การพัฒนาของ ShareIt และการเติบโตของ Influencer Marketing ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ - Siam Outlook

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Wednesday, May 26, 2021

การพัฒนาของ ShareIt และการเติบโตของ Influencer Marketing ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


การแพร่ระบาดของโควิด เป็นเหมือนตัวเร่งการเติบโตของการตลาดแบบ Influencersในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยไม่ใช่แค่ผู้คนจะมองหาคนทำคอนเทนท์ใหม่เท่านั้น แต่แบรนด์ต่างๆก็ศึกษา การตลาดแบบ Influencers เพื่อนำมาใช้ ให้เกิดเป้าหมายของตน


โดยในช่วงที่มีมาตรการ lockdown รุนแรง ผู้คนที่ติดอยู่ที่บ้านจะใช้เวลาอยู่กับโซเชียลเน็ตเวิร์ก , เล่นเกมและดูพวก OTT (Over The Top เช่น Youtube , Netflix และ Platform อื่น ) การใช้เวลาออนไลน์มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้แบรนด์สินค้าต่างๆ ทำงานร่วมกับ กลุ่ม Influencers มากขึ้น เนื่องจากยอดการมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์ม เช่น YouTube, Facebook และ Instagram พุ่งสูงขึ้น

การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้การบริโภคสื่อดิจิทัลสูงมากขึ้น

การแพร่ระบาดได้กระตุ้นการใช้งานสื่อดิจิทัล รวมถึงการซื้อสินค้าออนไลน์สูงขึ้นและมีแนวโน้มที่จะโตต่อไปในอนาคต

ไม่เพียงแต่แบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับเท่านั้น แต่สตาร์ทอัพต่างก็ใช้กลยุทธ์การตลาดนี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากสามารถเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์และดึงดูดผู้ชมจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ Influencers ยังสามารถกำหนดเป้าหมายไปยังตลาดเฉพาะกลุ่มที่สตาร์ทอัพมักมองหา

ตัวอย่างเช่น บริษัท สตาร์ทอัพของ Influencer Marketing Agency ในประเทศไทย “ShareIt” เป็น บริษัทผู้นำ ด้านการตลาดแบบ Influencers และโซเชียลมีเดีย ที่ใช้ข้อมูลเชิงลึก ในการที่วางแผนและกำหนดกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่มีดี ระหว่างแบรนด์และผู้สร้างคอนเทนท์ เชื่อมโยงผู้ใช้งาน , แบรนด์ , ผู้สร้างคอนเทนท์ ได้อย่างง่ายดายด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มการตลาดที่ก้าวหน้าและใช้งานง่ายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทุกคน

ShareIt มีแพลตฟอร์ม ให้ผู้ใช้ ใช้ในการทำกิจกรรมโซเชียลของตน โดยจากการวิจัยที่สำรวจมาพบว่า ปัจจุบันผู้ใช้อินเทอร์เน็ตใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมง 22 นาทีต่อวัน บนโลกโซเชียลและแพลตฟอร์มการส่งข้อความ และข้อมูลนี้ยังบอกให้เห็นว่า การใช้งานโซเชียลมีเดียอาจถึงจุดอิ่มตัว

แต่ในปี 2564 มีเทรนด์หนึ่งที่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้น คือการเพิ่มขึ้นของInfluencersระดับนาโนและไมโคร ส่วนใหญ่เกิดจากการมีส่วนร่วมที่สูง ต้นทุนต่ำและมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากเปลี่ยนไปใช้การซื้อทางออนไลน์ แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางจึงต้องพึ่งพา Influencers เนื่องจากสามารถแสดงการใช้งานและอธิบายถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ได้

ในทำนองเดียวกัน ธุรกิจต่างๆกำลังใช้ Influencers เพื่อผลักดันการเข้าชมเว็บไซต์ของตน ด้วยลิงก์ในสตอรี่ของสื่อออนไลน์ต่างๆ และปัจจุบันผู้คนลดความสนใจในการชมภาพอย่างเดียว และหันมาสนใจวิดีโอมากขึ้นกว่าเดิม ผู้บริโภคต้องการได้รับการอัปเดตเกี่ยวกับชีวิตของ Influencers ซึ่งกำลังสร้างพื้นที่สำหรับการผสานรวมผลิตภัณฑ์กับชีวิตประจำวัน ที่แบรนด์ต่าง ๆ นำเข้ามา

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่ ที่เหมาะสำหรับการตลาดแบบ Influencers

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการตลาดรูปแบบนี้ โดยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากและเกือบ 90% เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเป็นหลัก

มูลค่าเศรษฐกิจจากอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคนี้ โตขึ้นมากและภายในปี 2568 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ประมาณ 10,000 ล้านบาท)

การที่เป็นภูมิภาคแรก ที่ใช้อุปกรณ์มือถือควบคู่ไปกับกลุ่มประชากรที่มีอายุน้อย และความนิยมที่เพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มโซเชียล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงกลายเป็นพื้นที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการตลาดที่มี Influencers

นอกจากนั้นภูมิภาคนี้ยังได้รับความสนใจจากทั่วโลกอย่างมาก ยังมีโอกาสที่สำคัญสำหรับแบรนด์ท้องถิ่นในการใช้ประโยชน์จากรูปแบบการตลาดนี้ ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่น Facebook, Instagram และ YouTube เป็นที่นิยมอย่างมากในภูมิภาคนี้และเป็นที่น่าสังเกตว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ใช้ Tik Tok มากที่สุด

คอนเท้นท์ รูปแบบวิดีโอสั้นใหม่ ๆ ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงนี้ มีโอกาสมากมายในการกระตุ้นการมีส่วนร่วมเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์และเข้าถึงผู้ชมใหม่ ๆ สำหรับธุรกิจ อย่างไรก็ตามนักการตลาดต้องตามล่า Influencers ที่มีความเชื่อมโยงกับผู้ชมอย่างแท้จริง

สรุปได้ว่าแบรนด์ต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยินดีที่จะลงทุนด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวโน้มของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และการตลาดที่มี Influencers ก็จะยังคงเติบโตต่อไป

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages