ผู้เชี่ยวชาญชี้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังควรได้รับสารอาหารให้ครบถ้วน แนะวิตามินหลักที่ควรรับประทานในชีวิตประจำวัน - Siam Outlook

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Thursday, May 30, 2024

ผู้เชี่ยวชาญชี้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังควรได้รับสารอาหารให้ครบถ้วน แนะวิตามินหลักที่ควรรับประทานในชีวิตประจำวัน


ผู้เชี่ยวชาญชี้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังควรได้รับสารอาหารให้ครบถ้วน
แนะวิตามินหลักที่ควรรับประทานในชีวิตประจำวัน

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายไม่ให้เกิดความเจ็บป่วย ทั้งการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็เป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งสถาบันแบลคมอร์ส หน่วยงานพัฒนาภาพรวมด้านสุขภาพ พร้อมทั้งขับเคลื่อนงานวิจัย ให้ความรู้การใช้โภชนเภสัชภัณฑ์กับเภสัชกรและบุคลากรทางการแพทย์ เห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้จัดงานสัมมนา 1stCMEd Alumni ช่วยส่งเสริมเภสัชกรที่มีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำผู้บริโภค เกี่ยวกับการเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้อย่างเหมาะสม


คุณผุสดี สุจิตจร
 ผู้จัดการประจำประเทศไทย เกาหลี เวียดนามและฝ่ายดำเนินการภาคพื้น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท แบลคมอร์ส จำกัด กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดหลักสูตร CMEd (Complementary Medicine Education) เพื่อส่งเสริมให้เภสัชกรนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้กับผู้ป่วย หรือผู้บริโภค ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและมีประโยชน์มากในปัจจุบัน สำหรับการรักษาและดูแลสุขภาพโดยรวม


ดร.ภญ.อโนมา เจริญทรัพย์ 
ผู้จัดการด้านการศึกษา สถาบันแบลคมอร์ส กล่าวว่า การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเพื่อให้มั่นใจว่าได้รับสารอาหารครบถ้วน เพราะวิตามินบางชนิดช่วยเสริมฤทธิ์การทำงานของยา เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน จะต้องควบคุมในเรื่องของน้ำตาล และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งสารอาหารที่ช่วยควบคุมน้ำตาลให้ดีขึ้น เช่น ธาตุโครเมียม มีอยู่ในผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และธัญพืช การรับประทานอาหารให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอเป็นเรื่องยาก เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการมากมาย ตั้งแต่การเก็บเกี่ยวก็ผลต่อสารอาหาร ดังนั้นการเลือกทานวิตามินรวม ที่มีแร่ธาตุโครเมียมอยู่ด้วยจึงเป็นสิ่งจำเป็น และการเสริมสารอาหารแมกนีเซียมจะช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินมีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นกัน ทั้งนี้ผู้ป่วยเบาหวานจะต้องคำนึงถึงการเกิดภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับหลอดเลือดและภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งวิตามินซีจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดสารอนุมูลอิสระและการอักเสบของหลอดเลือ ส่วนน้ำมันปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยลดการอักเสบ ลดความเสี่ยงการเกิดหลอดเลือดอุดตัน รวมถึงช่วยลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ ที่สำคัญควรเสริมโพรไบโอติกส์ เพราะการได้รับยาอย่างต่อเนื่องจะก่อให้เกิดการเสียสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย


รศ.ดร.ภก.ไชยวัฒน์ ไชยสุต 
อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงบทบาทของโพรไบโอติกส์กับสุขภาพจิตว่า ผนังลำไส้มีเส้นประสาทเชื่อมโยงจากสมอง เรียกว่า วากัสเนิฟ หากระบบนี้ทำงานได้ดี มีการกระตุ้นอย่างเหมาะสม ร่างกายจะเข้าสู่สภาวะ ผ่อนคลาย โพรไบโอติกส์นอกจากช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้แล้ว ยังสามารถกระตุ้นวากัสเนิฟได้ การปรับสมดุลทางเดินอาหารในลำไส้ ยังช่วยให้ผนังลำไส้แข็งแรง ลดอาการอักเสบที่สมองและร่างกาย ลดอารมณ์แปรปรวน แนะนำให้รับประทานโพรไบโอติกส์ขณะท้องว่างเพื่อให้จุลินทรีย์ไปเกาะตามผนังลำไส้ โดยผู้ใหญ่ควรได้รับ 5 ถึง 25 พันล้านเซลล์ต่อวัน ส่วนเด็ก 1 ถึง 5 พันล้านเซลล์ต่อวัน นอกจากนี้การทานวิตามินบีรวม แมกนีเซียม และสมุนไพรบางชนิด เช่น เซนต์จอห์นเวิร์ต โสมอินเดีย จะช่วยจัดการความเครียด อาการนอนไม่หลับได้เช่นกัน ทั้งนี้ควรมีการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เช่น การบริหารกล้ามเนื้อที่คอผ่านกระบวนการร้องเพลง สวดมนต์ ทำสมาธิ กลั้วคอ ใช้ความเย็นประคบบริเวณคอ ล้วนเป็นกลไกช่วยกระตุ้นระบบวากัสเนิฟ หากทำได้จะช่วยให้ร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล จัดการความเครียด นำไปสู่สุขภาวะทางจิตใจที่สมดุลดีขึ้น


ภก.ณัฐที เทียนศิริ 
ผู้จัดการด้านการฝึกอบรมผลิตภัณฑ์ บริษัท แบลคมอร์ส จำกัด กล่าวว่า Good Health Change Everything สุขภาพดีเปลี่ยนได้ทุกอย่าง เริ่มต้นตั้งแต่การพักผ่อน ออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่ในสภาพสังคมปัจจุบัน การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนนั้นเป็นเรื่องยาก ทั้งนี้ในแต่ละวันร่างกายควรได้รับสารอาหารที่จำเป็น ประกอบด้วยกรดไขมันดี หรือโอเมก้า 3 ที่มีมากในอาหารประเภทปลา จะมีส่วนช่วยดูแลระบบประสาท สมอง ความจำ ควบคุมระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ต่างๆ รวมถึงช่วยลดภาวะการอับเสบในร่างกายได้อีกด้วย การรับประทานอาหารประเภทปลาให้ได้สารอาหารที่ดี อาจต้องมีการปรุงด้วยกรรมวิธีความร้อนต่ำ เช่น การเผาหรือนึ่งมากกว่าการทอดในน้ำมัน ควรทานปลาในปริมาณ 400-450 กรัมต่อครั้ง สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเรื่องที่หลายคนอาจไม่สามารถทำได้ จึงเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทน้ำมันปลาทดแทน


นอกจากนี้วิตามินซี เป็นสารอาหารที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ หากได้รับในปริมาณไม่เพียงพอก็ควรเลือกทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วย แต่ต้องตระหนักว่าวิตามินซีละลายได้ในน้ำ ควรดื่มน้ำ 1.5-2 ลิตร ต่อวัน สำหรับแร่ธาตุสังกะสี หรือ Zinc ก็สำคัญ เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกัน และระบบการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้ปกติมากขึ้น สุดท้ายคือการเลือกรับประทานวิตามินบีแบบรวมหลายชนิด จะช่วยให้สมองทำงานได้ตามปกติ เพิ่มความสดชื่น บรรเทาความอ่อนเพลีย ไม่ควรเลือกทานเพียงแค่ตัวใดตัวหนึ่ง เพราะสารอาหารที่ได้รับจะทำงานประสานร่วมกันและได้รับประโยชน์ที่ดี ซึ่งบริษัท แบลคมอร์ส ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากประเทศออสเตรเลีย มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์สุขภาพของคนไทยมาอย่างยาวนาน


นอกจากการออกกำลังกาย พักผ่อนนอนหลับเพียงพอ การรับสารอาหารที่ครบถ้วนเปรียบเหมือนจิ๊กซอว์ ที่เข้ามาเติมเต็มทำให้สุขภาพดี ร่างกายสามารถทำงานได้ปกติ จะทำให้ได้รับโอกาสมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน และอื่นๆในชีวิต

                   ....................................................................................

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages