นายวรกร วีราพัชร์ ประธานกรรมการบริหาร HAPPY VENTURES Co., Ltd. เปิดเผยว่า HAPPY VENTURES เติบโตมาจาก Software consultant , Software Integrator ด้วยความที่เราเป็นสายเทคโนโลยีด้วย และหลงใหลในคำว่า “นวัตกรรม” ระหว่างทางเราจึงมีโอกาสในการสร้างสรรค์ธุรกิจนวัตกรรมหลากหลายรูปแบบ Prop Tech, Agri Tech, Satellite and Drone Image Processing and AI, Media + Live Commerce Chat Bot Solution, New Retail Technology และจนมาถึง Fin Tech คือ HAPPY PAY ธุรกรรมการเงินออนไลน์ใหม่
ซึ่ง HAPPY PAY เกิดจากการรวมตัวของ 3 ค่ายธุรกิจผู้นำของตลาด โดยใช้ความโดดเด่นในการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีของแต่ละค่ายมาสร้างทางเลือกและตอบโจทย์ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ Touchless Economy ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การให้บริการระบบ Cloud and AI ของ HUAWEI TECHNOLOGIES (Thailand) Co., Ltd. ที่มีเสถียรภาพ และมีมาตรฐานในระดับสากล หรือ HAPPY VENTURES เองที่มี Platform และ Software ที่รองรับผู้ใช้บริการได้อย่างครบวงจร พร้อม ครบ จบ ในที่เดียว อีกทั้งเรายังได้การเสริมทัพจาก SUNMI Thailand ที่มีฮาร์ดแวร์ที่พร้อมตอบโจทย์ผู้ประกอบการเพื่อความสะดวกในการรับเงิน รวมถึงสร้างความสมบูรณ์ให้กลไกการซื้อขายมากขึ้น
จุดเด่นของ HAPPY PAY คือ เป็น Complete Financial Service บริการทางการเงินแบบครบวงจร รองรับทั้ง Offline และ Online ในรูปแบบของการเชื่อมต่อระบบการชำระเงิน การซื้อขายบน Platform ได้เลยทันที รองรับผู้ประกอบการ E Commerce ที่มีเว็บไซต์เพื่อประชาสัมพันธ์และเก็บข้อมูลของสินค้า สามารถทำการซื้อขายได้เลยทันทีกับ HAPPY PAY โดยไม่ต้องออกแอพนั้นมาโอนแอพนี้สลับไปมาอย่างที่เราคุ้นเคย
นายวรกร กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งความโดดเด่น คือ HAPPY PAY Merchant Solution Platform หมายถึงเราสร้างโอกาส ให้กับผู้ที่มีความต้องการจะเปิดร้านขายของแบบครบวงจร แต่ไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เรามี Solution รองรับผู้ประกอบการเหล่านี้ได้ง่ายๆ เพียงแค่กรอกข้อมูลของสินค้า เลือกประเภท ของสินค้า ตั้งราคาพร้อมคำอธิบายสินค้า เมื่อลงทะเบียนครบถ้วนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเป็นผู้ประกอบการบนโลกออนไลน์ได้อย่างสมบูรณ์
ซึ่งบริการของ HAPPY PAY ในเฟสแรก จะรองรับผู้ประกอบการที่มี Platform เป็นของตัวท่านเองแล้ว เช่น มี Website แล้ว แต่ยังต้องพึ่งพาขั้นตอนการโอนจ่าย แล้วแจ้งสลิปอยู่ ในวันนี้ปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไขด้วย HAPPY PAY เพราะเราสามารถเชื่อมต่อระบบการชำระเงินหลังการสั่งซื้อสินค้าไว้บน Platform ของท่านได้แล้ว และด้วยความเสถียรของ Ai ยังมีความสามารถในการเก็บสถิติการใช้จ่ายและแนวทางพฤติกรรมของผู้บริโภคพร้อมรายงานสรุปให้ผู้ประกอบการได้อีกด้วย
และในเฟสต่อๆ ไป HAPPY PAY จะมาพร้อมรูปแบบของการบริการ Mobile Application ที่สามารถ Create & Develop ได้อัจฉริยะเพิ่มขึ้น เช่น ระบบการชำระผ่าน QR Code ที่เราสามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง และกำหนดอายุในการใช้งานได้ รวมถึงระบบการผ่อนชำระ หรือ Installment ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าผ่อนชำระกี่งวด กี่เดือน จบครบในเพียงแอพเดียว
นายวรกร กล่าวอีกต่อไปว่า ตอนนี้สังคมกำลังก้าวเข้าสู่การเป็น Touchless Economy หรือ สังคมไร้การสัมผัส ซึ่ง Cashless Economy เป็นหนึ่งในสมการของ Touchless Economy อยู่แล้วตามโครงสร้าง การจ่ายเงินหรือการทำธุรกรรมการเงินก็เติบโตขึ้นตามลำดับ เราเล็งเห็นว่า Market Cap ในตอนนี้ยังไม่เติบโตมาก และมีโอกาสที่จะเติบโตอย่างมหาศาลในอนาคต HAPPY VENTURES จึงเข้ามาเป็นผู้เล่นรายหนึ่งในจุดนี้ เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนา Product ให้เติบโตไปพร้อมกับการเติบโตของตลาดต่อไป
ทางด้าน คุณปิยะธิดา อิทธิระวิวงศ์ ประธานกรรมการ ธุรกิจคลาวด์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า การประกาศถึงความร่วมมือเชิงนวัตกรรมครั้งใหม่ ในการพัฒนาธุรกรรมการเงินออนไลน์ใหม่ HAPPY PAY ในครั้งนี้ จะมาช่วยยกระดับอุตสาหกรรมด้านธุรกรรมทางการเงินในประเทศไทย สู่เศรษฐกิจดิจิทัลยุคสังคมไร้เงินสดไปอีกขั้น
ซึ่ง หัวเว่ย ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารชั้นนำ ได้ร่วมกับ 2 บริษัทไอทีชั้นนำสัญชาติไทย ที่เชี่ยวชาญด้านธุรกรรมทางการเงิน ได้แก่ HAPPY VENTURES และ SUNMI สรรค์สร้างนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ให้แก่ภาคธุรกิจในประเทศไทย จะมารองรับการมาถึงของสังคมไร้เงินสด 100% ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ยกระดับมาตรฐานความสะดวกสบาย รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยด้านการทำธุรกรรมทางการเงินให้แก่ผู้ใช้งานชาวไทยทั่วประเทศพร้อมกันไปด้วย
ประเทศไทยถือว่ามีอัตราการเติบโตด้านการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิทัลสูงสุดเป็นอันดับต้นๆ ในอาเซียน โดยทั้งภาครัฐบาล และภาคเอกชนต่างมีส่วนช่วยขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานเชิงดิจิทัลในประเทศไทยอย่างเต็มที่ ดังจะเห็นได้จากแผนแม่บทด้านไอซีทีหลากหลายโครงการจากภาครัฐในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และจากการเดินหน้าผลักดันนวัตกรรมโครงข่ายหรือการให้บริการทางอิเล็คทรอนิกส์รูปแบบใหม่แก่ผู้ใช้งานชาวไทยจากภาคธุรกิจด้านไอซีที ภาคการเงินการธนาคาร หรือแม้แต่ภาคธุรกิจค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง
คุณปิยะธิดา กล่าวทิ้งท้ายว่า ทางหัวเว่ย ประเทศไทย มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันประเทศไทยไปพร้อมกับทุกภาคส่วน ในฐานะที่เป็นทั้งเจ้าของเทคโนโลยีด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ รวมทั้งบริการด้าน ICT และ Cloud ในระดับโลก เพื่อการเติบโตไปด้วยกันอย่างแข็งแกร่งภายใต้เศรษฐกิจในยุคดิจิทัล ที่ตอบรับวิสัยทัศน์ของเราที่ต้องการ ‘นำเทคโนโลยีดิจิทัลสู่ทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ’
No comments:
Post a Comment