โรงแรม อาหาร เครื่องดื่ม ค้าปลีก อี-คอมเมิร์ซและสถานบันเทิง
ตอบโจทย์เศรษฐกิจยุคใหม่มุ่งเน้นความเติบโตอย่างยั่งยืน กวิน อินเตอร์เทรด ผู้นำธุรกิจจัดแสดงสินค้าในประเทศไทย โดยความร่วมมือและการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ประกาศศักยภาพนำผู้ประกอบการกว่า 250 บริษัทจาก 10 ประเทศจัดงานแสดงสินค้าระดับภูมิภาค สำหรับธุรกิจโรงแรม อาหาร เครื่องดื่ม ค้าปลีก อี-คอมเมิร์ซและสถานบันเทิง รวม 3 งานสำคัญไว้ในพื้นที่เดียวกัน ภายใต้ชื่อ Thailand Retail, Food&Hospitality Services (TRAFS 2025) ปีที่ 19, ASEAN Retail 2025 ปีที่ 10 และ Pub Bar Asia 2025 ปีที่ 3 เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 – 27 กรกฎาคม 2568 ณ ไบเทค ฮอลล์ 98 – 99 เผยรวมกิจกรรมไฮไลต์มากมาย สินค้าและบริการครบครัน คาดมีผู้เข้าชมงานรวม 22,000 ราย สร้างมูลค่าเจรจาธุรกิจกว่า 500 ล้านบาท
การจัดงานครั้งนี้มีผู้แสดงจากต่างประเทศมาร่วมงานถึง 10 ประเทศ เป็นข้อยืนยันได้อย่างดียิ่ง ว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับนานาชาติในภูมิภาคอาเซียน ยิ่งไปกว่านั้นทางคณะผู้จัดงานและพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุนการจัด 3 งานแสดงสินค้ายิ่งใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ การท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม Food Service ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจผับ บาร์ ที่จะนำไปสู่การจ้างงาน ใช้วัสดุในประเทศ และส่งเสริมการเติบโตอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าของไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้ง 3 งาน ไม่ว่าจะเป็น TRAFS / ASEAN Retail และ Pub & Bar Asia ที่กำลังจัดอยู่ในขณะนี้จะเติบโตเป็นงานแสดงนานาชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดงานหนึ่งในระดับภูมิภาคในอนาคตอันใกล้ต่อไป
นายกวิน กิตติบุญญา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานแสดงทั้ง 3 เพื่อเป็นเวทีให้ผู้แสดงทั้งที่เป็นผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายจากไทยและต่างประเทศ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม Food Service ค้าปลีก อีคอมเมริซ์ และเอ็นเตอร์เทนเมนต์จากไทยและต่างประเทศ ได้พบปะและเจรจาธุรกิจตลอด 4 วันของการจัดงาน เพื่อเป็นหนึ่งของฟันเฟืองที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจ ตลอดจนนำเสนอนวัตกรรมใหม่ของสินค้า และเครื่องมือทางการตลาด เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ เป็นผลก่อให้เกิดการจ้างงานและการใช้วัสดุภายในประเทศ นำมาซึ่งเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตแบบยั่งยืนสืบไป
นายกวิน กล่าวถึงไฮไลต์ของงานทั้ง 3 นั้นเป็นการรวมผู้ประกอบการแบรนด์ชั้นนำ 250 บริษัท จาก 10 ประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น อิตาลี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลี เยอรมนี อังกฤษ สเปน และไทย นำสินค้านับพันรายการจากทั่วโลกมาจัดแสดงในพื้นที่เดียวกันสำหรับธุรกิจบริการแบบครบวงจร โดย
- งาน Thailand Retail, Food&Hospitality Services ปีที่ 19 เป็นงานแสดงวัตถุดิบ อาหารเครื่องดื่ม อุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับธุรกิจโรงแรม และ Food Service ไม่ว่าจะเป็น Fine dining ภัตตาคาร ร้านอาหาร กาแฟ เบเกอรี่ ไอศกรีม เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจต่อไป
- งาน ASEAN Retail ปีที่ 10 เป็นงานแสดงอุปกรณ์ เทคโนโลยีสำหรับธุรกิจค้าปลีก ประกอบด้วย โมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีก และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
- งาน Pub Bar Asia ปีที่ 3 เป็นการนำเสนอนวัตกรรมล้ำสมัยของธุรกิจผับ บาร์ ตลอดจนเทรนด์ล่าสุดของเครื่องดื่ม เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจบันเทิงอันเป็นส่วนในการกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ส่วนงาน ASEAN Retail จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลมาให้ความรู้ในเรื่องการทำ social media marketing ระบบ AI แบบเจาะลึก เสวนาการให้ความรู้ นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ของอุปกรณ์ค้าปลีก การประชุมของสมาคมผู้ค้าปลีกและผู้ประกอบการจากทั่วประเทศ รวมถึงการมอบประสบการณ์ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการไลฟ์สดเพื่อจำหน่ายสินค้าออนไลน์อย่างไรให้มีประสิทธิภาพจากอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง ปิดท้ายที่งาน Pub Bar Asia พบกับการสอนทำเครื่องดื่มหลากหลายประเภท ที่ทุกคนสามารถนำไปต่อยอดประกอบธุรกิจได้ การให้ความรู้เกี่ยวกับเบื้องต้นที่ถูกต้องเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจผู้ผลิตเครื่องดื่ม และทดสอบรสชาติหลากหลายเครื่องดื่มทั้งไทย และต่างประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจพิจารณานำสินค้าสำหรับจัดจำหน่ายต่อไป รวมไปถึงการจัดการแข่งขันเพื่อค้นหาสุดยอดนักปรุงเครื่องดื่มถึง 2 รายการ ได้แก่ Flair Bartender และ Mixologist Competition
กรรมการผู้จัดการใหญ่ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ในงานครั้งนี้ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อจัดโครงการ “DIPROM Thai Cuisine” ภายในงาน TRAFS และ Pub Bar Asia โดยคัดเลือก ร้านอาหารต้นแบบ 10 แห่ง ที่มีศักยภาพทั้งในด้านรสชาติ คุณภาพ และความพร้อมในการยกระดับสู่ธุรกิจระดับมืออาชีพ มาจัดแสดงและสาธิตการปรุงอาหารจริงในงานโครงการนี้ไม่เพียงส่งเสริมการบริโภคอาหารไทยให้ก้าวไกลสู่สากล แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการใช้วัตถุดิบในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย และสร้างรายได้ให้ชุมชน
โดยในงาน Pub Bar Asia 2025 แสดงผลิตภัณฑ์ที่เป็น ซอฟต์พาวเวอร์จากเกษตรอุตสาหกรรมไทย ได้แก่ ไวน์ช็อกโกแลต – เครื่องดื่มพรีเมียมที่พัฒนาจากวัตถุดิบท้องถิ่น สะท้อนถึงการต่อยอดผลผลิตทางการเกษตรด้วยนวัตกรรม สุราชุมชน – ที่ได้รับการยกระดับทั้งมาตรฐานและการออกแบบ จนสามารถแข่งขันได้ในตลาดสากลและ สาโท.ไทย – ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมรดกภูมิปัญญา ที่ถูกนำเสนอในรูปแบบที่ร่วมสมัย พร้อมก้าวสู่เวทีโลก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นตัวอย่างของ อุตสาหกรรมฐานรากยุคใหม่ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคการเกษตรไทย และยังเป็นส่วนหนึ่งของ นโยบาย “DIPROM Community – ที่นี่...มีแต่ให้” ที่เน้นการส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชนควบคู่กับนวัตกรรม เพื่อให้คนในชุมชนสามารถมีรายได้ที่มั่นคงและเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมของประเทศ
นายกวิน กล่าวเสริมอีกหนึ่งไฮไลต์ของปีนี้คือการจัด Networking Session ภายในงาน ให้ผู้เข้าชมงานได้ขยายเครือข่ายทางธุรกิจ สร้างความสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ตลอดทั้ง 4 วัน คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 22,000 คน จาก 40 ประเทศ และประมาณการว่าจะมีการซื้อขายประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ การจ้างงานและใช้วัตถุดิบในประเทศ
งานครั้งนี้เกิดขึ้นได้โดยความร่วมมือและการสนับสนุนจากพันธมิตร ประกอบด้วย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม สสปน. สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สถาบันอาหาร สมาคมเดอะเชฟ สภาพันธ์เชฟประเทศไทย สมาคมเบเกอรี่ สมาคมนักบริหารงานอาหารและเครื่องดื่ม สมาคมธุรกิจร้านอาหาร ชมรมผู้บริหารงานแม่บ้านประเทศไทย ชมรมนักบริหารทรัพยากรบุคคลโรงแรม สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และอื่นๆ รวมถึงสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนประชาสัมพันธ์งาน อีกทั้งผู้ร่วมจัดแสดงงาน Sponsor และลูกค้าผู้ชมงานที่ทำให้การจัดงานครั้งนี้เกิดขึ้นได้และประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง
กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเชิญชวนสำหรับผู้สนใจได้เข้าชมงานและร่วมกิจกรรมต่างๆ ตลอด 4 วันของการจัดงานแสดงอาหารและเครื่องดื่ม TRAFS 2025 งานแสดงเทคโนโลยี เครื่องมือ สินค้า และบริการสำหรับธุรกิจค้าปลีก ASEAN RETAIL 2025 และงานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจบริการ Pub and Bar Asia 2025 ระหว่างวันที่ 24 – 27 กรกฎาคม 2568 ณ ไบเทค ฮอลล์ 98 – 99 บนพื้นที่รวมกว่า 14,000 ตร.ม. ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. งานนี้เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช่จ่าย มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยช่วงกลางปีแบบนี้ไปด้วยกัน
No comments:
Post a Comment