"ซิกนิฟาย" (Signify) ผู้นำธุรกิจระบบไฟ และอุปกรณ์แสงสว่างระดับโลก ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการแบรนด์ฟิลิปส์ ไลท์ติ้ง รุกนวัตกรรมสมาร์ทไลท์ติ้ง ประเดิมแบรนด์ในเครือซิกนิฟาย วิซ (WiZ) สำหรับผู้บริโภคทั่วไป ที่มองหาระบบไฟและอุปกรณ์ไฟเชื่อมต่อไร้สายผ่านไวไฟ เพื่อบ้านอัจฉริยะให้พร้อมรองรับการ ใช้โครงข่ายของแมทเทอร์ (Matter) ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของการเชื่อมต่อไร้สาย ตามเป้าหมายที่จะเป็นแบรนด์สมาร์ทโฮมแห่งอนาคตที่สามารถเชื่อมต่อกับแบรนด์อื่นที่ใช้ระบบแมทเทอร์ได้แบบไร้รอยต่อ ตอกย้ำพันธกิจ “เพื่อชีวิตที่สดใสและโลกที่น่าอยู่กว่าเดิม” ตั้งเป้าเปิดตัวปลายปีนี้ทั่วโลก
นายจาร์กันนาธาน ศรีนิวาสัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซิกนิฟาย ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจระบบไฟ หลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่างระดับโลก จับมือพันธมิตร The Connectivity Standards Alliance (หรือเดิมรู้จักกันในชื่อ ZigBee Alliance) ประกาศเตรียมนำแมทเทอร์ หรือ Matter (เดิมคือ Project CHIP) โครงข่ายเชื่อมต่อไร้สายที่เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮมชั้นนำของโลก มาใช้กับผลิตภัณฑ์กลุ่มสมาร์ทโฮมภายใต้แบรนด์วิซ (WiZ) และ ฟิลิปส์ ฮิว (Phillips Hue) เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ภายใต้ซิกนิฟายให้เป็นแบรนด์สมาร์ทโฮมแห่งอนาคต สอดคล้องกับพันธกิจ “เพื่อชีวิตที่สดใสและโลกที่น่าอยู่กว่าเดิม” ตั้งเป้าเปิดตัวช่วงปลายปีนี้ทั่วโลก
ทั้งนี้ ซิกนิฟายจะเริ่มนำโปรโตคอลแมทเทอร์ มาใช้ร่วมกับ วิซ และ ฟิลิปส์ ฮิว เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮมแบรนด์อื่นๆได้อย่างไร้รอยต่อและสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของเราโดยไม่ต้องกังวลในเรื่องการเชื่อมต่อ โดยวิซจะเป็นแบรนด์แรกของซิกนิฟายที่ใช้ระบบสมาร์ทไลท์ติ้งของแมทเทอร์ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ของวิซที่ประทับตราสัญลักษณ์แมทเทอร์ในช่วงเดือนกันยายนปีนี้ และวางแผนว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 กลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของวิซซึ่งรวมถึงหลอดไฟ ไฟเส้น (strip lights) ดาวน์ไลท์ โคมไฟและอุปกรณ์อื่น ๆ จะมีตรารับรอง “แมทเทอร์” บนบรรจุภัณฑ์และสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมแบรนด์อื่นๆ ได้ทันที
ในขณะที่ ฟิลิปส์ ฮิว (Philips Hue) ซึ่งเป็นแบรนด์สมาร์ทไลท์ติ้งอีกแบรนด์เจาะกลุ่มไฮเอนด์ก็เตรียมใช้โปรโตคอลแมทเทอร์เช่นกัน โดยผ่านเครื่องรับสัญญานฮิว บริดจ์ (Hue Bridge) ซึ่งควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน ฟิลิปส์ ฮิว โดยเฉพาะซึ่งเป็นศูนย์กลางระบบไฟอัจฉริยะที่เชื่อมต่อและควบคุมผลิตภัณฑ์ฟิลิปส์ ฮิวทั้งหมด ตั้งแต่ไฟในร่มและกลางแจ้ง ไปจนถึงคุณสมบัติด้านความบันเทิง และอุปกรณ์เสริมอัจฉริยะ เป็นต้น โดยซอฟต์แวร์ในฮิว บริดจ์ จะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติด้วยโครงข่ายของแมทเทอร์ ผู้ใช้ฟิลิปส์ ฮิว จะได้รับประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ง่ายดายเมื่อทำงานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่นๆ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังคงเพลิดเพลินไปกับคุณสมบัติที่หลากหลายเพื่อปรับแต่งบ้านของคุณด้วยระบบแสงอัจฉริยะรวมถึงสามารถเลือกโทนสีของแสงได้มากกว่า 16ล้าน เฉดสี และปรับความสว่างให้เข้ากับบรรยากาศที่ต้องการได้ อีกทั้งยังตั้งค่าเองได้ เช่น เวลาเปิด/ปิด และที่สำคัญสามารถใช้ฮิว บริดจ์ได้แม้ไม่มีไวไฟอีกด้วย ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ประทับตราสัญลักษณ์แมทเทอร์ได้ในช่วงปลายปีนี้เช่นกัน นายจาร์กันนาธาน กล่าว
ด้าน นายเมคาล คลอมป์ หัวหน้าสายธุรกิจวิซ คอนเนคเต็ด (Mr.Maikel Klomp, Business Leader WiZ Connected) กล่าวว่า ซิกนิฟายมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่จะประกาศว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะสามารถใช้ร่วมกับโปรโตคอล “แมทเทอร์” ในเร็วๆ นี้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้อุตสาหกรรมเป็นหนึ่งเดียวกัน (Industry-unifying technology) ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมได้ทุกชิ้นที่ใช้โปรโตคอลแมทเทอร์อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งการนำแมทเทอร์มาใช้กับผลิตภัณฑ์ของซิกนิฟายแบบเต็มรูปแบบทำให้วิซเป็นผลิตภัณฑ์ที่ง่ายต่อการใช้งาน อีกทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและเติมเต็มให้บ้านมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น เพราะทำให้ระบบแสงสว่างอัจฉริยะทั้งหมดเชื่อมต่อเข้าถึงกันได้อย่างดีเยี่ยม
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ https://www.signify.com/th-th หรือ สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ โทร 02 089 0066 ภายในวันและเวลาทำการปกติ พร้อมทั้งสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์จากฟิลิปส์ได้ทั้งช่องทาง Philips lighting Official Store : Lazada, Shopee, JD, Powerbuy, Homepro และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
###
เกี่ยวกับซิกนิฟาย
บริษัท ซิกนิฟาย เอ็น.วี. จำกัด (Signify N.V.) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านหลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่างเพื่องานโครงการและผู้บริโภคทั่วไป รวมทั้งระบบแสงสว่างสำหรับ Internet of Things (IoT) ผลิตภัณฑ์แบรนด์ Philips อุปกรณ์แสงสว่างแบรนด์ Interact และบริการข้อมูลระบบ ก่อให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจและเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตในบ้านเรือน อาคาร และสถานที่สาธารณะต่างๆ ในปี 2020 เรามียอดขายกว่า 6.5 พันล้านยูโร มีพนักงานราว 38,000 คน และดำเนินธุรกิจในกว่า 74 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ในชื่อ บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด เราแสดงให้เห็นศักยภาพที่เหนือชั้นของระบบแสงสว่างเพื่อชีวิตที่สดใสขึ้นและโลกที่น่าอยู่ขึ้น ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ขนานนาม Signify เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมถึงสามปีติดต่อกัน คือ ปี 2017, 2018 และ 2019
No comments:
Post a Comment