เจสซี่ จาง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัยและพัฒนาของอินฟินิกซ์ กล่าวว่า "ปัจจุบันสมาร์ตโฟนในตลาดมีราคาสูงและไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้ทุกคน อินฟินิกซ์จึงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมสำหรับผู้บริโภคในราคาที่จับต้องได้ นอกเหนือจากนั้นแล้วการสร้างเทคโนโลยีที่มีคุณค่าถือเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิด Infinix Concept Phone 2021 และในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยี Infinix Concept Phone เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ของอินฟินิกซ์ต่อไปได้ในอนาคต”
นวัตกรรมที่ก้าวล้ำของ Infinix Concept Phone 2021
ครั้งแรกกับ Infinix Concept Phone 2021 ที่ผสมผสานเทคโนโลยีจากอิเล็กโตรโครมิกและอิเล็กโตรลูมิเนสเซนต์เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสรรค์ฝาหลังที่โดดเด่นด้วยลูกเล่นที่เปลี่ยนสีได้ โดยใช้ไฟฟ้าเป็นตัวดำเนินการและใช้แสงเป็นสื่อกลาง โดยฝาด้านหลังของสมาร์ตโฟนจะเปลี่ยนเป็นสีเทาและสีน้ำเงินเมื่อมีสายเรียกเข้า ส่วนในเวลาที่ชาร์จอุปกรณ์ฝาด้านหลังของสมาร์ตโฟนจะเปลี่ยนสีและมีแฟลชกะพริบตรงกลางเครื่อง
โดยสมาร์ตโฟนต้นแบบนั้น ได้มีการใช้ฟิล์มอิเล็กโตรโครมิกแบบแข็ง (SECF) ที่มีลักษณะบางเป็นพิเศษ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ประหยัดพลังงานและมีความโปร่งใส รวมเข้ากับฟิล์มอิเล็กโตรลูมิเนสเซนส์ (EL) เพื่อเป็นแนวทางนำไปสู่การต่อยอดพัฒนาในอนาคตกับสมาร์ตโฟนที่สามารถเปลี่ยนสีได้
ความรวดเร็วในการชาร์จที่ไร้ขีดจำกัด
เพื่อให้ได้การชาร์จไวที่ 160W และระบบการชาร์จแบบไร้สายความเร็ว 50W ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อินฟินิกซ์ได้นำเทคโนโลยีอย่าง Ultra Flash Charge, นวัตกรรม Super Charge Pump, กลไกการป้องกันความปลอดภัยกว่า 60 ตัว และเซลล์แบตเตอรี่แบบ 8C รวมเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อทำให้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 4000mAh สามารถชาร์จเต็มได้อย่างปลอดภัยภายในเวลา 10 นาที
สำหรับ Super Charge Pump คือ นวัตกรรมใหม่ที่เป็นการรวมตัวกันของชิปควบคุมกระแสไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้าสูงสุดถึง 4 ชิป รองรับการแปลงพลังงานได้สูง ทำให้สามารถแปลงการชาร์จได้ถึง 98.6% ช่วยลดอัตราการเกิดโอเวอร์โหลดและความร้อนที่สูงเกินไป อีกทั้ง Infinix Concept Phone 2021 ยังใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิกว่า 20 ตัว และอัลกอริธึมควบคุมอัจฉริยะที่ช่วยตรวจวัดอุณหภูมิขณะชาร์จได้อย่างชาญฉลาด สามารถปรับกำลังการชาร์จเพื่อให้สมาร์ตโฟนอยู่ในอุณหภูมิต่ำกว่า 40 องศาเซลเซียส หรือ 104 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งอินฟินิกซ์ได้ร่วมมือกับหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของโลกในการพัฒนาเซลล์แบตเตอรี่แบบใหม่ 8C ที่ช่วยลดความต้านทานภายในได้มากกว่าถึง 18% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ 6C จึงทำให้สมาร์ตเกิดความร้อนน้อยกว่าปกติและป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เสียหายได้อีกด้วย
นอกจากนี้ หากตรวจพบว่าอุปกรณ์เกิดความผิดปกติขณะการใช้งาน เช่น อุณหภูมิสูงเกินกำหนด มีแรงดันไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เกิดการรบกวนของแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น การป้องกันความปลอดภัยจะเริ่มทำงานทันที จึงทำให้มั่นใจได้ว่าสมาร์ตโฟนจะได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุด
การแสดงผลของหน้าจอที่ยอดเยี่ยม
Infinix Concept Phone 2021 ได้มีการปรับปรุงจอแสดงผลใหม่ โดยใช้ AM-OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ที่มาพร้อมกับขอบโค้ง 88 องศา และหน้าจอสัมผัสเรียบเนียนด้วยกระจกแบบ 3 มิติ นอกจากนี้แล้วผู้ใช้งาน ยังสามารถถ่ายภาพได้อย่างมืออาชีพด้วยฟีเจอร์ของ AI และกล้องหลังจัดเต็ม 3 ตัว ประกอบด้วยเลนส์หลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เลนส์อัลตราไวด์ 120 องศา และเลนส์เทเลโฟโต้ซูมได้สูงสุดถึง 60 เท่า ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดสูงสุด 32 ล้านพิกเซล จึงทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาดูสวยงาม คมชัดและสมจริง
คุณสมบัติที่สำคัญด้านอื่นๆ ของ Infinix Concept Phone 2021
1. มีตัวประมวลผล 64 บิต แบบ octa-core โดยแบ่งเป็น ARM Cortex-A76 2.05GHz 2 cores และ Cortex-A55 CPUs 2GHz 6 cores ทั้งนี้หนึ่งใน GPU ที่เร็วที่สุดคือ ARM Mali-G76 MP4(-900 MHz) มีแหล่งเก็บข้อมูลภายในอยู่ที่ 128GB และ 8GB
2. ใช้ระบบปฎิบัติการ Android™ 11 โดยซอฟต์แวร์ Android™ 11 ที่ถูกติดตั้งอยู่ใน Infinix Concept Phone 2021 จะมีเมนูปุ่มเปิด-ปิดใหม่ ฟีเจอร์การสื่อสาร และประวัติการแจ้งเตือน เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้สมาร์ตโฟนของคุณให้ดียิ่งขึ้น
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและข่าวสารใหม่ๆ ของอินฟินิกซ์ได้ที่เฟซบุ๊ก Infinix Mobile หรือเว็บไซต์ www.infinixmobility.com
###
เกี่ยวกับอินฟินิกซ์
อินฟินิกซ์ โมไบล์ (Infinix Mobile) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2556 เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ออกแบบ ผลิต และทำการตลาดโทรศัพท์มือถือให้ขยายตัวทั่วโลกภายใต้แบรนด์ อินฟินิกซ์ (Infinix) โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยผสานเข้ากับมือถืออย่างพิถีพิถัน นำเสนอสไตล์ที่โดดเด่น เด็มเปี่ยมไปด้วยพลังและประสิทธิภาพ เป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยและเป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานในทุกย่างก้าว ด้วยแนวคิดที่เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์อย่าง “THE FUTURE IS NOW” พร้อมกับแสดงตัวตนให้โลกได้เห็นว่าอินฟินิกซ์มุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ตลอดจนรูปลักษณ์ที่เฉียบและมีสไตล์สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่อยากตกเทรนด์
กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีการจำหน่ายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งทวีปแอฟริกา ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ โดยในช่วงปี พ.ศ. 2561 - 2563 อินฟินิกซ์ (Infinix) ได้ขยายตัวถึง 160% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และมีแผนใหญ่ที่จะสร้างมือถือระดับเรือธงที่มีดีไซน์ที่โดดเด่นและข้อเสนอที่คุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.infinixmobility.com
No comments:
Post a Comment