ทีเส็บชูประเทศไทยต้นแบบมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ของอาเซียน - Siam Outlook

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Saturday, May 4, 2019

ทีเส็บชูประเทศไทยต้นแบบมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ของอาเซียน



ทีเส็บ เผยความสำเร็จดันไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ในอาซียนด้วยมาตรฐานสากล เดินหน้าชูจุดขายไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีมาตรฐานสถานที่การจัดงานครอบคลุม 3 ประเภท คือ ห้องประชุม (Meeting Room) สถานที่จัดงานแสดงสินค้า (Exhibition Venue) และสถานที่การจัดงานพิเศษ (Special Event Venue) ถือเป็นต้นแบบมาตรฐานไมซ์ของอาเซียน และยังประสบความสำเร็จในการผลักดันมาตรฐานของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ด้านผู้ประกอบการสถานที่พร้อมรับลูกขับเคลื่อนไมซ์ไทย ร่วมพัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงาน ชี้ช่วยเพิ่มโอกาสดึงงานและอีเว้นท์ระดับนานาชาติสู่ประเทศและชุมชน เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ใช้เวทีงาน ไมซ์ สแตนดาร์ด เดย์ 2019 (MICE Standard Day 2019) มอบตราสัญลักษณ์การันตีมาตรฐานผู้ประกอบการสถานที่ 156 ราย พร้อมกระตุ้นใช้ความคิดสร้างสรรค์ ร่วมสร้างประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก



นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ
กล่าวว่า ทีเส็บมีเป้าหมายในการพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรมไมซ์โดยวางประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ในภูมิภาคเอเชียด้วยมาตรฐานสากลผ่านนโยบายขับเคลื่อน 3 ด้าน ได้แก่

(1) National Standard ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่เริ่มดำเนินโครงการ Thailand MICE Venue Standard (TMVS) เมื่อปี 2557 เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์และดำเนินการสำเร็จอย่างต่อเนื่องมาทุกปี ซึ่งในปี 2562 ได้ให้ความสำคัญใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนแรก ขยายและพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ ประเภทห้องประชุม (Meeting Rooms) ในเมืองไมซ์ซิตี้ทั้ง 5 แห่ง ส่วนที่สอง ดำเนินโครงการพัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ ประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้า (Exhibition MICE Venue Standard) และส่วนที่สาม เร่งส่งเสริมโครงการพัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ ประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ (Special Event Venue) เพื่อกระตุ้นและดึงดูดการจัดงานเมกะอีเว้นท์และเฟสติวัลระดับนานาชาติ ซึ่งถือเป็นรูปแบบงานที่ได้รับการยอมรับจากองค์การส่งเสริมการจัดประชุมชั้นนำจากทั่วโลกว่าเป็นงานที่สามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม แก่เมืองและประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ งานเฟสติวัลและอีเว้นท์ประเภท 4.0 (Tech Show) งาน creative & lifestyle และงานเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

(2) Regional Standard การพัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงานระดับอาเซียน ASEAN MICE Venue Standard (AMVS) ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในเวทีอาเซียนด้านอุตสาหกรรมไมซ์และเป็นผู้ริเริ่มกำหนดใช้มาตรฐานสถานที่จัดงานในประเทศไทยและขยายผลสู่มาตรฐานสถานที่จัดงานในระดับอาเซียน จากประเภทห้องประชุม สู่ประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้าซึ่งมีมติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนจาก 10 ประเทศ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเห็นชอบพร้อมประกาศใช้ เพื่อยกระดับการสร้างมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ในภูมิภาคให้เป็นระดับมาตรฐานเดียวกัน และประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ ซึ่งจะดำเนินการผลักดันเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนในปี 2563 ต่อไป การดำเนินงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์เท่านั้น แต่การที่ประเทศต่างๆ ในอาเซียนนำมาตรฐานเหล่านี้ไปใช้ถือเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือเป็นเครื่องมือการันตีในคุณภาพและความเป็นมืออาชีพ ที่จะดึงดูดให้ผู้ประกอบการไมซ์จากภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกเดินทางมาจัดงานในอาเซียนมากขึ้น ซึ่งเป็นความสำเร็จร่วมกันของอุตสาหกรรมไมซ์ในระดับภูมิภาค

และ (3) International Standard ส่งเสริมและกำกับคุณภาพการให้บริการของผู้ประกอบการด้วยการใช้มาตรฐานสากลและสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการบริการมาตรฐาน ISO

“จากนโยบายขับเคลื่อนทั้ง 3 ด้านหลักนั้น มีผลสำเร็จ คือ ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีมาตรฐานสถานที่จัดงานครอบคลุม 3 ประเภท คือ ห้องประชุม สถานที่จัดงานแสดงสินค้า และสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ โดยมาตรฐานของไทยได้รับการยอมรับและถูกนำไปใช้ในระดับอาเซียน ทีเส็บเองถือเป็นหน่วยงาน CVB แห่งแรกของโลกที่สร้างมาตรฐานสถานที่การจัดงานเพื่อรองรับและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ที่กำลังเติบโต และยกระดับการบริการของผู้ประกอบการไมซ์อย่างยั่งยืน ซึ่งจากแผนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนามาตรฐาน 5 ปี (พ.ศ.2562-2566) ทีเส็บตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ในอาเซียนด้วยมาตรฐานสากล เป็นประเทศที่มีจำนวนสถานที่จัดงานที่ได้มาตรฐานที่สุดในอาเซียน และภายในปี 2566 จะมีสถานที่จัดงานในประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง TMVS จำนวนกว่า 600 แห่ง 1,200 ห้อง” นายจิรุตถ์ กล่าว

สำหรับงานไมซ์ สแตนดาร์ด เดย์ 2019 (MICE Standards Day 2019) ประกอบด้วยกิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการด้านสถานที่จัดงานไมซ์ให้ได้มาตรฐานสากล เปิดมุมมองแก่ผู้เข้าร่วมงานให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กิจกรรม อาทิ การบรรยายพิเศษหัวข้อ “สร้างประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายโลก ด้วยศาสตร์แห่งการบริหารจัดการครบวงจร” โดย นายสมชาย ชีวสุทธานนท์ กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด การเสวนาหัวข้อ “ยกระดับสถานที่จัดงานด้วยการบริหารแบบจุดหมายปลายทาง สร้างสรรค์อีเว้นท์ด้วยการบูรณาการความคิดสร้างสรรค์” หัวข้อ “ยกระดับศักยภาพด้านการจัดงานผ่านมาตรฐานและโครงการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ร่วมด้วยหัวข้อ “ไปให้สุด...อย่าหยุดวิจัยไมซ์” และปีนี้พิเศษมากขึ้นกับโซนกิจกรรมการเจรจาต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ (Business Matching) โดยมีการนำเสนอแพคเกจการจัดประชุม สัมมนา ในราคาพิเศษจากผู้ประกอบการด้านสถานที่จัดงานซึ่งได้รับมาตรฐาน TMVS และ AMVS อาทิ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ, โรงแรมอวานี ขอนแก่น, โรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต วินเทจ พาร์ค, โรงแรมวีรันดา รีสอร์ท และ สิงห์ ปาร์ค จ.เชียงราย เป็นต้น

ส่วนพิธีมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทยและสถานที่จัดงานอาเซียน ในปีนี้มีผู้ประกอบการโรงแรมและสถานที่จัดงานเข้ารับมอบตราสัญลักษณ์จำนวน 156 ราย แบ่งออกเป็นมาตรฐานสถานที่จัดงาน ประเภทห้องประชุมจำนวน 136 แห่ง มาตรฐานสถานที่จัดงานประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้าจำนวน 4 แห่ง มาตรฐานสถานที่จัดงานประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษจำนวน 16 แห่ง และผู้ได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานอาเซียนประเภทห้องประชุมจำนวน 20 แห่ง อาทิ โรงแรม เรเนซองล์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์, โรงแรมอังสนา ลากูน่า ภูเก็ต, โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท เชียงใหม่, โรงแรม จี หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ มอลล์ และโรงแรมเฟลิกซ์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท กาญจนบุรี เป็นต้น

จากการดำเนินงานของทีเส็บตั้งแต่ปี 2557 ทำให้ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน TMVS รวมทั้งสิ้น 371 แห่ง คิดเป็นจำนวน 949 ห้อง/พื้นที่ ทั่วประเทศ แบ่งเป็น 1) ประเภทห้องประชุม 344 แห่ง รวม 910 ห้อง 2) ประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้า จำนวน 11 แห่ง 23 ฮอล์ล และ 3) สถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ 16 แห่ง รวม 16 พื้นที่ นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานของอาเซียน หรือ AMVS ประเภทห้องประชุมรวมทั้งสิ้น 33 แห่งทั่วประเทศ

นายพงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด กล่าวว่า “สิงห์ปาร์ค เชียงราย ยกระดับศักยภาพไมซ์ด้วยมาตรฐานสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อรองรับอีเว้นท์ระดับโลก ผ่านการพัฒนาและบริหารจัดการ ใน 2 มิติ ได้แก่ 1.ภารกิจ “เชียงรายโมเดล” ที่พัฒนาความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน และภาคประชาชน ให้เกิดขึ้นในเรื่องของการท่องเที่ยว และ 2. การพัฒนาเป็น “World-Class Destination” อาทิ ใน 1 ปีมีงาน International Balloon Fiesta ในวันนี้เป็น World-Class Love Destination ที่มีผู้เข้าชมงานกว่า 300,000 คน ในวันข้างหน้าก็อยากเป็นผู้จัดงานคอนเสิร์ตระดับโลก World-Class Outdoor Concert Destination ดังนั้น สิงห์ปาร์ค จึงไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือหรือสถานที่ของคนเชียงรายเท่านั้น แต่จุดมุ่งหมายคือการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก อันจะนำมาซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความกินดีอยู่ดีให้คนและชุมชนเชียงรายอย่างยั่งยืนต่อไป โดยมาตรฐาน TMVS ที่ได้รับเป็นสิ่งการันตีว่า สิงห์ปาร์ค เชียงราย สามารถจัดงานระดับโลกในขนาดที่ใหญ่ขึ้น และดูแลนักเดินทางกลุ่มไมซ์ได้เป็นอย่างดี”

ด้าน นางสาววราภรณ์ โพธิกุดสัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) กล่าวว่า “การได้รับการรับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานนั้น ทำให้ศูนย์ประชุมฯ ได้รับผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยตราสัญลักษณ์ TMVS ถือเป็นเครื่องมือในการสร้างโอกาส การผลักดัน และขับเคลื่อนธุรกิจไมซ์ไทย ช่วยยกระดับงานไมซ์ที่จัดในประเทศ เป็นสิ่งการันตีได้ว่าผู้ประกอบการได้มาตรฐานสากลนั้นได้รับความน่าเชื่อถือและแสดงถึงความเป็นมืออาชีพของสถานที่จัดงาน ส่งผลต่อการพัฒนาธุรกิจไมซ์ให้ประสบความสำเร็จในระยะยาวและเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก เชื่อว่าจะสามารถดึงงานและผู้จัดงานทั้งในและต่างประเทศเข้ามาจัดงานได้มากยิ่งขึ้น”

ส่วน ดร.สมพล รัชตพิมลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค กล่าวว่า “ผู้ประกอบการสถานที่จัดงานที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลจะมีโอกาสสร้างความแตกต่างได้ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการที่ใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยเครื่องมือที่มีคุณภาพ สามารถนำมาเป็นจุดขายดึงดูดให้ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาใช้บริการได้มากขึ้น การที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์คผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินมาตรฐาน TMVS นั้นเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดผู้จัดงาน (organizer) รายใหม่ และสร้างความมั่นใจแก่ผู้จัดงานทั้งในและต่างประเทศ มาจัดงานที่ศูนย์การค้าฯ มากยิ่งขึ้น”

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages