นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศไทยได้พยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับภาคการท่องเที่ยวมาตลอดในระยะเวลากว่า 1 ปี โดยเริ่มด้วยการเปิดพื้นที่นำร่องเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปแบบ New normal เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมพร้อมกับเปิดประเทศ อาทิ โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และขยายไปจังหวัดอื่นๆ ตามมาเป็นลำดับ ทำให้ภาคการท่องเที่ยวค่อยๆ ฟื้นฟูอย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้แล้วผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็จะต้องปรับตัวให้พร้อมกับแนวโน้มการท่องเที่ยวและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจของตนเพื่อให้ก้าวตามทันผู้บริโภค
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า นวัตกรรมมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศ นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเกิดขึ้นก็เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ก็ทำให้ผู้ประกอบการต้องหันไปใช้นวัตกรรมนั้นๆ ด้วย เพื่อให้เท่าทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไม่ควรมองข้ามสิ่งเหล่านี้ กลับจำเป็นที่จะต้องมองหานวัตกรรมมาเสริมประสิทธิภาพการดำเนินของธุรกิจให้สามารถดำรงต่อไปได้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่จะมาช่วยผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพราะเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของนวัตกรรมที่มีต่ออุตสาหกรรม ดังนั้นเราจึงได้จัดโครงการส่งเสริมนวัตกรรม อาทิ TAT Travel Tech StartUp โครงการดีๆ เหล่านี้ เรายังคงดำเนินต่อไป เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมด้านท่องเที่ยวของคนไทย จนต่อเนื่องมาถึงโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยวยุคดิจิทัล ที่จัดขึ้นอยู่ขณะนี้ เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างผู้พัฒนานวัตกรรมและผู้ประกอบท่องเที่ยวได้มาพบกัน เจรจาธุรกิจร่วมกัน และเกิดการนำไปใช้จริงในธุรกิจ สร้างระบบนิเวศทางธุรกิจให้เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป
โครงการฯ นี้เราได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมท่องเที่ยวต่าง ๆ, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai), กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TEDFund) , กลุ่มธนาคาร อาทิ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank), ธนาคารกรุงเทพ รวมถึงนักลงทุนจากสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนส่วนบุคคล ทาง ททท. ต้องขอขอบคุณทุก ๆ หน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยให้ก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลในครั้งนี้”
สำหรับงาน Empowering Tech Tourism week Virtual Event จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 15 กันยายน 64 ภายในงานพบ Virtual Seminar งานสัมมนาโดยวิทยากรชั้นนำ อัดแน่นด้วยเนื้อหาที่ให้ความรู้จากหลากหลายกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว และเจาะลึกถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการในจังหวัดท่องเที่ยว อาทิ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี, Virtual Mart เวทีสำหรับนำเสนอนวัตกรรมที่น่าสนใจจากเจ้าของนวัตกรรม, Virtual Innovation Booths บูธผู้พัฒนานวัตกรรมเพื่อผู้ประกอบการ จัดแสดงนวัตกรรมที่น่าสนใจ สามารถชมข้อมูลนวัตกรรม และทำนัดหมายเจรจาธุรกิจได้แบบ Online, TAT CLINIC Virtual Booths คลินิกให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ Supporting Organizations Virtual Booths บูธให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ โดยองค์กรผู้สนับสนุนผู้ประกอบการและผู้พัฒนานวัตกรรม ได้แก่ depa, NIA, TEDFund, SMEDBank, ธนาคารกรุงเทพฯ และTVCA
พิเศษ! ลุ้นรับของที่ระลึกในงานมากมาย อาทิ Mi TV Stick มูลค่า 1,350 บาท, Mi Casual Daypack, Gift Voucher Tops Super Market, Starbuck เป็นต้น สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://www.empoweringtechtourism.com/seminar/event_agenda เข้าชมงาน Empowering Tech Tourism week Virtual Event ได้ที่เว็บไซต์ https://www.empoweringtechtourism.com/seminar/main_map หรือ https://www.empoweringtechtourism.com คลิกที่ Pop up หรือ Banner สามารถรับชมการถ่ายทอดสดตามวันและเวลาที่กำหนด และรับชมย้อนหลัง
No comments:
Post a Comment