กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน 2563 – หนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยตลอดทั้งปีคือฟักทอง ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารได้หลากหลาย ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด และของหวานต่างๆ ซึ่งลักษณะฟักทองที่ตลาดต้องการต้องมีเนื้อเหนียวแน่น รสชาติหวานมัน ในขณะที่ความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกคือ ต้นแข็งแรง ปลูกง่าย ได้ผลิตผลสูง ทรงผลสวย น้ำหนักดี ทนต่อการขนส่ง และเก็บรักษาได้นาน
บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย ได้วิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ฟักทองหลากหลายชนิด อาทิ ฟักทองทองอำไพ 426 ฟักทองทองอำพัน 346 และฟักทองศรีเมือง 16 เป็นต้น จนได้รับความเชื่อมั่นเรื่องคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด การันตีความประทับใจจากเสียงของผู้คลุกคลีแวดวงฟักทองตัวจริง
คุณวิสานนท์ เพิ่มพูน
ผู้รวบรวมผลิตผลฟักทองไทย
“จากลูกจ้างขนฟักทองค่าแรงหลักร้อยสู่การเป็นผู้รวบรวมผลิตผลฟักทองที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน”
คุณวิสานนท์ เพิ่มพูน พื้นเพเป็นคนจังหวัดชุมพร เริ่มอาชีพจากการเป็นลูกจ้างขนฟักทองด้วยค่าแรงหลักร้อย และค่อยๆ ขยับขยายสู่การลงทุนด้วยเงินลงทุนก้อนแรกเพียง 7,000 บาท จนกระทั่งปัจจุบันได้กลายเป็นผู้รวบรวมผลิตผลฟักทองรายใหญ่ที่มีเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศ
คุณวิสานนท์เล่าว่า “เมล็ดพันธุ์และสายพันธุ์ที่ดี คือหัวใจหลักของความสำเร็จ โดยเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ฟักทองของเจียไต๋ทั้งหมด เนื่องด้วยเป็นสายพันธุ์ที่มีความทนทานต่อโรค จึงทำให้ไม่ต้องใช้สารเคมีในการปลูกมาก ลดการตกค้างของสาร ต้นใบแข็งแรง ปลูกได้แทบทุกภาคในประเทศไทย นับเป็นจุดเด่นที่ทำให้เลือกเมล็ดพันธุ์เจียไต๋ เสมอมา อีกทั้งคุณภาพผลิตผลยังได้มาตรฐาน ทั้งรูปทรง สีสัน เนื้อสัมผัส รสชาติ ก็ตรงกับความต้องการของตลาด และที่สำคัญการดูแลและให้คำแนะนำด้านสายพันธุ์และการเพาะปลูกอย่างสม่ำเสมอของเจียไต๋ คือสิ่งที่ผมประทับใจเสมอมา... จากเงินลงทุนที่ผมเคยต้องหยิบยืมจากคนอื่น... แต่ในวันนี้ผมดีใจที่ได้เป็นคนมอบโอกาสให้คนอื่นบ้าง”
คุณอารีย์ โชติชื่น
แม่ค้าฟักทองตลาดไท
คุณอารีย์ เล่าเสริมถึงการขายฟักทองสายพันธุ์ต่างๆ ของเจียไต๋ ว่า “อย่างแรก คือ ราคาขายถือว่าดี แม้ว่าราคาจะเป็นไปตามกลไกลตลาด แต่ด้วยเรื่องคุณภาพที่ดีของฟักทองเจียไต๋ ทำให้เมื่อวัดกันแล้ว ฟักทองตัวอื่นๆ ในตลาดจะสู้ฟักทองของเจียไต๋ ไม่ได้ ทั้งเรื่องคุณภาพเนื้อและสีสันของฟักทอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดยอมรับ ทำให้ขายได้ดี อย่างเช่น ถ้าเลือกฟักทองไปผ่าขายโชว์เนื้อก็จะเป็นทองอำไพ 426 และทองอำไพ 342 เพราะเนื้อสีเหลืองสวยถูกใจตลาด หากซื้อไปทำขนมก็ต้องออกสีเขียวไพร อย่างตัวทองอำพัน 346 และศรีเมืองทองใหญ่ 050” ทั้งนี้ คุณอารีย์ยังแสดงความเชื่อมั่นในคุณภาพของฟักทองเจียไต๋ ที่ได้คัดสรรมาขายในปัจจุบัน และยังมั่นใจว่าต่อไปในอนาคตเจียไต๋ จะมีฟักทองสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่คุณภาพดียิ่งๆ ขึ้นไป ออกมาสู่ตลาดอีก
ทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นกว่าศตวรรษของเจียไต๋ ที่ทุ่มเทนำความรู้และเทคโนโลยีที่ปลอดภัยมาพัฒนาสายพันธุ์พืช เพื่อให้เกษตรกรมีเมล็ดพันธุ์คุณภาพในการประกอบอาชีพ ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการเกษตรของไทย พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้บริโภคให้ดีขึ้น โดยเจียไต๋ จะยังคงเติบโตเคียงข้างเกษตรกรและคนไทยในการก้าวสู่ปีที่ร้อยอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและส่งมอบนวัตกรรมการเกษตรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนของผู้คนทั่วภูมิภาคต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจเคล็ดลับในการทำการเกษตร สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง Facebook CHIA TAI SEED เมล็ดพันธุ์เจียไต๋: https://bit.ly/ChiaTaiSeedFB หรือเว็บไซต์เจียไต๋: www.chiataigroup.com
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทเจียไต๋
บริษัท เจียไต๋ จำกัด ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่พ.ศ. 2464 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรกรรมชั้นนำของเอเชีย ธุรกิจของเจียไต๋ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปสู่ปลายน้ำ โดยมีผลิตภัณฑ์และบริการที่เริ่มต้นตั้งแต่เมล็ดพันธุ์คุณภาพ ปุ๋ย ผลิตภัณท์อารักขาพืช เทคโนโลยีเพื่อการเพาะปลูก ไปจนถึงการส่งมอบผลผลิตที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ
ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง เจียไต๋เป็นหนึ่งในบริษัทรายแรกๆ ของไทยที่คิดค้นวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ไฮบริด และยังมีศักยภาพในการค้นคว้าวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร และมอบความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยมีสถานีวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชทั้งในและต่างประเทศกว่า 10 แห่ง และบริษัทสาขาอีก 7 แห่งกระจายอยูทั่วภูมิภาคเอเชียและอเมริกา โดยมีพนักงานกว่า 1,300 คนที่เจียไต๋ เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของคุณธรรมและจริยธรรม มีความเป็นมืออาชีพ และมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อส่งมอบนวัตกรรมการเกษตร เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนของคนทั่วทั้งภูมิภาค
No comments:
Post a Comment