเจ็บเสียหายอย่างรุนแรงท่ามกลางสภาวะขาดแคลนผิวหนังสำรองในธนาคารผิวหนังของสภากาชาดไทย พร้อมเปิดตัว “วาสลีน ปิโตรเลียม เจลลี่ ลิมิเต็ด อิดิชัน” โดยทุกๆ 1 กระปุกที่จำหน่ายได้ วาสลีนจะบริจาคเงิน 1 บาทสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อสาธารณประโยชน์ของสภากาชาดไทย


นางสาวสถิรวรรณ เอี่ยมอ่อง ผู้นำฝ่ายพัฒนาตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผิวกาย บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด
กล่าวว่า “ในฐานะองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างยั่งยืน ยูนิลีเวอร์มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนให้กับทุกคน ความมุ่งหวังประการหนึ่งของเราคือการส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพดี มีความมั่นใจ และมีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ด้วยแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยยูนิลีเวอร์ครองความเป็นผู้นำในตลาดสกินแคร์ด้วยวาสลีน แบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์การดูแลสุขภาพผิวมายาวนานกว่า 150 ปี สำหรับประเทศไทยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจนผิวหนังได้รับความเสียหายรุนแรงจากเหตุไม่คาดฝันเป็นจำนวนมาก วาสลีนซึ่งเชื่อว่าการมีสุขภาพผิวดีจะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างไร้ขีดจำกัด จึงต้องการเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยสร้างการรับรู้ถึงความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนของการบริจาคผิวหนัง เพื่อให้ธนาคารผิวหนังมีผิวหนังสำรองเพียงพอต่อการนำไปช่วยชีวิตคน โดยเราได้ร่วมกับสภากาชาดไทยและเซเว่น อีเลฟเว่น ริเริ่มและดำเนินโครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน เพื่อผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการบริจาคผิวหนังเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย และเสริมสร้างโลกใบใหม่ที่ซึ่งผิวของคนทั่วโลกได้รับการดูแลรักษาและมีสุขภาพดีอย่างแท้จริง โดยผนึกพลังอินฟลูเอนเซอร์ทั้งสายบันเทิง ความงาม ผิวหนัง รวมทั้งสายเกมมิ่ง เพื่อให้สามารถสื่อสารไปยังคนทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุม พร้อมทั้งขับเคลื่อนให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการสร้างสรรค์สังคมที่ผิวของทุกคนได้รับการดูแลรักษาให้มีสุขภาพดี โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับโครงการผ่านการซื้อผลิตภัณฑ์ ‘วาสลีน ปิโตรเลียม เจลลี่ ลิมิเต็ด อิดิชัน’ โดยวาสลีนจะบริจาคเงินสมทบแก่สภากาชาดไทย 1 บาทสำหรับทุกๆ 1 กระปุกที่จำหน่ายได้ ซึ่งจะช่วยให้สภากาชาดไทยในฐานะองค์กรการกุศลระดับชาติสามารถดำเนินงานด้านสาธารณประโยชน์และเป็นที่พึ่งของสังคมไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไป”

“โครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน” มุ่งสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมให้คนไทยเห็นความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนของการบริจาคผิวหนัง เพื่อช่วยเพิ่มและคงปริมาณผิวหนังสำรองในธนาคารผิวหนังของสภากาชาดไทยให้เพียงพอสำหรับนำไปรักษาอาการบาดเจ็บรุนแรงบนผิวหนัง พร้อมทั้งขับเคลื่อนให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการสร้างสรรค์สังคมที่ผิวของทุกคนได้รับการดูแลรักษาให้มีสุขภาพดีซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับคนไทยในท้ายที่สุด โดยวาสลีนได้รับความร่วมมือจากเกมเมอร์แถวหน้าของไทยที่ต่างรู้กันดีว่า “สกิน” ของคาแรคเตอร์ในเกมเป็นสิ่งมีค่าที่ต้องใช้เวลาและความเพียรพยายามกว่าจะได้มา ทั้งยังเป็นสิ่งที่สะท้อนศักยภาพและสำคัญต่อการแสดงออกถึงตัวตนของผู้เล่นแต่ละคน จึงพร้อมใจกันสละ “สกิน” พิเศษในเกมที่ตนเองชื่นชอบ แทนการกระทำเชิงสัญลักษณ์ในการบริจาคผิวหนัง นอกจากนี้ “โครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน” ยังได้แพทย์ผิวหนังและอินฟลูเอนเซอร์หลากหลายสายมาร่วมเป็นกระบอกเสียงอีกด้วย


