จัดเวทีไฮบริดเดินหน้าอุดรอยรั่วข้อมูลส่วนบุคคล
ตัดวงจรสแกมเมอร์–อาชญากรรมไซเบอร์
พลเอก เดชา พลสุวรรณ ประธานกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า ในช่วงที่สังคมไทยเผชิญภัยสแกมเมอร์และอาชญากรรมไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง การยกระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในหน่วยงานภาครัฐ จึงเป็นมาตรการเชิงป้องกันที่จำเป็น เพื่อลดต้นทางความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นความเสียหายในวงกว้าง “หนึ่งในเป้าหมายของ สคส. คือทำให้การทำงานของ DPO ภาครัฐเดินหน้าได้อย่างเป็นระบบและทิศทางเดียวกันทั่วประเทศ งาน Kick Off ครั้งนี้เป็นจุดเริ่มสำคัญในการยกระดับความพร้อม ตั้งแต่การสร้างความเข้าใจไปจนถึงการปฏิบัติจริงด้วยแนวทางที่ชัดเจน”
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า “งาน Kick Off ครั้งนี้ออกแบบให้ DPO ภาครัฐสามารถทำงานได้ในภาพเดียวกัน โดยเน้นให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจแนวทางสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลที่มีขั้นตอนชัดเจน ตั้งแต่การจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้อง จนถึงการเตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุ งานนี้จึงช่วยให้เจ้าหน้าที่ของทุกหน่วยงาน มีชุดความเข้าใจที่ตรงกัน ลดความคลาดเคลื่อนในการทำงาน และสื่อสารกับคนในหน่วยงานได้ในทางเดียวกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตั้งแต่ต้นทาง”
นอกจากนี้ ในงานยังจัดช่วง กิจกรรมสาธิตการยื่นขอ Certification Mark ควบคู่กับ กิจกรรมบรรยายแนะนำการใช้งานเครื่องมือ GPPC เพื่อผลักดันให้เจ้าหน้าที่ DPO ภาครัฐ สามารถปรับใช้ความรู้ได้ในการทำงานจริง โดยผู้เข้าร่วมจะได้เห็นภาพรวมการทำงานตลอดเส้นทาง ตั้งแต่การเตรียมความพร้อม การจัดระบบเอกสารและกระบวนการ ไปจนถึงการตรวจทานแนวปฏิบัติให้สอดคล้องกันในภาพใหญ่ ขณะเดียวกัน การเรียนรู้เครื่องมือ GPPC ยังมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ DPO ทำงานได้เป็นระบบมากขึ้น ทั้งการวางกรอบการปฏิบัติงาน การติดตามความคืบหน้า รวมถึงการสื่อสารภายในหน่วยงาน เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
อีกช่วงสำคัญในงาน คือเวทีเสวนาในหัวข้อ “บทบาทและความสำคัญของ DPO ต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์” ซึ่งออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เข้ากับพันธกิจปราบภัยออนไลน์ ในมุมที่หน่วยงานรัฐนำไปใช้ได้จริง โดยเนื้อหาจะสะท้อนภาพรวมของวงจรปัญหา ตั้งแต่ความเสี่ยงของข้อมูลที่อาจรั่วไหลจากกระบวนการทำงาน ไปจนถึงการยกระดับมาตรการป้องกันและการตอบสนองเมื่อพบเหตุผิดปกติ เพื่อให้ DPO มองเห็นบทบาทของตนเองอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นในฐานะกลไกสำคัญของหน่วยงาน ทำให้การป้องกันภัยสแกมเมอร์ได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบมากขึ้น
“หัวใจของงานในครั้งนี้ คือทำให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการทำงาน ของทุกหน่วยงานภาครัฐ ผ่านแนวทางและมาตรฐานที่ชัดเจน รวมถึงผลักดันให้แต่ละหน่วยงานลงมือจัดการได้อย่างเป็นระบบและมีความรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อลดโอกาสการรั่วไหลของข้อมูลอย่างเป็นรูปธรรม” พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ กล่าวสรุป




.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)

No comments:
Post a Comment