กองทัพไทย ผนึกกำลังสมาคมกีฬา-กกท.-นานาชาติ จัดศึกมวยไทยทหารโลกครั้งแรก สร้างพลังผ่านการทูตทางกีฬา ระหว่าง 10-13 ก.ค.68 ณ สยามพารากอน

กองทัพไทย ผนึกกำลังสมาคมกีฬา-กกท.-นานาชาติ

จัดศึกมวยไทยทหารโลกครั้งแรก สร้างพลังผ่านการทูตทางกีฬา

ระหว่าง 10-13 ก.ค.68 ณ สยามพารากอน

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผนึกกำลัง กองบัญชาการกองทัพไทย -การกีฬาแห่งประเทศไทย ประกาศความพร้อมจัดศึกกีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 (1st CISM Military Muaythai Challenge) ระหว่าง 10-13 ก.ค. 2568 ณ ลาน SCBX Next Stage ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน กทม. ตอบสนองยุทธศาสตร์ "ซอฟต์พาวเวอร์” ของรัฐบาล เดินเครื่องผลักดัน "มวยไทย" สู่เวทีนานาชาติ ผ่านการแข่งขันระดับทหารในบริบทของ "การทูตทางทหารผ่านกีฬา” เพื่อนับถอยหลังเข้าสู่การชิงชัย ในมหกรรมกีฬาทหารโลก ปี 2027 ต่อไป

ในการนี้ ดร.สุทิน คลังแสง นายกสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) เป็นประธาน ในงานแถลงข่าวการแข่งขันกีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 (1st CISM Military Muaythai Challenge) โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), พลตรี พงษ์ภัทร ทรงสุนทร ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการทหาร ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด/ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการ จัดการแข่งขัน และ "บัวขาว" ร้อยเอก สมบัติ บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทยชื่อดัง ร่วมแถลงรายละเอียด และความพร้อมในการแข่งขัน

สำหรับการแข่งขันกีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 (1st CISM Military Muaythai Challenge) สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ได้รับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สนับสนุนงบประมาณจากซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลไทย ในการจัดกิจกรรม รวมไปถึงได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ดร.สุทิน คลังแสง นายกสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) กล่าวว่า สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) จัดตั้งมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน และส่งเสริมกีฬาทหาร รวมถึงการประสานงาน สร้างความร่วมมือระหว่างนานาชาติ โดยกิจกรรมแรกที่สมาคมร่วมดำเนินการกับกองบัญชาการกองทัพไทย และหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ คือ "มวยไทย" ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติ ศิลปะการป้องกันตัวที่สืบทอดกันมา อย่างยาวนานของไทย ปัจจุบันได้นำมวยไทยมาใช้ทั้งเชิงการแข่งขันกีฬา การต่อสู้การป้องกันตัว และส่งเสริมสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งมวยไทยปรากฏในยุทธศาสตร์ "ซอฟต์พาวเวอร์” ของรัฐบาลแข่งขันกีฬา การต่อสู้การป้องกันตัว และส่งเสริมสุขภาพ

สำหรับสหพันธ์กีฬาทหารโลก (CISM) ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก 141 ประเทศ จึงถือได้ว่า เป็นการส่งเสริมกีฬามวยไทยในระดับนานาชาติ โดยกลุ่มกองกำลังพลเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ สามารถสร้าง และพัฒนาให้ยั่งยืน ส่วนแผนการในอนาคตต่อไปนั้น สมาคมร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทย วางแผนผลักดันเส้นทางของกีฬามวยไทยเพื่อนำไปสู่การบรรจุเข้าสู่การแข่งขันกีฬาทหารโลกในปี 2027 ต่อไป

ขณะที่ ตร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า การสนับสนุนกีฬามวยไทยของ กกท. ได้ดำเนินงานมาต่อเนื่องในหลายด้าน ทั้งการส่งเสริม การเผยแพร่ และการพัฒนามวยไทยสู่ระดับสากล เพื่อยกระดับมาตรฐานมวยไทย และสร้างโอกาสให้นักกีฬามวยไทย กกท. มองเห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่ง ในการอนุรักษ์ และพัฒนากีฬามวยไทย ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสามารถสร้างรายได้จากการ ท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศผ่านกีฬามวยไทยอีกด้วย

พลตรี พงษ์ภัทร ทรงสุนทร ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการทหาร กล่าวว่า การจัดการแข่งขันกีฬา มวยไทยทหารโลกมีที่มาจากนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งส่งเสริม "ซอฟต์พาวเวอร์” ของประเทศ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของมวยไทยในฐานะวัฒนธรรมอันโดดเด่น และมีอิทธิพลต่อสายตาชาวโลก จึงมีแนวคิดให้ผลักดันเข้าสู่เวทีนานาชาติผ่านการแข่งขันในระดับทหาร ซึ่งกองทัพไทยมอบหมายให้ สำนักสวัสดิการทหาร (สสก.ทหาร) เป็นหน่วยหลักขับเคลื่อนและได้ส่งคณะผู้แทน ไปร่วมประชุมสภากีฬาทหารระหว่างประเทศ (CISM) ปรากฏว่ามี 10 ประเทศสมาชิกแสดงความสนใจเข้าร่วมแข่งขัน

กองทัพไทยตระหนักถึงศักยภาพของกีฬา โดยเฉพาะมวยไทย ซึ่งเป็นทั้งศิลปะการต่อสู้ และมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเชื่อมสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ ของประเทศไทยบนเวทีโลก ซึ่งนับเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง โดยเฉพาะในยุคที่โลกต้องการสันติภาพ และความร่วมมือมากกว่าความขัดแย้ง เราจึงให้ความสำคัญกับการใช้กีฬาในบริบทของการทูตทางทหารผ่าน กีฬา (Military Diplomacy) เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ ความไว้วางใจ และมิตรภาพระหว่างกองทัพทั่วโลก ด้วยแนวทางเหล่านี้ กองทัพไทยสานต่อการนำกีฬาเป็นสะพานสร้างมิตรภาพและส่งเสริมมวยไทยไปสู่สังคม โลกอย่างยั่งยืน