สำหรับ “วาสลีน ปิโตรเลียม เจลลี่ ลิมิเต็ด อิดิชัน” เจลลี่บริสุทธิ์และเข้มข้น 100% ซึ่งสามารถใช้ได้แม้กับผิวแพ้ง่ายหรือผิวเด็ก วางจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ โดยบนบรรจุภัณฑ์มีข้อความเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมเป็นฮีโร่ในชีวิตจริงผ่าน “โครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน” เพียงสแกน QR Code ไปยังไมโครไซต์ของโครงการหรือเข้าไปที่ www.vaseline-skinsforskin.com จะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเรื่องราวเกี่ยวกับการบริจาคผิวหนังอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งมีลิงก์ให้ผู้ที่สนใจสามารถคลิกเข้าไปลงทะเบียนแสดงความจำนงเป็นผู้บริจาคผิวหนังได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว


นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย
กล่าวว่า “สภากาชาดไทยมีภารกิจในการให้บริการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสภาพ สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ประชาชน โดยได้จัดตั้งธนาคารผิวหนัง (Skin bank) ขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2558 เพื่อจัดเก็บผิวหนังจากผู้บริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อที่เสียชีวิตสำหรับให้บริการแก่โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ที่ต้องการนำไปใช้รักษาแผลผู้ป่วยไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือประสบอุบัติเหตุขั้นรุนแรง เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและลดโอกาสพิการหรือเสียชีวิต พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติให้แก่ผู้ป่วย แต่ผิวหนังสำรองในธนาคารผิวหนังของสภากาชาดไทยกำลังตกอยู่ในสภาวะขาดแคลนจนไม่สามารถส่งมอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ นำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้ในทันที การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการบริจาคผิวหนังจึงเป็นวาระสำคัญเร่งด่วนที่ต้องได้รับการส่งเสริมจากทุกภาคส่วนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ในโอกาสนี้ สภากาชาดไทยขอขอบคุณวาสลีนที่ได้ริเริ่มโครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน และขอบคุณเซเว่น อีเลฟเว่น ที่อำนวยความสะดวกเป็นช่องทางจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ‘วาสลีน ปิโตรเลียม เจลลี่ ลิมิเต็ด อิดิชัน’ เพื่อระดมเงินทุนสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ร่วมถ่ายทอดภารกิจของสภากาชาดไทยผ่านโครงการ “สกินส์ ฟอร์ สกิน” ที่เป็นจุดเริ่มต้นในการดูแลผิวเพื่อสร้างความสำคัญและเกิดคุณค่าเมื่อได้ร่วมบริจาคผิวหนังเพื่อผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อให้พวกเขาได้มีโอกาสใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขต่อไป”


รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์ รองผู้อำนวยการ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย
กล่าวว่า “ผิวหนังคือปราการด่านแรกของร่างกาย เมื่อได้รับความเสียหายย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ หากผู้ที่ผิวหนังได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงไม่ได้รับผิวหนังมาปะรักษาบาดแผล จะมีโอกาสเสียชีวิตสูงเนื่องจากการติดเชื้อและการสูญเสียโปรตีน แร่ธาตุ และน้ำเหลือง การปลูกถ่ายผิวหนังจะสามารถช่วยลดระยะเวลาการรักษาให้เร็วขึ้น ลดความเจ็บปวดจากการล้างและปิดแผลด้วยผ้าก๊อซทุกวัน ช่วยให้แผลไม่หดรั้งตามข้อพับและข้อต่อจึงลดโอกาสพิการและเพิ่มโอกาสรอดชีวิต เราเชื่อว่าโครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน จะมีส่วนช่วยสร้างการรับรู้ในวงกว้างเกี่ยวกับการบริจาคผิวหนัง ทำให้คนในสังคมรับรู้ว่ามีวิธีกระบวนการรักษาลักษณะนี้ในโรงพยาบาล รวมถึงช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนผิวหนังสำรองในธนาคารผิวหนัง ซึ่งจะทำให้สภากาชาดไทยมีความพร้อมอยู่เสมอที่จะส่งมอบผิวหนังไปทำการรักษาเยียวยาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงทีเมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น”

ทั้งนี้ ธนาคารผิวหนังดำเนินงานในรูปแบบการขอรับบริจาค เช่นเดียวกับการขอรับบริจาคอวัยวะ หรือเนื้อเยื้อต่างๆ ซึ่งต้องได้รับการยินยอมจากญาติของผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้ว โดยผู้ที่สนใจและต้องการบริจาคผิวหนังสามารถแจ้งความประสงค์ไปยังธนาคารผิวหนังของสภากาชาดไทยได้โดยตรง หรือดาวน์โหลดเอกสารแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะได้ที่เว็บไซต์ของสภากาชาดไทย กรอกข้อมูลส่วนบุคคลให้ครบถ้วนพร้อมทำเครื่องหมายในช่องสี่เหลี่ยมที่ระบุรายละเอียดการบริจาคว่า ‘อวัยวะทุกส่วนของร่างกายที่ใช้เป็นประโยชน์ได้’ แล้วส่งไปรษณีย์มาที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาเพื่อให้ยืนยันความประสงค์อีกครั้ง


ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ “โครงการสกินส์ ฟอร์ สกิน” เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยที่ได้รับการบาดเจ็บทางผิวหนังขั้นรุนแรงและสนับสนุนการทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์ของสภากาชาดไทยกับ “วาสลีน ปิโตรเลียม เจลลี่ ลิมิเต็ด อิดิชัน” วางจำหน่ายแล้วที่เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศไทยแล้ว โดยทุกการซื้อหนึ่งกระปุก วาสลีนร่วมบริจาค 1 บาทสมทบทุนให้สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด และสามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook.com/VaselineThailand หรือ https://www.vaseline-skinsforskin.com/

                                                  ###
เกี่ยวกับยูนิลีเวอร์

ยูนิลีเวอร์เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำของโลกด้านผลิตภัณฑ์ความงามและการดูแลส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม โดยมียอดขายในกว่า 190 ประเทศและเข้าถึงผู้บริโภค 3.4 พันล้านคนต่อวัน มีพนักงาน 127,000 คน สร้างยอดขายได้ 60.1 พันล้านยูโรในปี 2565 กว่าครึ่งของพื้นที่บริการของบริษัทอยู่ในประเทศกำลังพัฒนาและตลาดใหม่ ยูนิลีเวอร์มีประมาณ 400 แบรนด์ที่พบอยู่ในทุกบ้านทั่วโลก รวมถึง บรีส, ซันซิล, คนอร์, โดฟ, ซันไลต์, วาสลีน, โอโม, ไอศกรีมวอลล์, ลักส์, ซิตร้า, โคลสอัพ, คอมฟอร์ท, เทรซาเม่, เคลียร์, แอ็กซ์, เรโซน่า, พอนด์ส และแบรนด์อื่นๆ เช่น ไลฟ์บอย, เลิฟ บิวตี้ แอนด์ แพลนเน็ต, เซเว่นท์เจนเนอเรชั่น, เฮลล์แมนน์ และเซิร์ฟ

วิสัยทัศน์ของเราคือการเป็นผู้นำระดับโลกในธุรกิจที่ยั่งยืน และเพื่อแสดงให้เห็นว่าโมเดลธุรกิจที่มีเป้าหมายและเหมาะสมกับอนาคตของเรานั้นขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าได้อย่างไร เรามีประเพณีอันยาวนานในการเป็นธุรกิจที่ก้าวหน้าและมีความรับผิดชอบ ย้อนกลับไปในสมัยของ วิลเลียม ลีเวอร์ (William Lever) ผู้ก่อตั้งของเรา ซึ่งเปิดตัวแบรนด์สบู่ ซันไลต์ (Sunlight Soap) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีเป้าหมายแห่งแรกของโลกเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว และเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารบริษัทของเราในปัจจุบัน

Unilever Compass กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืนของเรา ตั้งขึ้นเพื่อช่วยให้เราส่งมอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ โดยมุ่งมั่นที่จะ:

• ทำให้สุขภาพของโลกดีขึ้น

• ทำให้สุขภาพ ความมั่นใจ และความเป็นอยู่ของผู้คน และ

• มีส่วนทำให้เกิดโลกที่ยุติธรรมและเปิดกว้างทางสังคมมากขึ้น

ตลอดเวลากว่า 90 ปี ที่ยูนิลีเวอร์ประกอบกิจการในประเทศไทย เรามีเป้าหมายที่มุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมและตอบโจทย์ความต้องการให้กับผู้บริโภคทุกๆคนอย่างสูงสุด จากการสนับสนุนจากคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ยูนิลีเวอร์ได้เติบโตอย่างมั่นคงและได้กลายมาเป็นอันดับหนึ่งบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย โดย 99% ของครัวเรือนไทย 25 ล้านครัวเรือนใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา 3 ครั้งต่อวัน ที่สำคัญ ยูนิลีเวอร์มีความภาคภูมิใจที่ได้รับการยกย่องจากยูนิเวอร์ซัมว่าเป็นนายจ้างดีเด่นอันดับ 1 ติดต่อกันถึง 6 ปี สำหรับนักศึกษา และได้รับรางวัลจาก HR Asia ในฐานะหนึ่งในบริษัทที่น่าร่วมงานมากที่สุดในประเทศไทยเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน (พ.ศ. 2562 - 2566)
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยูนิลีเวอร์: https://www.unilever.co.th/

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages