OMODA แบรนด์รถยนต์แรกของโลก กับคอนเซ็ปต์ ‘โลกเสมือน’ คอนเนคชาว “OMODER” สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำในจักรวาล “O-Universe” - Siam Outlook

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Sunday, March 31, 2024

OMODA แบรนด์รถยนต์แรกของโลก กับคอนเซ็ปต์ ‘โลกเสมือน’ คอนเนคชาว “OMODER” สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำในจักรวาล “O-Universe”

OMODA แบรนด์รถยนต์แรกของโลก กับคอนเซ็ปต์
‘โลกเสมือน’ คอนเนคชาว “OMODER”
สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำในจักรวาล “O-Universe”


หลังประกาศเตรียมเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบในปีนี้ OMODA & JAECOO (Thailand) เตรียมเปิดตัว OMODA C5 EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โมเดลแรกในประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในความน่าสนใจของรถยนต์ OMODA C5 EV ที่นอกจากจะมีดีไซน์ที่โดดเด่นและเทคโนโลยีสุดล้ำพร้อม ยังเป็นแบรนด์รถยนต์ “แบรนด์แรกของโลก” ที่ทำตลาดด้วยแนวคิดการตลาดบนโลกเสมือนในคอนเซ็ปต์ “O-UNIVERSE” หรือการสร้างจักรวาลที่จะเชื่อมต่อ OMODER หรือกลุ่มผู้ขับขี่ OMODA เข้าด้วยกันนั่นเอง ผ่านประสบการณ์ที่เป็น “มากกว่ารถยนต์” ด้วย 4 กุญแจสำคัญ ซึ่งประกอบด้วย ELECTRIC TECHNOLOGY การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าที่ปลอดภัย ENVIRONMENTAL SUSTAINABILITY การสร้างยนตรกรรมเพื่องสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน FUTURISTIC FASHION รถยนต์ที่แสดงออกถึงแฟชั่นแห่งโลกอนาคต และ LOHAS LIFESTYLE ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์ในแบบส่งเสริมทั้งสุขภาพกายและใจ รวมถึงใส่ใจสิ่งแวดล้อม ไปดูกันดีกว่าว่ากุญแจทั้ง 4 เหล่านี้ ช่วยเสริมประสบการณ์ให้กับ OMODER อย่างไรบ้าง


 “ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า (ELECTRIC TECHNOLOGY)” หัวใจสำคัญของการใช้รถในยุคนี้ คือการขับเคลื่อนที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม จากการคิดค้นพัฒนาทำให้รถยนต์ OMODA พร้อมที่จะสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครด้วยเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต อาทิ เทคโนโลยีการขับขี่ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยสูง ระบบ Energy Replenishment ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และขับขี่ได้ไกลกว่า รวมถึงกระจกห้องโดยสารที่ลดเสียงรบกวนได้ดีกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน เป็นต้น


 “ยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (ENVIRONMENTAL SUSTAINABILITY)” จากความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาให้รถยนต์ OMODA เป็นส่วนหนึ่งของการมอบประสบการณ์ให้กับผู้ขับขี่ พร้อมปั้นคอมมูนิตี้ที่เป็น “มากกว่ารถยนต์”ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น “New Journey New Life - Embracing Green Living” ทริปปั่นจักรยานที่ชวนเชิญผู้ขับขี่มาร่วมสนุกท่ามกลางธรรมชาติ รวมทั้งการสร้างความร่วมมือกับองค์กรการกุศลที่หลากหลายในระดับโลกอาทิ Arturo Allende Islands ผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมจากเม็กซิโก ที่ได้ริเริ่มโครงการการกุศลหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การดูแลกลุ่มเปราะบาง และการคุ้มครองสัตว์ ทั้งนี้ เพื่อตกย้ำจุดยืนสนับสนุนไลฟ์สไตล์คาร์บอนต่ำและความเป็นผู้นำด้านการมีวิถีชีวิตที่ยั่งยืนของแบรนด์ พร้อมทั้งให้ Omoder ทุกคนในคอมมูนิตี้ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่ดีเหล่านั้น


 “สุนทรียะแห่งโลกอนาคต (FUTURISTIC FASHION)” ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวเสมือนหลุดมาจากโลกอนาคต ของรถยนต์ OMODA เป็นผลจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการขับขี่ที่เหนือชั้น รวมกับสุนทรียะด้านการออกแบบ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ศิลปะ ดนตรี และแฟชั่น ส่งมอบประสบการณ์เฉพาะตัวสุดพิเศษ ให้ผู้ขับขี่ทุกคน พร้อมปะทะทุกความท้าทาย โดยมี OMODA เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิตและทุก ๆ กิจกรรม

 “ไลฟ์สไตล์ที่สมดุลระหว่างเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม E-LOHAS LIFESTYLE” จากการออกแบบที่สวยงามตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจการมีชีวิตที่ดีควบคู่ไปกับการมีสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ที่พร้อมลุยทุกสภาพแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกในห้องโดยสารอัจฉริยะ ระบบการตั้งค่าสำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet Friendly Setting) เทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไฟฟ้าจากรถออกไปใช้งาน โหมดสำหรับแคมปิ้ง (Camping Mode) เรียกได้ว่า รถยนต์ OMODA เข้าใจกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างดี ขณะเดียวกัน OMODER ก็มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพราะที่ OMODA & JAECOO ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาด เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในระยะยาว

ท้ายที่สุด รถยนต์ OMODA มุ่งมั่นที่จะเป็นยนตรกรรมแห่งกาลเวลา ที่เป็น “มากกว่ารถยนต์” ของผู้ใช้งานที่เป็นคนรุ่นใหม่รักอิสระ มีความคิดสร้างสรรค์และรักการเข้าสังคมในแบบ E-LOHAS ผ่านคอนเซ็ปต์ “O-Universe” ที่จะหลอมรวมผู้ขับขี่รถยนต์ OMODA ทุกคนเข้าด้วยกัน

                                                        ###

เกี่ยวกับ Chery

Chery Automobile Co., Ltd. ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 เป็นแบรนด์รถยนต์ระดับโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน Chery มุ่งมั่นเสมอว่าจะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้นในประเทศจีน เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และบราซิล นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งทีมวิจัยและพัฒนายานยนต์ระดับโลกที่มีบุคลากรมากกว่า 5,500 คน และก่อตั้งเทคโนโลยีองค์รวมและระบบ R&D ของผลิตภัณฑ์ ด้วยวิธีนี้ Chery ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ เช่น Arrizo, Tiggo และแบรนด์ EXEED ระดับไฮเอนด์ โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกมากกว่า 9.5 ล้านคัน

Chery เป็นที่รู้จักในชื่อ “Technological Chery" นับตั้งแต่การก่อตั้งเพื่อที่จะเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีเป็นหลัก หลังจากกว่า 20 ปีที่ได้ศึกษาในด้านยานยนต์พลังงานใหม่ Chery ได้สร้างความเป็นผู้นำด้วยแพลตฟอร์มประกอบรถยนต์สี่แห่ง ระบบย่อยทั่วไปห้าระบบ และ 7 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ New Energy Vehicle Integration (การบูรณาการยานพาหนะพลังงานใหม่), Vehicle Control Technology (เทคโนโลยีการควบคุมยานพาหนะ), Battery Management and Battery System Design (การจัดการแบตเตอรี่และการออกแบบระบบแบตเตอรี่), PHEV System Design (การออกแบบระบบ PHEV), Lightweight Technology (เทคโนโลยีน้ำหนักเบา), Intelligent Interconnection Design (การออกแบบการเชื่อมต่อโครงข่ายอัจฉริยะ) และ Range Extension and Hydrogen Fuel Technology (เทคโนโลยีการขยายระยะและเทคโนโลยีเชื้อเพลิงไฮโดรเจน)

ในด้านการผลิตอัจฉริยะ Chery ได้เปิดตัวกลยุทธ์ "CHERY LION" โดยค่อยๆ ศึกษาถึงต้นแบบอัจฉริยะครบวงจรของการวิจัยและพัฒนา การผลิต การตลาด และการบริการ ตลอดจนบรรลุการผลิตจำนวนมากและการเปิดตัว L2.5 เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ สำหรับการขยายตลาดทั่วโลก Chery เป็นบริษัทรถยนต์แห่งแรกของจีนที่ส่งออกยานยนต์ ชิ้นส่วน CKD เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์และอุปกรณ์ไปทั่วโลก จนถึงปัจจุบัน Chery ดำเนินธุรกิจในหลายภูมิภาคทั่วโลกครอบคลุม 80 ประเทศ และตั้งโรงงานในต่างประเทศ 10 แห่ง มีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการในต่างประเทศมากกว่า 1,500 แห่ง มีผู้ใช้เกือบ 10 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงผู้ใช้จำนวน 1.95 ล้านคนนอกประเทศจีน นอกจากนี้ Chery ยังครองอันดับหนึ่งในด้านการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจากประเทศจีนเป็นเวลา 20 ปีติดต่อกัน

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages