ลาซาด้าเร่งพัฒนาเอสเอ็มอีไทยสู่การเป็น ซูเปอร์ อีบิสิเนส เตรียมพร้อมปั๊มยอดรับหลายแคมเปญครึ่งปีหลัง
– จัดประชุม Mega Seller Conference ดึงผู้ขายระดับท็อปติวเข้มพิชิตยอดขายรับเมกะแคมเปญปลายปี
– ผนึกกำลังภาครัฐ ยกระดับผู้ประกอบการรากหญ้าผ่านโครงการ สมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์
กรุงเทพฯ 8 สิงหาคม 2562 : ลาซาด้ากางแผนกลยุทธ์ส่งเสริม SMEs ไทยทั้งระบบสู่ซูเปอร์ อี-บิสิเนส หรือสุดยอดธุรกิจออนไลน์ ด้วย “ซูเปอร์-โซลูชั่นส์” พร้อมแนะ 6 กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการ โดยในงาน Lazada Mega Seller Conference 2019 ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจัดติวเข้มมอบความรู้แก่สุดยอดนักขายออนไลน์กว่า 2,000 ราย เตรียมพร้อมปั๊มยอดรับหลายแคมเปญสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี
มร.แจ็ค จาง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ลาซาด้า เล็งเห็นความสำคัญของ SME อันเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม โดยในปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SME ในประเทศไทยเป็นจำนวนกว่า 5,253,295 ราย ทั้งนี้ หนึ่งในพันธกิจหลักของลาซาด้าคือการนำเสนอโอกาสที่เท่าเทียม เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEs เพราะเชื่อว่าไม่มีแบรนด์ใดใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไปสำหรับการประสบความสำเร็จในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงต้องการส่งมอบความรู้และส่งต่อเครื่องมือสำคัญอย่าง “ซูเปอร์ โซลูชั่นส์” (Super-Solutions) เพื่อทำให้ผู้ประกอบการได้เติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับภาพรวมธุรกิจของลาซาด้าในระดับภูมิภาคตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2562 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนผู้ใช้บริการ (Buyers) เพิ่มขึ้นถึง 105% ส่วนกลุ่มผู้ขาย (Sellers) พบว่ามีการเติบโตขึ้นกว่า 90% ทั้งนี้ ในการส่งเสริมผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มในช่วงสี่เดือนสุดท้ายของปี ลาซาด้าจะเน้นกลยุทธ์หลักใน 3 ด้าน ซึ่งได้แก่
• ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs เติบโต มีโอกาสนำเสนอสินค้าที่หลากหลายประเภทมากขึ้น สนับสนุนด้านการบริหารงานและการตลาด สร้างคอมมูนิตี้ของกลุ่มผู้ขายเพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์และกระตุ้นให้มีการเข้าร่วมในระยะยาว อาทิ สมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์, ลาซาด้า ยูนิเวอร์ซิตี้ (Lazada University) คอร์สเรียนออนไลน์เพื่อเพิ่มทักษะและขีดความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ ที่เปิดโอกาสให้เรียนรู้ขั้นตอน เทคนิค และการใช้เครื่องมือเพื่อเป็นผู้ค้าออนไลน์ที่มีคุณภาพ และกิจกรรมโรดโชว์ที่ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เป็นต้น
• ขยายโซลูชั่นส์ด้านการตลาด และกิจกรรมในรูปแบบ O2O (Online to Offline) เพื่อกระตุ้นการเข้าร่วม และเพิ่มโอกาสการขายของผู้ขาย
• พัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มขีดความสามารถของระบบโลจิสต์ติก และนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ของการชำระเงิน หรือสร้างสังคมไร้เงินสดให้มากขึ้น (cashless society) เพื่อสนับสนุนผู้ค้าจากทั่วโลก
สำหรับแคมเปญสำคัญที่ลาซาด้าเตรียมไว้สำหรับกระตุ้นการสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง อาทิ 9.9, 11.11 และ 12.12 ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของผู้ประกอบการในช่วงส่งท้ายปี ขณะเดียวกันยังมีแคมเปญ Payday ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ สิ้นเดือน และแคมเปญที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายอย่าง Women’s Festival ในเดือนตุลาคม แคมเปญ Momday Monday และ Trendy Tuesday เป็นต้น ทั้งนี้ ลาซาด้าพบว่า การจัดแคมเปญเหล่านี้จะทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันที่สูงกว่าช่วงเวลาปกติ ทำให้เกิดการช้อปปิ้งในสินค้าหลากหลายประเภท อีกทั้งยังสร้างการสื่อสารระหว่างผู้ขายและลูกค้าได้มากขึ้น และกระตุ้นการเพิ่มจำนวนลูกค้าให้เกิดการติดตามร้านค้า
นอกจากแคมเปญที่ลาซาด้าเตรียมไว้นั้น ลาซาด้า ยังนำเสนอ 6 กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการออนไลน์ ซึ่งได้แก่: การแยกประเภทสินค้าอย่างเหมาะสม เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขายเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน การสร้างทราฟฟิคให้เพิ่มขึ้นจากเครื่องมือของแพลทฟอร์ม อาทิ การใช้คีย์เวิร์ด การแสดงผลส่วนบุคคล และความใกล้เคียงของประเภทสินค้า การทำโปรโมชั่นและการวางแผนราคา อาทิ การสร้างคูปองส่วนลด หรือการกำหนดราคาในช่วงแคมเปญ การใช้เครื่องมือเพื่อขยายขนาดของตะกร้าสินค้า อาทิ จัดส่งฟรีเมื่อมีการช้อปปิ้งในจำนวนชิ้นที่กำหนด หรือการใช้เครื่องมือบางประเภทใจการจัดเซ็ทสินค้า การให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการช่วงแคมเปญ อาทิ การบริหารสต็อก, การบริการลูกค้า และการจัดการในหลังบ้าน การบริหารการจัดส่งสินค้าให้ทันเวลา รวมถึงการแพ็คสินค้า ระยะเวลาการจัดส่ง, การรับประกัน และให้ความช่วยเหลือลูกค้าในด้านต่างๆ”
นอกเหนือจากการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs รายย่อยแล้ว อีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ลาซาด้าเน้นย้ำคือการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อสนับสนุนการการสร้างรายได้ให้กับชุมชนทั่วประเทศโดยใช้ธุรกิจออนไลน์เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนในท้องถิ่น โดยลาซาด้าได้ร่วมกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ยกระดับผู้ประกอบการรากหญ้า และผลักดันสินค้าชุมชนเข้าสู่การค้าออนไลน์ ผ่านโครงการสมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์ (Smart Village Online)
โครงการดังกล่าวนี้ ได้นำโมเดลจากชุมชนเถาเป่าจากประเทศจีนมาเป็นต้นแบบในการสร้างงานและส่งเสริมรายได้ผ่านอีคอมเมิร์ซ โดยได้ทำการคัดเลือก 5 ชุมชนที่มีความพร้อม ได้แก่ ชุมชนนาข่า จังหวัดอุดรธานี, ชุมชนด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา, ชุมชนแม่พระประจักษ์ จังหวัดสุพรรณบุรี, ชุมชนควนขนุน จังหวัดพัทลุง และชุมชนใบชา จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นชุมชนที่มีสินค้าแสดงถึงอัตลักษณ์ของท้องถิ่น เป็นชุมชนเข้มแข็ง มีทักษะของการเป็นผู้ประกอบการ
ด้าน นายสุพัชเชษฐ์ เภาวะนิต รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารและพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการ บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ลาซาด้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับภาครัฐ ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลตลอดจนการร่วมพัฒนาระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยให้เติบโต ทั้งนี้ ในฐานะที่ลาซาด้านั้น เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่สำคัญของอาลีบาบาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสามารถนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซมาช่วยส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมในประเทศไทยได้”
สำหรับโครงการสมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์ ได้เริ่มดำเนินการแล้วกับชุมชนนาข่าเป็นแห่งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ลาซาด้าได้ลงพื้นที่สำรวจ สื่อสารกับชุมชนเป้าหมาย จัดกิจกรรมเวิร์คช้อป มีการทำโปรโมชั่นผ่านแอปพลิเคชัน จัดงานแสดงสินค้าชุมชนที่ผ่านการพัฒนาด้านดิจิทัลแล้วอย่าง “ผ้านาข่าชุมชนอัจฉริยะออนไลน์” และจากนี้จะเป็นการลงพื้นที่จัดกิจกรรมเวิร์คช้อปกับชุมชนที่เหลืออย่างต่อเนื่องในปีนี้”
Post Top Ad
Wednesday, September 4, 2019

‘ลาซาด้า’ ยกระดับเอสเอ็มอีไทยสู่สุดยอดธุรกิจออนไลน์ ด้วย “ซูเปอร์-โซลูชั่นส์”
Tags
# ธุรกิจ
Share This
About threportor
ธุรกิจ
Labels:
ธุรกิจ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Post Bottom Ad
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
No comments:
Post a Comment