สถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน (ITA Italian Trade Agency) และ หอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC Thai-Italian Chamber of Commerce) จัดงาน "The 5th Italian Cuisine Week สัปดาห์อาหารอิตาเลียน ครั้งที่ 5" สร้างอาณาจักรแห่งความอร่อยสู่ใจกลางกรุงเทพฯ รวบรวมร้านอาหารอิตาเลียนชั้นนำ พร้อมคัดสรรวัตถุดิบอิตาเลียนดั้งเดิมมาให้คนไทยได้ลิ้มลอง ในงานมีบรรดาเชฟชื่อดังมาร่วมรังสรรค์ความอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศดนตรีสด พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมของชาวอิตาเลียน ณ ควอเทียร์ อเวนิว ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์
ฯพณฯ ลอเรนโซ กาเลนติ เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า “สัปดาห์อาหารอิตาเลียน จัดขึ้นทั่วโลกเป็นปีที่ 5 โดยปีนี้ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศเดียวที่สามารถจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาได้ ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลก จำเป็นต้องจัดในรูปแบบออนไลน์ โดยงานปีนี้ จัดขึ้นเพื่อระลึกถึง 200 ปี แห่งการครบรอบการถือกำเนิดของ Pellegrino Artusi บิดาแห่งอาหารอิตาเลียน และผู้เขียนหนังสือสูตรอาหารอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวรรณกรรมอิตาลี ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่อาหารอิตาเลียน ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย ซึ่งอิตาลีและไทยมีความเหมือนกันในเรื่องของความใส่ใจ และความพิถีพิถันในเรื่องของอาหาร โดยอาหารนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมแต่ละชาติ และความหลากหลายแสดงออกถึงความสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมเช่นเดียวกัน
อีกปัจจัยสำคัญหนึ่ง คือการคำนึงถึงเรื่องของสุขภาพ ซึ่งอาหารเมดิเตอร์เรเนียน นับว่าเป็นต้นแบบของการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่มีความสมดุล จะเห็นได้จากการที่องค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ ได้อนุรักษ์อาหารเมดิเตอร์เรเนียนให้อยู่ในบัญชีมรดกโลกทางวัฒนธรรมยาวนานถึง 10 ปี นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งของการจัดงาน ยังต้องการที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการอิตาลี และผลิตภัณฑ์ที่เป็นของอิตาลีอย่างแท้จริง เนื่องจากปัจจุบันมีสินค้าไม่น้อยที่อ้างว่ามาจากอิตาลี ด้วยการติดธงชาติอิตาลีบนตัวสินค้า ซึ่งนั่นนับว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาในการคุ้มครองผู้บริโภค และเรามองว่าผลิตภัณฑ์จากอิตาลีเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และคือความจริงใจที่เรามอบให้แก่กลุ่มผู้บริโภคทั่วโลกอีกด้วย”
โดยในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารอิตาลีในไทยชื่อดังมากมาย อาทิ Nonna Nella by Lenzi (นอนนา เนลลา บาย เลนซี) PEPPINA (เพ็พพิน่า) APPIA (แอปเปีย) Favola at Le Meridien Suvarnabhumi (ฟาโวล่า แอท เลอ เมริเดีย สุวรรณภูมิ) Paolo' Deli (เปาโล เดลี) Sole Mio (โซเล มิโอ) Duo Cucina (ดูโอคูซิน่า) และ Opus Wine Bar and Restaurant (โอปุส ไวน์บาร์ แอนด์ เรสเตอร์รองค์) เป็นต้น พร้อมนำเมนูสุดพิเศษอาทิ พิซซ่า และพาสต้า สไตล์อิตาลีแท้ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป ไส้กรอก พรีเมียมโคลด์ คัท เห็ดทรัฟเฟิล และชีสนานาชนิด และยังรวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มและของหวาน กาแฟอิตาเลียน และอิตาเลียนเจลาโต้ ที่ผ่านการรังสรรค์และปรุงอย่างพิถีพิถัน จากเชฟชื่อดัง ในสไตล์อิตาเลียนมาให้ได้ลิ้มลองภายในงาน
รู้หรือไม่ว่า? อิตาลี เป็นประเทศที่ผลิตชีสกว่า 400 ชนิด หลากหลายรสชาติ คุณภาพเยี่ยม
อิตาลี เป็นผู้นำโลกในการผลิตไวน์ จากองุ่นกว่า 800 สายพันธุ์
อิตาลี เป็นผู้นำการผลิตพาสต้ามายาวนานกว่า 500 ปี และมีมากถึง 200 รูปแบบ
อิตาลี มีประสบการณ์กว่า 150 ปี ในการผลิตซอสมะเขือเทศ และยังคงใช้วิธีการผลิตในแบบดั้งเดิม
อิตาลี ครองสถิติโลก ด้วยมะกอกหลายหลายชนิด พร้อมรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ และส่งออกไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
อิตาลี เป็นอันดับต้นๆของโลก ในการส่งออกผลิตภัณฑ์แปรูปจากเนื้อสัตว์ ด้วยวัตถุดิบพิเศษที่มีคุณภาพที่สุด มากกว่า 600 ชนิด
รู้หรือไม่ว่า? อิตาลี เป็นประเทศที่ผลิตชีสกว่า 400 ชนิด หลากหลายรสชาติ คุณภาพเยี่ยม
อิตาลี เป็นผู้นำโลกในการผลิตไวน์ จากองุ่นกว่า 800 สายพันธุ์
อิตาลี เป็นผู้นำการผลิตพาสต้ามายาวนานกว่า 500 ปี และมีมากถึง 200 รูปแบบ
อิตาลี มีประสบการณ์กว่า 150 ปี ในการผลิตซอสมะเขือเทศ และยังคงใช้วิธีการผลิตในแบบดั้งเดิม
อิตาลี ครองสถิติโลก ด้วยมะกอกหลายหลายชนิด พร้อมรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ และส่งออกไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
อิตาลี เป็นอันดับต้นๆของโลก ในการส่งออกผลิตภัณฑ์แปรูปจากเนื้อสัตว์ ด้วยวัตถุดิบพิเศษที่มีคุณภาพที่สุด มากกว่า 600 ชนิด
No comments:
Post a Comment