“ห้างแว่นท็อปเจริญ” ร่วมกับ “มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย”ฉลองความสำเร็จครบรอบ 10 ปี “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ”พร้อมประกาศสานต่อโครงการฯ อีก 5 ปี - Siam Outlook

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Wednesday, December 5, 2018

“ห้างแว่นท็อปเจริญ” ร่วมกับ “มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย”ฉลองความสำเร็จครบรอบ 10 ปี “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ”พร้อมประกาศสานต่อโครงการฯ อีก 5 ปี



“ห้างแว่นท็อปเจริญ” ร่วมมือกับ “มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย” ฉลองความสำเร็จในโอกาสครบรอบ 10 ปี “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ภายใต้พระราชประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือผู้สูงวัยในถิ่นทุรกันดารที่มีปัญหาด้านสายตาให้กลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 โครงการประสบความสำเร็จในการให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยในถิ่นทุรกันดาร ที่มีปัญหาด้านสายตากว่า 50,000 ราย รวม 124 พื้นที่ ครบทุกจังหวัดของประเทศ โดยล่าสุด “ห้างแว่นท็อปเจริญ” ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการสานต่อโครงการอย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 5 ปี จนถึงปี 2567 พร้อมเชิญชวนคนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลผู้สูงวัยในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการดูแลสายตาของผู้สูงวัย และเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในอีก 3 ปีข้างหน้าอีกด้วย


คุณนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการห้างแว่นท็อปเจริญ กล่าวว่า “ห้างแว่นท็อปเจริญดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญาที่ว่า “เพราะเราห่วงใยดวงตาของคุณ เฉกเช่นดวงตาของเรา” จึงมุ่งมั่นในการจัดทำโครงการเพื่อสังคมต่างๆ ในการช่วยเหลือด้านสายตาให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ที่ได้ร่วมกับมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ภายใต้พระราชประสงค์ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อช่วยเหลือผู้สูงวัยในถิ่นทุรกันดารที่มีปัญหาด้านสายตาทั่วประเทศ ให้สามารถกลับมามีสายตาที่ดีขึ้น สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาโครงการ พบว่าปัญหาด้านสายตาส่วนใหญ่ของผู้สูงวัยคือ อาการสายตายาวตามอายุ ซึ่งโครงการได้ทำการตรวจวัดสายตา ประกอบแว่นใหม่ และส่งมอบให้กับผู้สูงวัยที่ต้องการความช่วยเหลือฟรีเป็นจำนวนรวมกว่า 5 หมื่นอัน ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายตาอีกด้วย”

"ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการช่วยเหลือผู้สูงวัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอีก 3 ปีข้างหน้า ในโอกาสครบรอบ 10 ปีแห่งความสำเร็จนี้ ห้างแว่นท็อปเจริญจึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการสานต่อโครงการต่อเนื่องเพิ่มอีก 5 ปี ในปี พ.ศ.2563-2567 เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงวัยที่มีปัญหา และต้องการรับความช่วยเหลือด้านสายตาที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไปในพื้นที่ทุรกันดารต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งโครงการได้รับความร่วมมือจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในการรับหน้าที่คัดกรองกลุ่มผู้สูงวัยดังกล่าว เพื่อเข้ารับการบริการจากทีมผู้เชี่ยวชาญของห้างแว่นท็อปเจริญที่ได้ลงพื้นที่นั้นๆ อาทิ การบริการตรวจวัดสายตา ตรวจสุขภาพดวงตาและประกอบแว่นใหม่ฟรีเป็นประจำทุกเดือน นอกจากนี้ หากพบว่ามีผู้สูงวัยที่เป็นโรคตา และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยแว่นตา ทางโครงการจะนำส่งผู้ป่วยเหล่านี้เข้ารับการรักษาอาการต่อที่ศูนย์รักษาตาท็อปเจริญอีกด้วย จากเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของทั้ง 3 พันธมิตรในการร่วมดำเนินโครงการต่อเนื่องในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ เราคาดว่าโครงการจะสามารถให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยที่มีปัญหาด้านสายตาได้อีกกว่า 3 หมื่นราย"

ด้าน รศ.พญ.นวลจันทร์ ปราบพาล กรรมการอำนวยการและเลขาธิการ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย กล่าวว่า “มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย จัดตั้งขึ้นโดยพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย มีหน้าที่ให้การสงเคราะห์เด็กและผู้เยาว์ที่ถูกทอดทิ้ง ทั้งยังให้ความสำคัญด้านสุขภาพและการดำเนินชีวิตของผู้สูงวัยอีกด้วย และหนึ่งในปัญหาสำคัญที่พบในกลุ่มผู้สูงวัย คือความเสื่อมประสิทธิภาพของดวงตา ซึ่งปัญหานี้ส่งผลให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน การประกอบอาชีพและในบางรายไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารหรือพื้นที่ห่างไกล ในโอกาสการสานต่อโครงการต่อเนื่องอีก 5 ปี สภากาชาดไทยจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมกันให้การช่วยเหลือผู้สูงวัยที่มีปัญหาด้านสายตาได้เพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ผู้สูงวัยกลับมามีสายตาที่ดีขึ้น และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข ทั้งยังสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองและบุตรหลานได้ และไม่เป็นภาระต่อสังคมอีกด้วย”

นายแพทย์นพวุฒิ ตรีพรชัยศักดิ์ จักษุแพทย์และผู้อำนวยการศูนย์การรักษาตาท็อปเจริญ กล่าวว่า "การเตรียมความพร้อมให้กับผู้สูงวัยใกล้ตัวในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพดวงตา เพราะ "ดวงตา" เป็นอวัยวะหนึ่งที่มีความบอบบางและมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการดำรงชีวิตของคนเรา และเมื่อายุมากขึ้นเท่ากับว่าดวงตาถูกใช้งานมาเป็นเวลานานขึ้นด้วย ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคและปัญหาทางด้านสายตาต่างๆ อาทิ โรคต้อกระจก ต้อหิน จุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม ภาวะเบาหวานขึ้นจอตา ภาวะสายตายาวตามอายุ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม ที่เกิดจากการใช้อุปกรณ์ดิจิตอลหรือคอมพิวเตอร์ เป็นเวลานานดโยไม่ได้พักสายตา ประกอบกับแสงสีน้ำเงิน (Blue light) จากหน้าจอของอุปกรณ์ดังกล่าวส่งผลให้กล้ามเนื้อตาล้า มีอาการตาแห้ง แสบตา เคืองตา ปวดตา ตาพร่า เกิดภาพเบลอหรือภาพซ้อน ปวดศีรษะ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้สูงวัยจำนวนมากใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในชีวิตประจำวันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง"

กิจกรรมฉลองความสำเร็จครบรอบ 10 ปี "โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ" ยังได้รับเกียรติจากดาราศิลปินชื่อดัง เข้าร่วมงานเพื่อร่วมเป็นจิตอาสาในการส่งมอบกำลังใจไปยังผู้สูงวัยที่มีปัญหาด้านสายตาในถิ่นทุรกันดารทุกพื้นที่อย่างไม่หยุดยั้งอีกด้วย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook.com/TopCharoenOpticalOfficial เว็บไซต์ www.topcharoen.co.th ไลน์ @top_charoen หรือ โทร.0-2612-4170

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages