คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) เผยว่า แนวโน้มและภาพรวมอุตสาหกรรมธุรกิจการขายสินค้าตรงสู่กลุ่มผู้บริโภค ณ ปัจจุบันมีมูลค่าสูงมาก เห็นชัดได้จากการ WFH หรือการอยู่บ้านซึ่งเป็นผลพวงที่กระทบมาจากภาวะโควิด-19 ที่กลับส่งผลดีให้มีการซื้อขายมากขึ้น ในขณะเดียวกันแม้ประเทศไทยจะอยู่ในสภาวะความผันผวนแต่ JKN Best Life ก็ปรับกลยุทธ์การตลาดอยู่เสมอให้มีความยืดหยุ่นทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้นและเราก็เข้าถึงผู้บริโภคเพื่อผลักดันยอดขายได้มากขึ้นเช่นกัน
ล่าสุดบริษัทในเครือของเราอย่าง JKN Best Life ก็ได้ต่อยอดเสริมแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้นั่นคือการนำพาองค์กรขับเคลื่อนไปสู่การเป็น “Content Commerce Company” เข้าซื้อหุ้นที่ 51% ของกลุ่มบริษัท ไฮช้อปปิ้ง จำกัด ผู้ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับทีวีโฮมช้อปปิ้งที่มีการเผยแพร่และออกอากาศอย่างหลากหลายช่องทางและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายในรายการที่มีชื่อว่า “High Shopping” ทาง PSI ช่อง 46/ GMMZ ช่อง 43/ INFOSAT ช่อง 46 / DTV ช่อง 37 / เจริญเคเบิ้ล ช่อง 9 TOT IPTV ช่อง 38 / AIS Play ช่อง 800 / 3BB TV ช่อง 88 และ LOOX TV Application
ปัจจุบัน High Shopping นั้นมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าตรงและเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในราคาที่คุ้มค่าแต่ได้รับสินค้าพรีเมี่ยม ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย มีรายการสินค้าซึ่งทำการซื้อขาย ณ ปัจจุบันที่ 2,500 รายการ ครอบคลุมทั้งกลุ่มสินค้าด้านแฟชั่นความงาม สินค้าในครัวเรือน เครื่องออกกำลังกาย สินค้าตามสมัยนิยม และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นทั้งสินค้าที่ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศไทย และหมายรวมถึงสินค้านำเข้าด้วยเช่นกัน
High Shopping นั้นมีฐานลูกค้าอยู่ประมาณ 1,000,000 ราย มีคำสั่งซื้ออยู่ประมาณ 20,000 – 40,000 รายการต่อเดือน มีการจ่ายค่าสินค้าและบริการเฉลี่ยที่คนละ 1,000 บาทต่อหนึ่งรายการ หรือมียอดเงินสะพัดที่มากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้การเข้ามาถือหุ้นที่ High Shopping นี้ นอกจากมีฐานลูกค้าที่ชัดเจนและแนวโน้มการค้าที่ประมาณการได้คมชัดแล้ว JKN Best Life ยังได้ทั้ง Business Knowhow ระบบการบริหารจัดการธุรกิจขายสินค้าตรงสู่กลุ่มเป้าหมายรวมถึงมีเจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์ เรียกได้ว่าเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพพร้อมในการดำเนินงานต่อได้ทันที คาดว่าจะสามารถสร้างรายรับเพิ่มอีก 100 ล้านบาทภายในสิ้นปี 64 และตั้งเป้าโกยอีก 500 ล้านบาทในปี 65
สรุปภาพรวม ภายใต้ธุรกิจของ JKN หรือ จักรพงษ์ เน็ตเวิร์ค ของมาดามแอนนั้น ในปี 64 นี้ก็เดินหน้าลุยสร้างบิ๊กดีลต่างๆ เพื่อเสริมให้เน็ตเวิร์คแห่งนี้แข็งแกร่งและก้าวไกลไปสู่ความยั่งยืน โดยมีความสอดคล้องกับการตลาดยุค4.0 ที่ว่าด้วยการเชื่อมต่อหรือรวมทุกรูปแบบเข้าด้วยกันแบบบูรณาการจนกลายเป็น O2O (online to offline) แบบ Multi-Channel และเพิ่มเป็น Multi-Level ในรูปแบบการตลาด เพื่อสอดรับเทรนด์ New Normal ซึ่งถือว่าเป็นวิวัฒนาการทางสังคมที่ก้าวเข้าสู่ Digital Economy หรือ เศรษฐกิจดิจิทัล ตามแผนยุทธศาสตร์ที่มุ่งมั่นตั้งใจและไม่หยุดนิ่งของ JKN คุณจักรพงษ์ปิดท้าย
No comments:
Post a Comment