ททท. ชี้ความสำเร็จ “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 42” มีผู้เข้าร่วมงานฯ ทะลุเป้าหมาย 152,799 คนและสร้างรายได้ภายในงานสูงถึง 63 ล้านบาท - Siam Outlook

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Friday, April 5, 2024

ททท. ชี้ความสำเร็จ “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 42” มีผู้เข้าร่วมงานฯ ทะลุเป้าหมาย 152,799 คนและสร้างรายได้ภายในงานสูงถึง 63 ล้านบาท


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศความสำเร็จการจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 42” วันที่ 28 มีนาคม – 1 เมษายน 2567 ณ ชั้น G ฮอลล์ 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 152,799 คน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวของปีที่ผ่านมาและสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ สร้างรายได้หมุนเวียน 63,487,357 บาท ซึ่งกว่าร้อยละ 96 ของผู้เข้าร่วมชมงานพึงพอใจการจัดงานและเกิด แรงบันดาลใจในการออกเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 89.82 โดยมี เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ครองแชมป์ 3 จังหวัดที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวสูงสุด รวมถึงการดำเนินการกิจกรรม “Zero Waste to Landfills” ปีที่ 2 ได้รับความร่วมมือจากผู้ร่วมงานและผู้ประกอบการเป็นอย่างดี สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 12,857.78 กิโลคาร์บอน นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New Ecosystem สู่เป้าหมาย Sustainable Tourism อย่างแท้จริงในอนาคต


นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า เทศกาลเที่ยวเมืองไทยครั้งที่ 42 ประจำปี 2567 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานตลอดระยะเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2567 ถึง 1 เมษายน 2567 อยู่ที่ 152,799 คน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้และเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 104.88 และสร้างรายได้หมุนเวียนในงานฯ 63,487,357 บาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นหมวดอาหารและเครื่องดื่มมากที่สุด ร้อยละ 29.79 สินค้าของที่ระลึกท้องถิ่น ร้อยละ 24.01 สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ร้อยละ 7.67และอื่น ๆ ร้อยละ 2.01 ซึ่งผู้เข้าร่วมงานมีความประทับใจต่อการนำเสนออัตลักษณ์ท้องถิ่นทั้ง 5 ภูมิภาคในโซนหมู่บ้านต่าง ๆ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจและความต้องการออกเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 89.82 โดยจังหวัดที่มีผู้สนใจเดินทางท่องเที่ยวสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ เชียงราย ชลบุรี จันทบุรี สุราษฎร์ธานี น่าน กาญจนบุรี และระยอง ตามลำดับ สำหรับความเห็นต่อการเข้าชมงาน พบว่า ผู้เข้าร่วมงานฯ ร้อยละ 89.49 เห็นว่าข้อมูลสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่นำเสนอภายในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ครั้งนี้ ทำให้เกิดความสนใจท่องเที่ยวชุมชนและสัมผัสวิถีไทยมากถึง ร้อยละ 89.49 และทำให้ได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ร้อยละ 87.68 ข้อมูลสินค้าและบริการที่นำเสนอในงานน่าสนใจ ร้อยละ 86.70 ขณะที่ร้อยละ 85.55 ทำให้เกิดความสนใจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และดูแลสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ การดำเนินการกิจกรรม “Zero Waste to Landfills” เป็นปีที่ 2 ถือว่าประสบความสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งและเป็นแนวโน้มที่ดีต่อการมุ่งสู่หมุดหมายการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Sustainable Tourism) ทำให้ผู้เข้าร่วมงานและผู้ประกอบการร่วมกันคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี ใช้ภาชนะที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งภาระให้กับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการสร้างขยะภายในงาน ซึ่งตลอดระยะเวลาการจัดงาน มีปริมาณขยะที่จัดเก็บได้ทั้งหมดจำนวน 17,537 กิโลกรัม โดยขยะประเภทต่างๆ จะส่งต่อให้พันธมิตรเพื่อกำจัดอย่างถูกวิธี ได้แก่ ขยะเศษอาหาร (อินทรีย์) ส่งเข้าโครงการ “ไม่เทรวม” ของ กรุงเทพมหานคร (เขตคลองเตย) เพื่อนำไปหมักทำปุ๋ยส่งให้ชาวสวนทำการเกษตรและใช้บำรุงต้นไม้เสริมภูมิทัศน์บริเวณเกาะกลางถนน ขวด PET นำเข้าโครงการ Youเทิร์น ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลออกเป็นผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ อาทิ ผ้าปูที่นอน รองเท้าผ้า ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น แก้วและฝาครอบ ขวดแก้วและกระป๋องโลหะ นำเข้าร้านรีไซเคิลในพื้นที่เพื่อเข้าสู่กระบวนการอย่างถูกวิธี แก้วพลาสติกและฝาครอบ นำไปเผา โดยบริษัท N15 Tecnology ลังกระดาษ นำส่งศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เพื่อรวบรวมเข้าสู่กระบวนการย่อยสลายและผลิตใหม่ ส่วนขยะทั่วไป นำส่งเผาในระบบปิดของโรงงานปูนซีเมนต์โดย บริษัท N15 Tecnology ซึ่งการคัดแยกขยะสู่การกำจัดที่ถูกต้อง ซึ่งการจัดกิจกรรม “Zero Waste to Landfills” ครั้งนี้สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 12,857.78 กิโลคาร์บอน หรือ เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 1,428.64 ต้น/ปี

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับความตั้งใจของ ททท. ในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแบบ Moving forward to Better เดินหน้าต่อเนื่องสู่ก้าวต่อไปของการท่องเที่ยวไทยที่ดียิ่งขึ้น โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New Ecosystem มุ่งสู่ Net Zero Tourism และเป้าหมาย Sustainable Tourism อย่างแท้จริง เพื่อสร้าง“ความมั่นคงทางการท่องเที่ยว” (Tourism Security) และเพื่อให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มั่นคง ยั่งยืน มีภูมิคุ้มกันระยะยาว และสมดุลทุกมิติ

พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศไทยต่อไป

---------------------------------------------------------------------------------

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages