ไทวัสดุจับดีมานด์กำลังซื้อ ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคเหนือตอนล่าง
เปิด 'ไทวัสดุ สาขานครสวรรค์ สาขาที่ 78
อัพเลเวลเมืองให้พร้อมขยายตัวในปี 67
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า ไทวัสดุเดินหน้ารองรับความต้องการด้านวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ตามแผน CRC Intelligent โดยล่าสุดได้ขยายสาขาสู่จังหวัดนครสวรรค์ซึ่งเป็นสาขาที่ 78 ผ่านงบการลงทุน 340 ล้านบาท เพื่อหนุนการเติบโตจังหวัดนครสวรรค์ ในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคเหนือตอนล่าง โดยคาดว่าในปี 2567 จังหวัดนครสวรรค์จะกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากขึ้นจากการพัฒนาพื้นที่ของภาครัฐผ่านแผนเมกะโปรเจ็กต์ต่าง ๆ อาทิ รถไฟความเร็วสูงสายเหนือ รถไฟทางคู่สายนครสวรรค์-แม่สอด และส่วนต่อขยายของทางรถไฟสายเหนือ ซึ่งล้วนส่งผลให้นักลงทุน – ธุรกิจยักษ์ใหญ่เล็งเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดที่มีทิศทางการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะ ด้วยปัจจัยดังกล่าวล้วนเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ภาคการก่อสร้างเติบโตขึ้น จึงเป็นโอกาสของไทวัสดุในการขยายสาขาสู่พื้นที่นี้
ไทวัสดุ สาขานครสวรรค์ ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ตำบลหนองกรด อำเภอเมือง ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา บนพื้นที่กว่า 16,000 ตร.ม นำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคน ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์การเกษตร เครื่องมือช่าง กระเบื้อง เฟอร์นิเจอร์ เคมีภัณฑ์ ของตกแต่งบ้าน รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับโรงแรมและร้านอาหารเข้าไว้ในพื้นที่เดียว โดยได้ชูความโดดเด่นของสาขา ดังนี้
• สวรรค์ของคนรักบ้าน - สำหรับไทวัสดุสาขานี้ ถือเป็นไทวัสดุสาขาแรกของจังหวัด ที่จะเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าก่อสร้างและของตกแต่งบ้านที่ครบครันที่สุดรวมกว่า 36,000 รายการ ให้กับชาวนครสวรรค์ โดยได้การออกแบบการจัดวางสินค้าที่เป็นระเบียบ แยกตามประเภทของสินค้า พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญเรื่องบ้านประจำในจุดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการเลือกซื้อและปรึกษาข้อมูลของสินค้า
• จุดเชื่อมต่อเส้นทางโลจิสติกส์ของ 2 ภูมิภาค – การขยายสาขาสู่จังหวัดนครสวรรค์ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำหรับพันธมิตร ผู้ประกอบการ ของไทวัสดุในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างมากขึ้นทั้งคนในภูมิภาคกลาง และภาคเหนือ ด้วยศักยภาพของพื้นที่ที่เป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางการขนส่งสู่ทั้ง 2 ภูมิภาค และยังเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญที่ยังสามารถขยายธุรกิจในหลาย ๆ ประเภทได้อีกด้วย
• ตอกย้ำเรื่องความยั่งยืน - ไทวัสดุ สาขา นครสวรรค์ ได้ดำเนินการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อประบบ On-grid ขนาด 600 KWp เพื่อลดค่าใช้จ่ายและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมตอกย้ำเจตนารมณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
“ไทวัสดุ เชื่อว่า สาขานครสวรรค์จะสามารถเข้ามาดึงกำลังซื้อและรองรับดีมานด์ความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านจากคนในพื้นที่กว่า 200,000 ครัวเรือนได้เป็นอย่างดี และยิ่งไปกว่านั้นการเข้ามาของไทวัสดุยังเป็นอีกแรงหนุนในการกระจายความยั่งยืนไปสู่ชุมชนผ่านการจ้างงานกว่า 300 อัตรา พร้อมร่วมกับผู้ร่วมค้าในการให้การสนับสนุนสมทบทุนบริจาคให้สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ บ้านหนองเบน จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเสริมศักยภาพทางการแพทย์ในพื้นที่” นายสุทธิสาร กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับในปี 2566 จนถึงเดือนธันวาคมนี้ไทวัสดุ ได้เปิดสาขาใหม่แล้วทั้งสิ้น 13 สาขา ได้แก่ 1. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขารังสิต คลอง 4 2. ไทวัสดุ สาขาโคราช หัวทะเล 3. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาภูเก็ต ฉลอง 4. ไทวัสดุ สาขากำแพงเพชร 5. ไทวัสดุ สาขาชัยนาท 6. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเมืองเอก 7. ไทวัสดุ สาขาเลย 8. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาสมุทรปราการ 9. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเชียงใหม่ สันทราย 10. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาบางใหญ่ 11. ไทวัสดุ สาขาศรีสะเกษ และ 12. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขานครอินทร์ และ 13. ไทวัสดุ สาขานครสวรรค์ โดยยังมีแผนเปิดสาขาอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องในเดือนธันวาคมนี้
###
หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,648 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ 30 มิถุนายน 2566 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 59 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566)
No comments:
Post a Comment