กรมควบคุมโรค สมาคมโรคไต แอสตร้าเซนเนก้า และภาคีเครือข่าย เปิดตัวโครงการความร่วมมือสู่เครือข่ายความเป็นเลิศ ด้าน ‘การคัดกรองโรคไต’ ระดับประเทศครั้งแรก - Siam Outlook

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Thursday, August 28, 2025

กรมควบคุมโรค สมาคมโรคไต แอสตร้าเซนเนก้า และภาคีเครือข่าย เปิดตัวโครงการความร่วมมือสู่เครือข่ายความเป็นเลิศ ด้าน ‘การคัดกรองโรคไต’ ระดับประเทศครั้งแรก


กรมควบคุมโรค สมาคมโรคไต แอสตร้าเซนเนก้า และภาคีเครือข่าย
เปิดตัวโครงการความร่วมมือสู่เครือข่ายความเป็นเลิศ
ด้าน ‘การคัดกรองโรคไต’ ระดับประเทศครั้งแรก
ตั้งเป้าสร้างความตระหนักรู้และตรวจคัดกรองสุขภาพไต
คนไทย 7.2 ล้านคน ภายในปี 2570

เครือข่ายพันธมิตรระดับประเทศ นำโดย กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย และแอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย เปิดตัว “โครงการความร่วมมือสู่เครือข่ายความเป็นเลิศด้านการคัดกรองโรคไต” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้โครงการ ‘คนไทย 7.2 ล้านคนรู้ค่าความเสี่ยงโรคไต’ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มุ่งยกระดับการตรวจคัดกรองและการดูแลโรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease: CKD) ระยะเริ่มต้นอย่างเป็นระบบ ตั้งเป้าคัดกรองกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศกว่า 7.2 ล้านคน ภายในปี พ.ศ. 2570 โดยความร่วมมือครั้งนี้มุ่งขับเคลื่อนผ่าน 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่

1. การพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ป่วย (CKD registry) และโปรแกรมแผนผังแสดงค่าความเสี่ยงโรคไตในประเทศไทย (CKD Dashboard) เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดูแลรักษาและสนับสนุนงานวิจัยในอนาคต

2. การตรวจคัดกรองด้วยแผ่นทดสอบปัสสาวะ (Urine Dipsticks) สำหรับตรวจโปรตีนในปัสสาวะ ซึ่งเป็นแนวทางมาตรฐานสากลที่สะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่า

3. เสริมสร้างองค์ความรู้แก่ อสม. เพื่อเชื่อมโยงการเข้าถึงการตรวจคัดกรองสู่ระดับชุมชน และสร้างความตระหนักรู้เชิงรุกในวงกว้าง

ทั้งหมดนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของประเทศไทยในการพัฒนาระบบคัดกรองโรคไตเชิงรุกที่ครอบคลุมและยั่งยืน พร้อมทั้งเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา


นายแพทย์กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 
กล่าวว่า “โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคไตเรื้อรังนับเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ โดยประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศที่มีอัตราการเกิดโรคไตเรื้อรังสูงที่สุด ในปัจจุบันมีผู้ป่วยประมาณ 9.7 ล้านคน และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีผู้เข้าสู่ระบบรักษามากถึง 1.12 ล้านคน ซึ่งแนวโน้มยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจรวมกว่า 1.6 ล้านล้านบาทต่อปี กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เร่งวางแนวทางจัดการโรคไตเรื้อรัง ผ่านโครงการต่าง ๆ โดยหนึ่งในโครงการสำคัญคือ ‘โครงการคนไทย 7.2 ล้านคนรู้ค่าความเสี่ยงโรคไต’ ภายใต้โครงการป้องกันโรคไตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 ที่ตั้งเป้าคัดกรองกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศกว่า 7.2 ล้านคน ภายในปี พ.ศ. 2570 เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะเริ่มต้นได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที”

“ปัญหาดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการผสานกำลังทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการร่วมือแก้ไขปัญโรคไตอย่างเป็นระบบ และก่อให้เกิดการป้องกันในระยะยาว การเปิดตัว “โครงการความร่วมมือสู่เครือข่ายความเป็นเลิศด้านการคัดกรองโรคไต” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมี แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ในฐานะพันธมิตรภาคเอกชนชั้นนำ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะต่อยอดภารกิจดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยได้ดำเนินการผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ป่วย (CKD registry) และแดชบอร์ดสำหรับติดตาม ประเมิน และบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการรักษาและงานวิจัยในอนาคต การสนับสนุนชุดทดสอบปัสสาวะเพื่อขยายการตรวจคัดกรองครอบคลุมทั้ง 13 เขตสุขภาพทั่วประเทศ และการเสริมสร้างองค์ความรู้แก่ อสม. เพื่อเพิ่มการเข้าถึง สร้างความตระหนักถึงความเสี่ยงของโรคไต และส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในระดับชุมชน อันจะนำไปสู่ระบบสาธารณสุขไทยที่แข็งแกร่ง ครอบคลุม และยั่งยืน”


