· Gran Turismo: Based on a True Story หรือ “GT แกร่งทะลุไมล์” เป็นภาพยนตร์ที่
· ไม่เพียงนำเสนอเรื่องราวการบรรจบกันของโลกเสมือนและโลกจริง แต่ยังโชว์ศักยภาพยางมิชลินของจริงที่มีให้เลือกใช้ในเกมแข่งรถออนไลน์ด้วย
· การมีส่วนร่วมมอบประสบการณ์ให้กับผู้ชมหลายรุ่นผ่านภาพยนตร์จอเงินเรื่องนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างการรับรู้ที่มีต่อแบรนด์และตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำของมิชลินในด้านการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของยางล้อ
ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์และการแข่งรถ...ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน...ไม่ควรพลาดชมภาพยนตร์ Gran Turismo: Based on a True Story หรือ “GT แกร่งทะลุไมล์” ของค่ายโซนี่ พิคเจอร์ส ซึ่งจะเริ่มเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 31 สิงหาคมนี้ ในฐานะที่มิชลินเป็นพันธมิตรผู้สนับสนุนยางรถยนต์อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้ชมจึงจะได้เห็นยางมิชลินอย่างเต็มจอ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงอันเหลือเชื่อของทีมม้ามืดนอกสายตา ซึ่งประกอบด้วยเกมเมอร์ชนชั้นแรงงานที่ชีวิตต้องดิ้นรน
เพื่อความอยู่รอด (แสดงโดย Archie Madekwe), อดีตนักแข่งรถที่ล้มเหลว (แสดงโดย David Harbour) และผู้บริหารด้านมอเตอร์สปอร์ตที่ยึดมั่นในอุดมคติของตน (แสดงโดย Orlando Bloom) พวกเขาเสี่ยงเดิมพันทุกอย่างที่มีเพื่อลงชิงชัยในสุดยอดกีฬาระดับโลก เรื่องราวที่เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นตื่นตา ความลุ้นระทึก และแรงบันดาลใจเรื่องนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่า...ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้หากเรามีแรงขับเคลื่อนจากภายในมากพอ
ภาพยนตร์ “GT แกร่งทะลุไมล์” ตระเวนถ่ายทำ ณ สนามแข่งรถจริงทั่วโลก ซึ่งรวมถึง สโลวาเกียริง (Slovakia Ring) ในประเทศสโลวาเกีย, ดูไบ ออโต้โดรม (Dubai Autodrome) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, นูร์เบอร์กริง (Nürburgring) ในประเทศเยอรมนี, เรดบูลริง (Red Bull Ring) ในประเทศออสเตรีย และ ฮังกาโรริง (Hungaroring) ในประเทศฮังการี
รถยนต์ที่ใช้ถ่ายทำในเรื่องทั้งหมดติดตั้งด้วยยาง มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 เอส (MICHELIN Pilot Sport 4 S) และ มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ (MICHELIN Pilot Sport Cup 2 R) สำหรับฉากที่ใช้รถแข่งสมรรถนะสูงพิเศษ ทีมงานของมิชลินเลือกติดตั้งยางที่เรียกกันด้วยชื่อที่เป็นรหัสลับว่า “Confidential” ซึ่งเป็นยางที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำซึ่งผ่านการคัดสรรมาจากยางที่เคยใช้ลงสนามจริงเพื่อชิงชัยในการแข่งรถรายการ ‘เลอ มังส์’ (Le Mans) มาแล้ว
การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรของภาพยนตร์โดยโซนี่ พิคเจอร์ส เรื่องนี้ ถือเป็นการต่อยอดที่สมบูรณ์แบบของมิชลินในฐานะพันธมิตรเกมแข่งรถเสมือนจริง Gran Turismo 7…ภาคที่ 7 ของซีรีส์เกมแข่งรถระดับตำนาน Gran Turismo (กรัน ตูริสโม) ที่พัฒนาและเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2540 โดย Polyphony Digital Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Sony Interactive Entertainment Inc.
ภายใต้การร่วมพันธมิตรกับโซนี่ มิชลินรั้งตำแหน่งผู้จัดหายางรถแข่งพัฒนาการขั้นสูงสุดของโลกให้กับเกม Gran Turismo 7 โดยผลิตภัณฑ์ยางที่นำเสนอไม่เพียงเป็นผลพวงจากความเชี่ยวชาญที่โดดเด่นของมิชลินในด้านการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของยางล้อ แต่ยังเกิดจากการมีข้อมูลอัจฉริยะ (Smart Data) ที่จัดเก็บมาจากการแข่งรถบนสนามแข่งจริงในระดับนานาชาติอีกด้วย
รถต้นแบบ ‘ไฮเปอร์คาร์’ (Hypercar) และ ‘จีทีพี’ (GTP) รุ่นล่าสุดสำหรับการแข่งรถบนสนามจริงในรายการ Le Mans, FIA World Endurance Championship และ IMSA WeatherTech SportsCar Championship ล้วนใช้ยางมิชลินที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริงทุกขั้นตอน ในฐานะกลุ่มธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นหลัก กลุ่มมิชลินยังได้ลงทุนในนวัตกรรมเทคโนโลยีแบบจำลองเสมือนจริงที่ล้ำหน้ามากที่สุดสำหรับใช้ในการทำงานร่วมกับพันธมิตรผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำหลายรายที่ต้องการพัฒนายนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ
ทั้งนี้ ภาพยนตร์ Gran Turismo: Based on a True Story หรือ “GT แกร่งทะลุไมล์” เปิดโอกาสให้ มิชลินได้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคหลากหลายรุ่นในวงกว้างยิ่งขึ้น เพื่อเสริมสร้างการรับรู้แบรนด์ ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านยางเสมือนจริงของมิชลิน
//////////////////////////
เกี่ยวกับมิชลิน
มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับ
การใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมการให้บริการทางดิจิทัล การจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 175 ประเทศโดยมีพนักงาน 132,200 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิตยาง 67 แห่ง ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 167 ล้านเส้นในปี 2565 คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th
No comments:
Post a Comment