ผลงานศิลปะจากความรักและความหลงใหล สู่การกำเนิดแบรนด์กระเป๋าสาน Quillberry (ควิลเบอร์รี่) - Siam Outlook

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Monday, September 23, 2019

ผลงานศิลปะจากความรักและความหลงใหล สู่การกำเนิดแบรนด์กระเป๋าสาน Quillberry (ควิลเบอร์รี่)



ผลงานศิลปะที่ก่อเกิดจากความรักและความหลงใหลของ คุณเมธ เฮ้งตระกูล ดีไซน์เนอร์และผู้ก่อตั้งแห่งแบรนด์เครื่องหนัง คุณภาพระดับซุปเปอร์พรีเมียม Mettique (เมธธีค) สู่การกำเนิดแบรนด์กระเป๋าสานน้องใหม่อย่าง Quillberry (ควิลเบอร์รี่) ที่ถักทอด้วยภูมิปัญญาและประสบการณ์อันประณีตจากช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ สะท้อนคุณค่าแห่งรสนิยมอันเรียบหรู อีกทั้งยังสามารถตอบโจทย์ได้อย่างหลากหลายฟังก์ชันการใช้งาน ชื่อแบรนด์ Quillberry เป็นการผสมผสานของคำว่า Quill และ Berry เข้าด้วยกันซึ่งมีความหมายที่สะท้อนแก่นแท้ของแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Quill คือขนนกที่ถูกใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานโดยนักเขียนแถบยุโรปมายาวนานถึง

17 ศตวรรษ ด้วยจังหวะอันคมชัด แม่นยำ และความยืดหยุ่นในการใช้งานที่เปรียบเสมือนกระเป๋าแต่ละใบของ Quillberry ที่มีความหลากหลายในการใช้งาน ความเบาเปรียบเสมือนขนนกจากธรรมชาติ และฝีมือสุดประณีตของนักถักชาวไทยผู้มีประสบการณ์การถักอันเฉียบแหลมมามากกว่า 25 ปี ส่วนคำว่า เบอร์รี่(Berry) มาจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในซุเปอร์ฟู้ด (superfood) อันอุดมไปด้วยความสดชื่นและมีคุณค่าสูงที่มีสารรักษาความเยาว์ เสมือนแบรนด์ที่จะนำความสดชื่นและความอ่อนเยาว์ให้แก่ผู้ถือกระเป๋าด้วยการสร้างสรรค์ดีไซน์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สุดคลาสสิคอันเป็นนิยามในการออกแบบของ Quillberry (ควิลเบอร์รี่)

คุณเมธ เฮ้งตระกูล ดีไซน์เนอร์และผู้ก่อตั้ง Mettique และ Quillberry ได้กล่าวว่า “ผมได้รับแรงบันดาลใจการทำกระเป๋า โดยเริ่มจากการก่อตั้งแบรนด์เครื่องหนังที่มีคุณภาพเทียบเท่าระดับโลกอย่าง Mettique ซึ่งได้รับความรู้ทางด้านธุรกิจ รวมถึงความเชี่ยวชาญในการตัดเย็บผ้าและเครื่องหนังมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณตาคุณยาย และได้เห็นโอกาสของตลาดเครื่องหนังในประเทศไทย จนนำไปสู่การเปิดแบรนด์ของผมเอง สองปีที่ผ่านมาผมได้มีความคิดที่จะขยาย แบรนด์ที่มีการผสานการใช้วัสดุที่สวยงามและมีความแข็งแรงด้วยราคาที่เข้าถึงได้ อีกทั้งยังมีความประณีตของการตัดเย็บและการถักทอด้วยศิลปะและงานฝีมือของคนไทยที่ไม่แพ้ฝีมือช่างต่างชาติอย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Quillberry นั่นเอง”

อีกหนึ่งความพิเศษของ Quillberry คือวัสดุและวัตถุดิบชั้นเลิศที่ถูกใช้ในการถักที่เรียกว่า ราเฟียไฟเบอร์คอร์ด (Raffia Fibre Cords) ตัวเส้นไฟเบอร์จากธรรมชาติ 100% ซึ่งเป็นวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Sustainable Material) ปราศจากสารพิษ ผลิตจากใบของต้นปาล์มที่หาได้เฉพาะในแถบทวีปแอฟริกา โดยQuillberry นับว่าเป็น แบรนด์แรกในประเทศที่ได้นำวัสดุนี้เข้ามาใช้และได้ทำการคัดสรรอย่างพิถีพิถันเพื่อนำมาถักทอเป็นกระเป๋าสานสุด พรีเมี่ยมด้วยช่างฝีมือคนไทย มีความทนทานสูง อายุการใช้งานนานกว่ากระเป๋าที่ถูกสานด้วยหวายซึ่งมีความแข็งและยืดหยุ่นน้อย ทำให้กระเป๋าที่ทำจากหวายมีข้อจำกัดมากมายในการดีไซน์ แตกต่างจากราเฟียไฟเบอร์คอร์ดที่มีความนิ่ม ง่ายต่อการออกแบบดีไซน์และยังสามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่งจึงทำให้ราเฟียไฟเบอร์คอร์ดมีความนิยมไปทั่วโลกโดยเฉพาะในวงการไฮแฟชั่น (high fashion)

ด้วยการใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การคัดสรรวัสดุสุดล้ำเลิศ ตลอดจนขั้นตอนการถักทออย่างพิถีพิถัน ล้วนมาจากช่างฝีมือภายในโรงงานของแบรนด์ชื่อว่า The Atelier Co., Ltd. เนื่องจาก Quillberry มีนโยบายไม่จ้างบริษัทจากภายนอก (No Outsource Policy) จึงทำให้การตัดเย็บอยู่ในระดับมาตรฐานสากลเช่นเดียวกับแบรนด์แม่อย่าง Mettique ที่อยู่ภายใต้โรงงาน The Atelier Co., Ltd.

จากประสบการณ์ในแวดวงสิ่งทอ ทำให้ดีไซน์ของกระเป๋าQuillberry มีความเหมาะสมกับสาวๆทุกวัยที่อยากเพิ่มความชิคและความเรียบหรูในทุกลุค นอกเหนือจากกระเป๋าของคุณผู้หญิงแล้ว Quillberry ยังคงมอบความใส่ใจและคำนึงถึงความต้องการของทุกๆคน ด้วยสายตาอันเฉียบคมและหลงใหลในแฟชั่นของคุณเมธ จึงสร้างสรรค์โปรดักส์ที่ตอบโจทย์สุภาพบุรุษที่ชื่นชอบความมีสไตล์ในแบบฉบับของ Quillberry อาทิเช่น กระเป๋าแมสเซนเจอร์ และ กระเป๋าสตางค์เรียบหรูอย่างมินิมอล (minimal) ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ของการออกแบบเพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์และฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างเหนือระดับ ด้วยประสบการณ์ที่หล่อหลอมศิลปะและภูมิปัญญาอันล้ำค่าที่ได้ถูกถ่ายทอดมายาวนานของชาวไทยซึ่งไม่สามารถเลียนแบบหรือเปรียบเทียบกับที่อื่นได้ Quillberry จึงกลายเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น เกาหลี และชาวต่างชาติอีกมากมาย เราจึงอยากถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ให้แก่คนไทยเช่นเดียวกัน ปรากฏการณ์ครั้งนี้จะพาชาวไทยทุกคนมาร่วมการเดินทางเข้าสู่ความงามเหนือระดับ กับกระเป๋าหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Around The World Tote, the City Hand Bag, Chloe’s Rucksack และอีกมากมาย

พบกับงานฝีมือที่สะท้อนช่วงเวลาแห่งความงดงามได้ที่ Quillberry pop-up store ณ ชั้น 2 ของ Gaysorn Village ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 8 มกราคม 2020 และ pop-up store ณ ชั้น L2 ศูนย์การค้า Central Embassy หรือทางเว็บไซต์ที่ https://quillberry.com/

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages