นายแพทย์ทัศนวัต สมบุญธรรม กรรมการบริหาร ธนิยะ กรุ๊ป กล่าวว่า “ธนิยะ พลาซา เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี โดยเริ่มจากการพัฒนาที่ดินว่างเปล่า บนถนนสีลม ให้เป็นอาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า เป็นอาคารสองหลังที่เชื่อมต่อกัน และเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสีลม ธนิยะ กรุ๊ป ได้ริเริ่มนำเอาคอนเซ็ปต์ มิกซ์ยูส มาใช้เป็นรายแรกๆ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเพิ่มโซน รีเทล โพเดียม ชั้น 1 - 4 ที่เรียกเคยว่า ตึกหน้า (อาคารธนิยะ บีทีเอส วิง) และตึกใหญ่ (อาคารธนิยะ พลาซา) เพื่อให้เป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ โดยกว่า 80% เป็นกลุ่มร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟแบบครบวงจร ซึ่งจัดได้ว่าเป็น Golf Center ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะกล่าวได้ว่า กอล์ฟ เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงมาอย่างต่อเนื่อง และอีก 20% เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มผู้เช่าชาวญี่ปุ่นและผู้ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นในพื้นที่ใกล้เคียง และร้านจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ เช่น ร้านขายอุปกรณ์กล้องฟิล์มที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน
โดยตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ธนิยะ พลาซา ถือว่าประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในกลุ่มนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งบนถนน สีลม
เพื่อตอกย้ำการเป็นแลนด์มาร์คของถนนสีลม และสอดรับกับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ของผู้บริโภคในอนาคต รวมถึงนโยบายของกรุงเทพมหานครและกลุ่มภาคีเครือข่ายภาคเอกชนย่านสีลม ที่ต้องการพัฒนาถนนสีลมให้มีความสะอาด สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย มีความเจริญและทันสมัย ธนิยะ กรุ๊ป จึงพร้อมเป็นผู้นำในการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของสีลม ด้วยการทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อรีโนเวท ธนิยะ พลาซา โซน Retail นี้ให้กลายเป็น “ไลฟ์สไตล์มอลล์” แห่งอนาคตที่เติมเต็มทุกความต้องการของลูกค้า และผสานให้อาคารทั้งสองให้กลายเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น ภายใต้ชื่อโครงการ ธนิยะ พลาซา (Thaiya Plaza) กับแนวคิด “The Future of Thaniya” ชูรูปแบบความทันสมัยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังมีการนำข้อมูลจากผลสำรวจ สิ่งที่อยากเห็นบนถนนสีลม ของประชาชนสีลมว่าต้องการพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น มาพัฒนาเป็นการออกแบบพื้นที่ในแบบ Modern and Green Design มีพื้นที่ Retail ทั้งหมด 4 ชั้น รวม 12,000 ตร.ม. แบ่งเป็น อาคาร A (Atrium) พื้นที่รวม 8,500 ตร.ม (บนถนนธนิยะ) และ อาคาร B (BTS) ติดถนนสีลม ขนาดพื้นที่รวม 3,500 ตร.ม. มีสะพานเดินเชื่อมถึงกันอย่างต่อเนื่อง ระหว่างอาคาร A และ B ในชั้น 3 และ ชั้น 4 ส่วนในชั้น G จะมีการจัดภูมิทัศน์ให้ร่มรื่น สวยงาม และเชื่อมต่อกัน
โซนร้านค้าอาคาร A ชั้น 1 - 2 ออกแบบให้เป็นโซน Golf Center เพื่อเป็นศูนย์รวมอุปกรณ์กอล์ฟและสปอร์ต ที่มีไฮไลท์เป็นห้องทดสอบอุปกรณ์กอล์ฟ (Golf Simulator) ขนาดใหญ่ รวมถึงอุปกรณ์กอล์ฟแบรนด์ชั้นนำระดับไฮเอน บริเวณพื้นที่ ชั้น 3 จะเป็น Lifestyle Shop แหล่งรวมร้านค้าและบริการตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล อาทิ คลินิกเสริมความงามและทันตกรรม บิวตี้สโตร์ ฯลฯ เป็นต้น ในโซนชั้น 4 จะเป็นโซน Food Hub รวบรวมร้านอาหารแบรนด์ดัง และร้านอาหารขึ้นชื่อของเมืองไทยหลากหลายสไตล์มาอยู่ในชั้นเดียวกัน ในส่วนของอาคาร B ซึ่งติดกับถนนสีลม และเชื่อมต่อกับสถานีบีทีเอสศาลาแดง แพลนว่าจะเปิดให้เป็น Flagship Store ของแบรนด์ชั้นนำ และร้านที่ให้บริการเพิ่มเติมอีกมากมาย
ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มผู้เช่ารายเดิมและกลุ่มผู้เช่าใหม่ให้การตอบรับมาร่วมเปิดให้บริการแล้ว อาทิ Mizuno, Kasco, Bridgestone Golf, Titleist, Callaway, PING, Adidas เป็นต้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้เจรจากับแบรนด์ดัง เพื่อมาเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีกมากมาย ส่วนถนนธนิยะซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลในการดูแลของธนิยะ กรุ๊ป จะถูกปรับปรุงใหม่ด้วยเช่นกัน ให้กลายเป็นถนนสีเขียวและเพิ่มพื้นที่เพื่อการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง (Outdoor Event) ในวันหยุดสุดสัปดาห์
แผนการดำเนินการรีโนเวท แบ่งออกเป็น 2 เฟส เฟสแรกจะเริ่มจากอาคาร A (Atrium) เริ่มต้นเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนธันวาคมปี 2563 เฟสสอง รีโนเวทอาคาร B (BTS) คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งสองอาคารในไตรมาสแรกของปี 2564 ร้านค้าส่วนใหญ่จะถูกย้ายไปให้บริการชั่วคราวในอาคารที่ยังไม่ได้รีโนเวท เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับประกอบการค้าขายได้อย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์ทัศนวัต ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภายหลังจากการรีโนเวทเสร็จสมบูรณ์แล้ว ธนิยะ พลาซา โฉมใหม่ จะตอกย้ำการเป็นแลนด์มาร์คแห่งถนนสีลม พร้อมเติมเต็มทุกความต้องการของคนในพื้นที่สีลม คนกรุง กลุ่มนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว กลุ่มคนรักกอลฟ์ ที่มีไลฟ์สไตล์ต่างกันได้มาแชร์พื้นที่ความสุขแห่งนี้ร่วมกัน “ธนิยะกรุ๊ป” เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ธนิยะ พลาซา จะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการทั้งด้านทราฟฟิคและโลเคชั่นที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ของกรุงเทพมหานคร ส่วนรูปแบบการให้บริการเช่าพื้นที่สำหรับผู้ประกอบการ บริษัทฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดรับกับการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน”
###
No comments:
Post a Comment