World Motorcycle Day กับ Royal Enfield:
4 ไลฟ์สไตล์สุดเท่ ที่ไม่ได้มีแค่ "บิด"
กรุงเทพฯ, 21 มิถุนายน 2567 พูดถึงวัน Word Motorcycle Day 21 มิถุนายนนี้… มั่นใจว่าเหล่าผู้ขับขี่อยากจะฉลองวันสำคัญนี้แทบจะทุกวัน เพราะ มอเตอร์ไซค์ไม่ใช่แค่ยานพาหนะที่จะพาเราไปสำรวจสถานที่ต่างๆ แต่มอเตอร์ไซค์ คือ จิตวิญญาณ ความชอบ สไตล์ เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้ผู้ขับขี่ และ Royal Enfield ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและยังคงเดินหน้าการผลิตอย่างต่อเนื่อง มีเรื่องราวและเรื่องเล่าจาก 4 ไบค์เกอร์ผู้หลงใหลใน Royal Enfield ที่ไม่ได้มีแค่ "บิด" เป็นชีวิตจิตใจ แต่พวกเขายังสะท้อนตัวตนและแพสชั่นผ่านรถคู่ใจคู่กายอีกด้วย
คุณจันทร์จ้าว เจ้าของรถ Continental GT 535 ทำให้ภาพจำเดิม ๆ ของเหล่าไบค์เกอร์ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ เมื่อสาวมั่นสายแฟกับไลฟ์สไตล์สายซิ่งอยู่ในคนเดียวกัน เธอได้ใช้ความชื่นชอบในด้านแฟชั่น มาตกแต่งรถ พร้อมMix & Match การแต่งตัวตามสไตล์ของตัวเองให้เข้ากับรถอยู่เสมอ ด้วยสีรถที่สดใสสะดุดตา แต่ยังคงความคลาสสิคของ Royal Enfield ไว้ได้ดี สะท้อนถึงนักขับขี่มอเตอร์ไซค์อันเป็นเอกลักษณ์ของคุณจันทร์จ้าวได้อย่างโดดเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น คุณจันทร์จ้าวได้กล่าวว่า “ถ้าเลือกรถจากดีไซน์เป็นหลักด้วยละก็ Royal Enfield ตอบโจทย์ ไม่ซ้ำใครแน่นอน” และนี่คือความลงตัวของแฟชั่นและจิตวิญญาณการขับขี่ที่แท้จริงกับ Royal Enfield
ใครจะคิดว่าเจ้าของรถรุ่น Himalayan สีฟ้าขาวสุดเท่ จะเป็นนางพยาบาลสาวเสียงหวานอย่างคุณปอยมี่ ด้วยหน้าที่การงานและไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์ก็มักจะสร้างความแปลกใจให้ผู้ที่พบเห็นอยู่ครั้ง คุณปอยมี่จึงพูดอยู่เสมอว่า พยาบาลก็คือคน ๆ นึงที่มีความชื่นชอบส่วนตัว และเธอก็ชื่นชอบการขับขี่รถคู่ใจอย่าง “น้องสกาย” Royal Enfield รุ่น Himalayan สีฟ้า-ขาว ที่สีเหมือนท้องฟ้า
คุณปอยมี่เปรียบน้องสกาย คือ ความสุขแบบ one stop service ที่พาไปทำงานได้ เที่ยวก็ดี “ทนถึก นั่งสบาย” คือคำนิยามความประทับใจที่มีต่อรถ Royal Enfield โดยเธอเริ่มซื้อรถมอเตอร์ไซค์ด้วยความชอบล้วน ๆ แต่มีโจทย์ที่ชัดเจน คือ 1. ค้นหาแนวที่ชอบ 2.เลือกคันที่ใช่ เมื่อเจอรถตรงโจทย์ ก็จะไม่เสียดายเลยที่เลือกมา สกิลไม่ต้องห่วง มันฝึกกันได้ สุดท้ายนี้คุณปอยมี่ได้ฝากเพื่อน ๆ นัดบิดว่า “ขับขี่ปลอดภัย ใส่หมวกด้วยนะค้า”
คำพูดสุดโรแมนติกนี้ไม่ได้มาจากภาพยนต์รัก แต่เป็นคำพูดที่คุณเอฟ ช่างมอเตอร์ เจ้าของรถรุ่นในตำนานอย่าง Classic 500 ผู้ชื่นชอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์กล่าวถึงการขี่รถ Royal Enfield สำหรับคุณเอฟแล้วการขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่ใช่แค่การเที่ยวเล่น แต่ยังเป็นการเรียนรู้สังคมใหม่ ๆ พบปะเพื่อนฝูงต่างวัย ต่างอาชีพ แต่มีจิตวิญญาณนักบิดร่วมกัน อีกทั้งการออกทริป งานอีเว้นท์ของ Royal Enfield ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เหล่านักบิดได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น เป็นอีกพื้นที่ของความชอบ ซึ่งความรักที่มีต่อรถRoyal Enfield ของคุณเอฟ เริ่มต้นมาจากน้องชายขี่รถมาจอดที่ร้าน แต่ด้วยดีไซน์ที่สวยจับใจจึงขอน้องชายทดลองขี่ หลังจากนั้นจึงตัดสินใจจองซื้อรถทันที เรียกได้ว่าเป็นรักแรกพบก็คงไม่ผิดนัก รักขนาดที่ว่า คุณเอฟได้สักลายรถคู่ใจตนเองพร้อมโลโก้ชื่อ Royal Enfield ไว้ที่หน้าท้อง เดิมทีคุณเอฟมักจะสักลายที่แสดงถึงตัวตน ทุกรอยสักจึงมีความหมาย มีเรื่องราวที่สะท้อนความเป็นตัวเอง เช่น รอยสักรูปมอเตอร์ที่แขนซ้าย รอยสักรูปโลโก้มูลนิธิที่ทำงานด้วยที่แขนขวา จึงไม่แปลกนักที่หนึ่งในรอยสักบนร่างกายจะเป็นรถสุดรักของตนที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต ฉะนั้นแล้ว หากคุณลังเลที่จะลองขี่รถมอเตอร์ไซค์แล้วล่ะก็ อย่ากลัวที่จะตกหลุมรักการขับขี่รถ Royal Enfield เพราะคุณจะรักจนเลิกรักไม่ได้เลยล่ะ
คุณแบงค์ ไบค์เกอร์ผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ เจ้าของรถ Interceptor 650 ที่ตกแต่งด้วยแนวคาเฟ่สุดเฉียบ ชวนให้เหลียวมองทุกครั้งที่พบเห็น คุณแบงค์ได้แชร์ว่า ที่ชอบ RE เพราะเป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แบรนด์นี้เรื่องเล่าเยอะไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ เลย ประกอบกับสไตล์การแต่งตัวสุดคูล ด้วยเสื้อหนังสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของเหล่าไบค์เกอร์ ผู้หลงใหลในสไตล์ Café Racer และประวัติศาสตร์ในยุค 60 คุณแบงค์จึงเป็นตัวแทนของเหล่านักบิดที่แสดงออกถึงความเป็นตัวเองผสานกับดีไซน์สุดเนี้ยบของรถ Royal Enfield ที่มีจิตวิญญาณของการนักบิดได้อย่างเต็มที่
World Motorcycle Day ปีนี้ Royal Enfield ขอเชิญชวนทุกคนมาค้นพบตัวตนที่แท้จริงผ่านรถคู่ใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครได้ที่ Royal Enfield ทุกสาขาทั่วประเทศ
######
เกี่ยวกับโรยัล เอ็นฟีลด์:
Royal Enfield แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มีสายการผลิตต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก ได้สร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่สง่างามมีเอกลักษณ์มาตั้งแต่ปี 1901 จากต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ได้ส่งต่อศาสตร์แห่งการสร้างสรรค์อันล้ำค่ามาสู่โรงงานผลิตในเมือง Madras เมื่อปี 1955 นับเป็นฐานการผลิตสำคัญที่ Royal Enfield สร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมรถสองล้อขนาดกลางในประเทศอินเดีย สเน่ห์และความน่าสนใจของ Royal Enfield คือความมีเอกลักษณ์ ไม่ซับซ้อน เข้าถึงได้ พร้อมมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานในการขับขี่ นับเป็นยานพาหนะที่เหมาะในการสำรวจเปิดโลก และแสดงออกถึงบุคลิกที่มีเอกลักษณ์ของผู้ขับ ซึ่งเป็นแนวทางที่แบรนด์เรียกว่า Pure Motorcycling
กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมของ Royal Enfield ได้แก่ Hunter 350, Classic 350, Meteor 350, New Super Meteor 650, Interceptor 650, Continental GT 650 รวมถึงมอเตอร์ไซค์แนวผจญภัย The All-New Himalayan, Scram 411 ADV Crossover และ Bullet 350 ซึ่งกลุ่มนักขับขี่ผู้หลงใหลในเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์และการตกแต่ง สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมายได้ตลอดทั้งปี ที่มีทั้งในประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ ตัวอย่างกิจกรรมที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ Motoverse หรือที่รู้จักในนาม Rider Mania ซึ่งเป็นการรวมตัวประจำปีของผู้ที่ชื่นชอบ Royal Enfield หลากหลายพันคน จัดขึ้นที่รัฐโกอา ประเทศอินเดีย และยังมีงาน Himalayan Odyssey ซึ่งเป็นการเดินทางประจำปีบนภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ผ่านภูเขาที่สูงที่สุด และสามารถสร้างความประทับใจได้มากที่สุดเช่นกัน
Royal Enfield คือหนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ Eicher Motors Limited ดำเนินธุรกิจผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 2,050 แห่ง ทั่วเมืองใหญ่ในอินเดีย รวมถึงมีการส่งออกไปสู่ 1,150 สโตร์ในอีกกว่า 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีศูนย์ดูแลเชิงเทคนิคระดับโลกสองแห่งในเมือง Bruntingthorpe สหราชอาณาจักร และในเมือง Chennai ประเทศอินเดีย โดยโรงงานผลิตที่ทันสมัยทั้งสองแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ Oragadam และ Vallam Vadagal ใกล้กับเมือง Chennai ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีโรงงานประกอบ CKD อันทันสมัย 5 แห่งทั่วโลก ได้แก่ เนปาล บราซิล ประเทศไทย อาร์เจนตินา และโคลัมเบีย และด้วยอัตรา CAGR เติบโตมากกว่า 35% ต่อปี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Royal Enfield นับเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางระดับโลกอย่างแท้จริง
No comments:
Post a Comment