นายแพทย์วุฒิเดช โอภาศเจริญสุข นายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย 
เปิดเผยว่า “โรคไตเรื้อรังเป็นปัญหาสุขภาพระดับโลก โดยทั่วโลกพบผู้ป่วยกว่า 850 ล้านคน และหลายล้านคนอยู่ในระยะสุดท้ายที่ต้องบำบัดทดแทนไต สำหรับประเทศไทยก็มีผู้ป่วยจำนวนมากในภาวะน่าเป็นห่วง ส่งผลให้ต้องใช้งบประมาณสูงในการฟอกไต ล้างไต หรือปลูกถ่ายไต รัฐต้องใช้งบกว่า 26,000 ล้านบาทต่อปี หรือราว 9–10% ของงบสาธารณสุขทั้งหมด โดยปัญหาหลักคือการขาดความตระหนักถึงความจำเป็นในการตรวจคัดกรองโรคไตในระยะต้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะพบโรคเมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้ายและเมื่อมีอาการ อาทิ อ่อนเพลีย บวม หรือของเสียคั่ง กลุ่มเสี่ยงสำคัญคือผู้ป่วยเบาหวาน โดย 4 ใน 10 มีโอกาสเป็นโรคไต รองลงมาคือผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและโรคทางเดินปัสสาวะตามลำดับ”

“สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยได้ตระหนักถึงภัยเงียบนี้มาโดยตลอด และดำเนินโครงการให้ความรู้ต่อเนื่อง เช่น ‘ลดเค็ม ลดความดัน ลดโรคไต’ และสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่จะตอบโจทย์ปัญหาคือการตรวจคัดกรองเชิงรุก เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะแรก ความร่วมมือระดับชาติครั้งนี้จึงเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะช่วยชะลอและกำจัดโรคไตได้อย่างเป็นระบบ ผ่านการช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ต่อการดูแลไตให้แก่คนไทยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ครอบครัว บุคลากรทางแพทย์ และสังคม เพื่อหยุดยั้งโรคไตเรื้อรังและยกระดับสุขภาพคนไทยให้ก้าวไปข้างหน้า” นายแพทย์วุฒิเดชกล่าวเสริม


ปัจจุบันการตรวจคัดกรองโรคไตสามารถทำได้หลายวิธีโดยหนึ่งในนั้นคือการตรวจปัสสาวะด้วยแผ่นทดสอบปัสสาวะ (Urine Dipsticks) ที่ตรวจหาค่าโปรตีนชนิดอัลบูมินที่ไหลรั่วมาในปัสสาวะ เป็นสัญญานเตือนถึงความผิดปกติของการทำงานไต ซึ่งเป็นแนวทางเวชปฏิบัติมาตรฐานทั่วโลกที่ช่วยประเมินสุขภาพไตเบื้องต้นได้สะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่า


นายโรมัน รามอส ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย และ Frontier Markets
 กล่าวว่า “การรับมือกับโรคไตเรื้อรังจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการคัดกรองตั้งแต่ระยะแรกซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดภาระโรคและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย แอสตร้าเซนเนก้ารู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐให้เข้ามาเป็นพันธมิตรในโครงการความร่วมมือครั้งนี้ โดยพร้อมสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเสริมศักยภาพการคัดกรองและการดูแลรักษา ทั้งการพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ป่วยและแดชบอร์ดติดตาม การสนับสนุนเครื่องมือคัดกรองเบื้องต้น รวมถึงการส่งเสริมองค์ความรู้ผ่านเครือข่าย อสม. ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้สะท้อนพันธกิจ ACT on CKD ของแอสตร้าเซนเนก้าทั่วโลก ที่มุ่งเปลี่ยนผ่านระบบการดูแลสุขภาพไตจากการรักษามุ่งสู่การป้องกัน เพื่อสร้างระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง ยั่งยืน และมอบโอกาสการดูแลที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้ป่วย”


นายธนพลธ์ ดอกแก้ว นายกสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย
 กล่าวว่า “แม้ปัจจุบันการรักษาโรคไตจะบรรจุอยู่ในสิทธิการรักษาภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่ผู้ป่วยโรคไตยังคงต้องเผชิญความท้าทายในชีวิตประจำวัน ทั้งในด้านการเข้าถึงบริการรักษาและค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับ ความร่วมมือระดับชาติระหว่างภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนได้รับการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ทำให้สามารถพบโรคได้ไวและรักษาได้ทันท่วงทีก่อนที่โรคจะลุกลามไปสู่ระยะอันตราย ซึ่งช่วยลดภาระของผู้ป่วยและครอบครัว พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”


ภายในงานเปิดตัวความร่วมมือในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและคณะผู้บริหาร อาทิ พญ. สุขฤทัย เลขยานนท์ อายุรแพทย์โรคไต ผู้แทนจากมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย, นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, นพ.วุฒิเดช โอภาศเจริญสุข นายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย, รศ.พญ.วรางคณา พิชัยวงศ์ เลขาธิการคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ สาขาโรคไต กระทรวงสาธารณสุข และนายโรมัน รามอส ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย และ Frontier Markets

                                                               ###

เกี่ยวกับ แอสตร้าเซนเนก้า

แอสตร้าเซนเนก้า (ชื่อย่อหลักทรัพย์ AZN ในตลาดหลักทรัพย์ LSE/ STO/ Nasdaq) เป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก มุ่งเน้นทางด้านการคิดค้น พัฒนา และจำหน่ายยาเพื่อการรักษาโรค โดยเฉพาะในกลุ่มยาโรคมะเร็ง กลุ่มยาโรคหัวใจ ไต และระบบเผาผลาญ และกลุ่มยาโรคทางเดินหายใจ แอสตร้าเซนเนก้า มีฐานอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร และดำเนินธุรกิจในกว่า 100 ประเทศ และมีผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลกที่ได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมยาต่างๆ จากแอสตร้าเซนเนก้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาไปยังเว็บไซต์ astrazeneca.com หรือ ติดตามเราที่ facebook.com/AstraZeneca.TH

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages