ทีโอที ร่วมกับ มิวสเปซ ศึกษาความเป็นไปได้ของดาวเทียมวงโคจรต่ำ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมรับไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัลในอนาคต ล่าสุดการยิงจรวด Blue Originเพื่อทดสอบการทำงานอุปกรณ์ดิจิทัลในอวกาศ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2563 เวลา 20.35 น. โดยภายในจรวดประกอบด้วยชุดการทดลองของ ทีโอที ที่บรรจุภายใน Single Payload Locker ของ Blue Origin คือ TOT Data Center Payload หลังจากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และขยายผลดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
นายมรกต กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีโอที และ มิวสเปซ ต้องการผลักดันกิจการอวกาศของประเทศไทยให้มีที่ยืนในสังคมโลกในด้านกิจการอวกาศอย่างจริงจัง ไอเดียด้านการทำ Space IDC เป็นไอเดียที่จุดประกายให้กับแวดวงโทรคมนาคมไทย ทีโอที และ
มิวสเปซ อยากให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนสิ่งที่ทำ ซึ่งไม่ใช่เป็นการแข่งขันกันแต่เป็นการร่วมมือในการทำ Mission เรื่องกิจการอวกาศโดยคนไทยมีส่วนร่วม พวกเราก้าวใหญ่มาก หวังให้เป็นแรงบันดาลใจให้ฮึกเหิมก้าวไปข้างหน้าได้อีก และในอนาคตอันใกล้นี้ ทีโอที จะมีงานจากความร่วมมือกับ มิวสเปซ อย่างต่อเนื่อง
นายวรายุทธ เย็นบำรุง กรรมการและ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิว สเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า mu Space Corp ร่วมกับ Blue Origin ทำการส่งชุดการทดลองทั้งหมด 5 โมดูลขึ้นไปในอวกาศกับจรวด New Shepard เที่ยวบิน NS-13 ซึ่งเดินทางขึ้นสู่อวกาศในวงโคจรแบบ Sub-orbital (ไปแล้วกลับ) โดย mu Space Corp ส่งอุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์ไปพร้อมกับยาน New Shepard เที่ยวบิน NS-13 ใน Single Payload Locker และ Mini Payload Locker ทั้งหมด 5 โมดูล ขั้นตอนต่อไปเมื่อได้ข้อมูลกลับมา มิวสเปซจะร่วมกับ ทีโอที นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ และนำผลที่ได้มาออกแบบอุปกรณ์ครั้งต่อไป โดย คาดจะมี Mission ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นให้เร็วๆ นี้
No comments:
Post a Comment