• ออกแบบและพัฒนาโดยวิศวกรระดับแนวหน้าของไทรอัมพ์ โดยทำงานร่วมกับแชมป์โมโตครอสอย่างใกล้ชิด
• เตรียมพร้อมจำหน่ายผ่านผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์โมโตครอส (ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย) รวมทั้งยังมีการพัฒนาระบบจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่ออนไลน์ที่สามารถสั่งซื้อได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมดโดยไทรอัมพ์ โดยได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับแชมป์โลกของการแข่งขัน ได้แก่ Ricky Carmichael และ Iván Cervantes ทั้งนี้รถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สี่จังหวะรุ่นใหม่นี้ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด มีระบบการส่งกำลังที่ได้รับพัฒนาเพื่อการแข่งขัน ส่งมอบสมรรถนะขั้นสูง อีกทั้งยังมีโครงอะลูมิเนียมที่เป็นเอกลักษณ์ที่มีขนาดกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ พร้อมส่วนประกอบที่ดีที่สุดในตลาดที่ติดตั้งมาให้
ด้วยสไตล์ที่มุ่งเน้นความดุดัน TF 250-X จึงมีลักษณะเพรียวบาง แต่เต็มไปด้วยความโดดเด่น ที่พร้อมสร้างการจดจำได้ทันทีเมื่ออยู่บนสนามแข่ง ด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายและมีน้ำหนักเบา ผสานเข้ากับกราฟิก Triumph Racing สีเหลืองและสีดำอันโดดเด่น
ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์โมโตครอสใหม่ของไทรอัมพ์ (ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย) จะนำเสนอการขาย การบริการอะไหล่ และเครื่องแต่งกายเฉพาะกลุ่มดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีระบบจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่ออนไลน์ที่สามารถสั่งซื้อได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย โดยระบบดังกล่าวได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อพร้อมจัดส่งสินค้าด่วนได้โดยตรง รวมถึงสามารถในการติดตามความคืบหน้าในการสั่งซื้อ
มร. สตีฟ ซาร์เจนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า “การเปิดตัว TF 250-X ถือเป็นที่สุดแห่งความมุ่งมั่นและการลงทุนที่สำคัญของไทรอัมพ์ ที่ไม่เพียงแต่นำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่มาสู่โลกโมโตครอสเท่านั้น แต่ยังส่งมอบประสิทธิภาพในการแข่งขันที่มุ่งเน้นสู่ชัยชนะ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เรามุ่งเน้นไปที่การส่งมอบแพ็คเกจที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับทุกระดับการขับขี่ ตั้งแต่ระดับแชมป์ไปจนถึงมือสมัครเล่น
รถจักรยานยนต์คันนี้ได้รับการพัฒนาโดยไทรอัมพ์ 100% เริ่มตั้งแต่การออกแบบไปสู่การพัฒนา และผลิตโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโครงรถและเครื่องยนต์ระดับแนวหน้าของโลก พร้อมด้วยการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญที่เป็นถึงแชมป์โมโตครอส เราเริ่มต้นโปรเจคนี้ด้วยการออกแบบใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ใหม่ โครงรถใหม่ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่”
ระบบส่งกำลังสำหรับรถจักรยานยนต์แข่งสมรรถนะสูง
ไทรอัมพ์ ได้พัฒนาระบบส่งกำลังเพื่อการแข่งขันสมรรถนะสูงแบบใหม่หมด ซึ่งเป็นลูกสูบเดี่ยวแบบ 4 จังหวะสำหรับการแข่งขัน ซึ่งมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ด้วยลูกสูบอะลูมิเนียมและวาล์วไทเทเนียม เครื่องยนต์ยังมีการเคลือบคาร์บอนแรงเสียดทานต่ำคล้ายเพชร ฝาครอบแมกนีเซียมน้ำหนักเบา และคลัตช์ Exedy
ระบบจัดการเครื่องยนต์ระดับสูงที่สามารถปรับแต่งได้ด้วยแอปฯ MX Tune Pro ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับค่า Map เครื่องยนต์ได้แบบเรียลไทม์ แสดงผลข้อมูลเซ็นเซอร์เครื่องยนต์แบบเรียลไทม์ และมีฟังก์ชั่นวินิจฉัยข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ โดยควบคุมได้ผ่านระบบการจัดการเครื่องยนต์ที่ตั้งโปรแกรมไว้
โครงรถอะลูมิเนียม
โครงรถอะลูมิเนียมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เฟรมรถน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรงสูงพร้อมโครงเหล็กแขนคู่ ที่ได้ออกแบบมาเพื่อมอบความสมดุล ผสานกับประสิทธิภาพ, มวลของตัวรถ และความยืดหยุ่นที่เหมาะสม จึงทำให้น้ำหนักรวมของรถจักรยานยนต์ TF 250-X คันนี้สร้างมาตรฐานใหม่ โดยมีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนัก (PWR) ที่ดีที่สุดในประเภทเดียวกัน นอกจากนี้ยังมอบความสามารถในการปรับแต่งในระดับสูงเพื่อให้เหมาะกับผู้ขับขี่และสไตล์ที่แตกต่างกัน
สเปคระดับสูง
รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ TF 250-X มีสเปคระดับพรีเมียมรอบคัน ถือเป็นรถจักรยานยนต์ระดับแนวหน้าของกลุ่ม ทั้งระบบกันสะเทือนสเปคสูงของ KYB โช้คคอยล์ AOS ขนาด 48 มม. รวมถึงแคลมป์สามตัวที่ทำจากอะลูมิเนียม 7075-T6 และโช้คหลังคอยล์สปริง
ระบบเบรกระดับพรีเมียมของ Brembo ประกอบด้วยคาลิปเปอร์คู่หน้าขนาด 24 มม. คาลิปเปอร์หลังลูกสูบเดี่ยวขนาด 26 มม. และดิสก์เบรกหน้า Galfer ขนาด 260 มม. และดิสก์เบรกหลังขนาด 220 มม. ขอบล้ออะลูมิเนียมซีรีส์ DirtStar 7000 และดุมล้ออะลูมิเนียมกลึง พร้อมยาง Mid-soft ของ Pirelli Scorpion MX32 รวมทั้งแท่งแกนคาร์บอน Pro-Taper ACF และกริปล็อค ODI บนด้ามจับ ทำให้รถจักรยานยนต์คันนี้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
อุปกรณ์เสริมสำหรับการแข่งขัน
นอกเหนือจากสเปคระดับสูงที่รวมอยู่ในมาตรฐานแล้ว ไทรอัมพ์ยังได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ระดับพรีเมียมที่ยิ่งใหญ่ เพื่อผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถของรถจักรยานยนต์ให้ดียิ่งขึ้น
อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ ประกอบด้วย:
• ท่อไอเสียไทเทเนียมของอาคาโพวิค (Akrapovic)
• อุปกรณ์ช่วยออกตัวรถ XTrig
• กล่องควบคุมการออกตัว Athena LC-GPA พร้อมระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction control) และการตั้งค่าการควบคุมการออกตัวที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ และไฟ LED แสดงความเร็วรอบเครื่องยนต์
• ระบบ Wi-Fi MX Tune Pro
• เบาะนั่งกันลื่นประสิทธิภาพสูง พร้อมวัสดุหุ้มเบาะนั่งแบบกันลื่น
• ชุดเปลี่ยนตัวถัง
นอกจากนี้ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์โมโตครอสของไทรอัมพ์จะวางจำหน่ายเสื้อผ้าคอลเลคชันใหม่ ซึ่งพร้อมจำหน่ายคู่กับรถจักรยานยนต์ TF 250-X รุ่นใหม่ ทั้งนี้สินค้าดังกล่าวไทรอัมพ์ได้ร่วมมือกับ Alpinestars รวมถึงรองเท้าและเครื่องแต่งกายของ Motocross และ Enduro (ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย)
ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ Triumph MX Centers
ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2024 ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญของไทรอัมพ์เกี่ยวกับ Motocross และ Enduro แห่งใหม่จะเปิดทำการในยุโรปออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา และจะเปิดอีก 300 แห่งภายในสิ้นปี 2024 โดยศูนย์เหล่านี้เป็นศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญทางออฟโรดโดยเฉพาะที่ได้รับการฝึกอบรม ที่พร้อมให้บริการด้านการขาย การบริการ อะไหล่ เสื้อผ้า และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน
เสริมด้วยระบบการจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์เสริมเฉพาะตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ซึ่งคุณสามารถเลือกชมแคตตาล็อกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เสริมใหม่นี้ได้ที่เว็บไซต์ไทรอัมพ์ โดยได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นผู้ขับขี่จึงสามารถค้นหาอะไหล่ และสามารถสั่งซื้อได้ขณะอยู่ในสนามแข่ง อีกทั้งผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกสิ่งที่ต้องการ พร้อมตรวจสอบราคาและความพร้อมของสินค้า ไปจนถึงการสั่งซื้อแบบด่วน ที่สามารถเลือกการจัดส่งแบบมาตรฐาน หรือเลือกรับสินค้าตรงจากผู้แทนจำหน่ายของไทรอัมพ์ที่อยู่ในพื้นที่ได้อย่างสะดวกสบาย
สายเลือดการแข่งขันขนานแท้
ทีมวิศวกรที่มีชื่อเสียงระดับโลกของไทรอัมพ์นำความเชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรมที่แม่นยำ, การพัฒนานวัตกรรม และด้านคุณภาพที่ได้รับรางวัลมากมาย โดยทีมเหล่านี้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทรอัมพ์ ซึ่งรวมถึงการแข่งขันชิงแชมป์ Moto2TM ที่ใช้เครื่องยนต์ไทรอัมพ์ซึ่งพลิกประวัติศาสตร์การแข่งขันในคลาสเดียวกัน โดยสามารถสร้างสถิติความเร็วต่อรอบของ Moto2 TM และสร้างสถิติความเร็วสูงในในสนามแข่งทั่วโลก โดยตั้งแต่การแข่งรถจักรยานยนต์รายการ World Supersport ไปจนถึงรายการ Isle of Man TT ตลอดจนการคว้าชัยชนะในการแข่งขัน Supersport หลายครั้ง และชัยชนะที่รายการ Daytona 200 โดยทีมวิศวกรกลุ่มนี้มุ่งมั่นเป็นอย่างมากเพื่อให้ได้รับมาซึ่งความสำเร็จสูงสุด
นอกจากนี้ทีมวิศวกรกลุ่มนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการโมโตครอส รวมถึง Ricky Carmichael นักบิด MX ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขาได้ทำงานร่วมกับทีมโครงรถและเครื่องยนต์ของไทรอัมพ์ตลอดการผลิต เริ่มตั้งแต่การกำหนดขอบเขต การสร้างต้นแบบ การทดสอบ และการพัฒนา
Ricky Carmichael กล่าว “TF 250-X นี้นับเป็นรถจักรยานยนต์อันน่าเหลือเชื่อ นี่คือรถจักรยานยนต์ที่เราตั้งใจจะสร้างขึ้นมา เมื่อคุณพวกถึงโครงรถ ระบบส่งกำลัง รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆ ล้วนแล้วแต่ดีที่สุดที่คุณต้องการ และไม่ว่าคุณจะเป็นนักบิดมืออาชีพหรือสมัครเล่น คุณจะไม่ผิดหวังกับรถคันนี้ ผมรักรถคันนี้ นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่มีแบรนด์อันเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้”
ในขณะที่ Iván Cervantes แชมป์โลก Enduro 5 สมัย และแชมป์ MX ของสเปน 5 สมัย และผู้จบในการแข่งขันรายการ Dakar ยังได้ร่วมงานในโครงการนี้ ร่วมกับทีมงานภายในของไทรอัมพ์ เพื่อนำประสบการณ์ของเขามาสู่การพัฒนาและสร้างต้นแบบรถจักรยานยนต์ของไทรอัมพ์อีกด้วย
ด้วยทีมงานที่สมบูรณ์แบบ และรถจักรยานยนต์ TF 250-X ที่พร้อมจะเผยโฉมและประสิทธิภาพสู่สาธารณชน ไทรอัมพ์จึงอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการเริ่มต้นการแข่งขันรถจักรยานยนต์โมโตครอสในปี 2024 เริ่มต้นที่รายการอันทรงเกียรติ FIM Motocross World Championship 2024 ด้วยทีม Triumph Racing ที่ได้รับการสนับสนุนจากโรงงาน ภายใต้การดูแลรของ Thierry Chizat-Suzzoni หนึ่งในเจ้าของทีมที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการ ซึ่งจะเข้าร่วมการแข่งขันด้วยรถจักรยานยนต์ MX 250 ซีซี 4 จังหวะรุ่นใหม่ของไทรอัมพ์สองคันในคลาส MX2 ปี 2024 โดยได้รับการสนับสนุนใหม่จากแบรนด์ Monster Energy
เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ชัยชนะ ผู้จัดการทีม Vincent Bereni จะเป็นผู้นำทีมงานด้านเทคนิคที่มีประสบการณ์สูง ซึ่งมุ่งเน้นในการนำไทรอัมพ์ไปสู่จุดสูงสุดของสมรรถนะการแข่งขัน โดยประวัติการแข่งขันในอดีตของ Thierry และ Vincent บ่งบอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงด้วยการคว้าแชมป์ MXGP World Championship มากกว่า 80 ครั้ง
นอกจากนี้ยังมี Clément Desalle ผู้เข้าร่วมทีมในฐานะนักขี่ทดสอบ และเป็นนักแข่งที่มีประสบการณ์สูง โดยแข่งขันในระดับสูงสุดในรายการ MXGP World Championship เป็นเวลาถึง 15 ปี ในฐานะหนึ่งในนักแข่งที่มีความคงเส้นคงวามากที่สุดในซีรีส์นี้ เขาคว้าตำแหน่งรองแชมป์ได้สามครั้ง เป็นอันดับสามในการแข่งขันชิงแชมป์โลกสามครั้ง และสองครั้งเข้าเส้นชัยในอันดับสี่ ครองอันดับสูงสุดของโพเดี้ยม 23 ครั้งในอาชีพของเขา ตลอดจนยังครองตำแหน่งแชมป์ Pro Open Belgian อีกด้วย
ทีม Triumph Racing US SuperMotocross World Championship นำโดย Bobby Hewitt ผู้เต็มไปด้วยความสามารถ และผู้จัดการทีม Steve 'Scuba' Westfall ซึ่งสองคู่หูนี้ได้พิสูจน์มาอย่างท่วมท้นในการเอาชนะการแข่งขัน พวกเขานำทีมที่แข็งแกร่งเข้ามาเสริมทัพ รวมถึง Dave Arnold ซึ่งเป็นตำนานของ AMA Hall of Fame สำหรับการพัฒนาโครงรถ รวมทั้ง Dudley Cramond ที่มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ในการพัฒนาเครื่องยนต์ที่ชนะการแข่งขัน ทั้งนี้ทีมกลุ่มนี้จะลงสนามแข่งขันโดยใช้รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่น TF 250-X's ใหม่ สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์โลกตลอดปี 2024
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.triumphmotorcycles.co.uk/motocross
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดตัว TR 450-X และกลุ่มผลิตภัณฑ์ Enduro ที่หลายคนตั้งตารอคอยจากไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ โปรดติดตามได้ในปี 2024
###
หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ
เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์
• ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1902 และเพิ่งฉลองครบรอบ 120 ปี แห่งการเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไปในปี 2022 เป็นเวลากว่าสามทศวรรษ ที่ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ซึ่งมีฐานการผลิตใน Hinckley, Leicestershire และได้มีการผลิตรถจักรยานยนต์ที่เป็นต้นแบบ ซึ่งเป็นการผสมผสานดีไซน์ คุณลักษณะ เสน่ห์ และสมรรถนะเฉพาะตัวเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
เรื่องราวความสำเร็จระดับโลกของแบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษ
• ด้วยรถจักรยานยนต์มากกว่า 83,389 คันที่ส่งมอบในปี 2022 และมุ่งสู่การมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 800 รายทั่วโลกในปี 2023 ทำให้ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ
• ในปัจจุบัน ไทรอัมพ์ มีพนักงานทั่วโลกกว่า 3,000 คน และมีสาขาตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร อเมริกาเหนือ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน (สแกนดิเนเวีย) เบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย จีน และไทย รวมถึงเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายอิสระ ไทรอัมพ์ มีโรงงานผลิตอยู่ใน Hinckley, Leicestershire และประเทศไทย รวมถึงโรงงาน CKD ในบราซิลและอินเดีย
กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับโลก
• ด้วยการมุ่งเน้นที่เฉียบคมในสิ่งที่นักบิดทั่วโลกกำลังมองหา ความหลงใหลในการส่งมอบการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้าทุกคน และความใส่ใจในรายละเอียดที่มอบรถจักรยานยนต์คุณภาพสูงสุด Triumph นำเสนอรถจักรยานยนต์ชั้นนำประเภทต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ครอบคลุม รถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิก โรดสเตอร์ และรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ ตั้งแต่ซีรีส์ TR 400cc ที่สามารถเข้าถึงได้ไปจนถึง Rocket 3 ที่มีเครื่องยนต์ 2500cc อันทรงพลัง ทุกรุ่นเป็นตัวอย่างของสไตล์ คุณภาพ และสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์
• มอบการขับขี่ที่สนุกสนาน คล่องตัว และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักขี่ทุกวัยและทุกระดับประสบการณ์ เช่น Speed 400 และ Scrambler 400 X เปิดตัวในปี 2023 พร้อมแพลตฟอร์มเครื่องยนต์เดี่ยวใหม่ล่าสุด (TR Series) ซึ่งแสดงถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมส่งมอบประสบการณ์ให้กับนักบิดรุ่นใหม่
• Modern Classics มาพร้อมเครื่องยนต์สูบคู่ Bonneville ในตำนานของ Triumph ที่ตั้งชื่อ เพื่อเฉลิมฉลองสถิติความเร็วบนบกของ Triumph ในปี 1956 บน Bonneville Salt Flats ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา Bonneville เป็นรถซูเปอร์ไบค์สัญชาติอังกฤษดั้งเดิมและเป็นผู้ชนะการแข่งขันในทันที โดยได้รับเลือกจากนักขี่รถจักรยานยนต์ชื่อดังในอดีต ที่มีความโดดเด่นด้านการควบคุมและสไตล์ ปัจจุบัน รถตระกูล Bonneville ได้รับการพัฒนา โดยมีเทคโนโลยีที่เน้นผู้ขี่เป็นหลัก และสไตล์คัสตอมสุดเท่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย Bonneville Bobber, Speedmaster, Thruxton RS, Speed Twin 900, Speed Twin 1200, Scrambler 900, Scrambler 1200 และ Bonneville T120 และ T100 อันเป็นเอกลักษณ์
• ตระกูล Roadsters เริ่มต้นด้วย Trident 660 ที่คล่องตัวและเป็นที่นิยม ตามด้วย Street Triple 765 และสุดท้ายคือ Speed Triple 1200 RS และ RR
• สำหรับนักขี่แบบผจญภัย Triumph มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ Tigers ระดับตำนานครบทุกรุ่น โดยเริ่มตั้งแต่ Tiger Sport 660 ไปจนถึงกลุ่ม Tiger 850 Sport และ Tiger 900 และสุดท้ายคือกลุ่ม Tiger 1200
• ในปี 2023 ไทรอัมพ์ ได้ประกาศ การทำลานสถิติที่สุดของโลก “กินเนส เวิลด์ เรคคอร์ด” (GUINNESS WORLD RECORDS™) ครั้งใหม่อย่างเป็นทางการ สำหรับการขี่รถจักรยานยนต์รายบุคคลระยะทางไกลที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยไทรอัมพ์รุ่น Tiger 1200 GT Explorer บนสนามทดสอบความเร็วสูง Nardò Technical Center ในอิตาลี โดยอิวาน เซร์บันเตส (Iván Cervantes) แชมป์โลก Enduro 5 สมัย และ ไทรอัมพ์ โกลบอล แบรนด์แอมบาสเดอร์ (Triumph Global Ambassador) ที่สามารถทำสถิติระยะทางรวมมากกว่า 4,012 กิโลเมตร ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ทำลายสถิติเดิมที่ 3,406 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่าสถิติเดิมที่ทำไว้กว่า 600 กิโลเมตร
ไทรอัมพ์ เรซซิ่ง
• Triumph มีประวัติศาสตร์การแข่งรถอันรุ่งโรจน์ โดยเข้าแข่งขันและชนะการแข่งขันในเกือบทุกประเภทและทุกสาขาของความสำเร็จด้านการแข่งขันรถจักรยานยนต์ นับตั้งแต่การคว้าแชมป์ Isle of Man TT ครั้งที่สองในปี 1908 ไปจนถึงความสำเร็จบนท้องถนนและสนามแข่งในยุค 1960 ทั้งในยุโรปและอเมริกา ไปจนถึงความสำเร็จในการแข่งรถร่วมสมัยด้วยรถ Triumph รายการ SuperSport และ World SuperSport racing ในปี 2014 และ 2015 ชัยชนะรายการ Isle of Man SuperSport TT ในปี 2014 และ 2019 โดย Gary Johnson และ Peter Hickman บวกกับความเร็วเฉลี่ยมากกว่า 130 ไมล์ต่อชั่วโมงในปี 2023 โดย Peter Hickman บน Triumph STR765 ของเขา ตลอดจนชัยชนะรอบสุดท้ายอันน่าตื่นเต้นในการแข่งขัน Daytona 200 ในตำนานโดย Brandon Paasch บน Street Triple 765 ในปี 2023
• ตำนานการแข่งรถของ Triumph ยังคงดำเนินต่อไปในฐานะซัพพลายเออร์เครื่องยนต์แต่เพียงผู้เดียวในการแข่งขัน FIM Moto2™ World Championship นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2019 Triumph Motorcycles มอบรถสามสูบ 765cc ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อการแข่งขันให้กับทุกทีม โดยแต่ละคันมีพื้นฐานมาจากขุมพลัง Street Triple RS ชั้นนำของคลาส นิยามใหม่ของคลาสนี้ Triumph ทำลายสถิติครั้งแล้วครั้งเล่าในปีแรก รวมถึงความเร็วสูงสุด Moto2™ ที่ +300 กม./ชม. เป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ ผลตอบรับที่ยอดเยี่ยม และความร่วมมือที่ Triumph มีกับนักบิดและทีมของพวกเขา และการตอบรับอย่างเหลือเชื่อจากแฟน ๆ Triumph ทั่วโลก ทำให้ Triumph และ Dorna ตัดสินใจขยายความสัมพันธ์ในปี 2021 และอีกครั้งในปี 2023 ด้วยการลงนาม สัญญาฉบับใหม่ต่อการแข่งขันอีก 5 ปี (2024-2029)
• ในปี 2022 ไทรอัมพ์เปิดเผยความร่วมมือกับ Thierry Chizat-Suzzoni ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของทีมที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จมากที่สุดในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ ซึ่งกำลังสร้าง 2 รถจักรยานยนต์ MX แบบ 4 จังหวะ ขนาด 250 ซีซี รุ่นใหม่ของไทรอัมพ์สำหรับการแข่งขันในรุ่น MX2 คลาส 250 ซีซี ฤดูกาล 2024 และจะเพิ่มรุ่น MXGP คลาส 450 ซีซี ในฤดูกาล 2025 และหัวหน้าทีม Bobby Hewitt และผู้จัดการทีม Stephen 'Scuba' Westfall จะนำรถจักรยานยนต์โมโตครอส 4 จังหวะ ขนาด 250 ซีซี เข้าร่วมในการแข่งขันรายการ SuperMotocross World Championship ฤดูกาล 2024 ซึ่งประกอบด้วย Monster Energy Supercross World Championship และ Pro Motocross Championship พร้อม SuperMotocross สามรอบสิ้นสุดฤดูกาล สำหรับฤดูกาล 2025 ก่อนที่จะเข้าสู่ระดับพรีเมียร์คลาส ขนาด 450 ซีซี ในฤดูกาล 2025 ในการแข่งขัน SuperMotocross World Championship
No comments:
Post a Comment