ธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวและธุรกิจพรมรถยนต์เป็นไปด้วยดี
แต่ยังไม่เพียงพอจะชดเชยกับความท้าทาย
จากตลาดเฟอร์นิเจอร์สหราชอาณาจักร พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจ
ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน (TCM Corporation Plc.) หรือ TCMC เผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 โดยมีรายได้รวมจากการขายและบริการอยู่ที่ 1,198.22 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 19.61 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการทรุดตัวของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในสหราชอาณาจักร จึงตัดสินใจปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยการปิดโรงงานหนึ่งในสองโรงงานในอังกฤษและยุบ 2 แบรนด์ ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
กลุ่มธุรกิจหลักยังคงทำกำไรแข็งแกร่ง
แม้ว่าผลประกอบการโดยรวมจะขาดทุนจากรายการพิเศษ แต่กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทยังคงแสดงผลลัพธ์ที่เป็นบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดอย่างกลุ่มวัสดุตกแต่งพื้นผิว (TCM Surface) ที่มีสัดส่วนรายได้สูงถึงร้อยละ 59.7 แม้จะมีรายได้ลดลงเล็กน้อยที่ 715.62 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากจากปีก่อนและการชะลอตัวชั่วคราวของกลุ่มลูกค้าพาณิชย์และโรงแรม ซึ่งได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ แต่ยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งไว้ได้ที่ร้อยละ 40.27 และรายงานกำไรสุทธิ 41.03 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์การกำหนดราคาและการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
ในส่วนของกลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มเบาะรถยนต์ (TCM Automotive) ได้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48.02 มาอยู่ที่ 192.10 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวดีขึ้นเป็นร้อยละ 21.63 และสามารถพลิกกลับมาทำกำไรสุทธิได้ 14.53 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนในปีก่อนหน้า สะท้อนผลลัพธ์เชิงบวกจากการบริหารต้นทุนคงที่และการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
มาตรการเชิงกลยุทธ์เพื่อยุติการขาดทุนในสหราชอาณาจักร
กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ (TCM Living) ยังคงเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในสหราชอาณาจักรและการเปลี่ยนแปลงของสภาพตลาด ส่งผลให้รายได้ลดลงถึงร้อยละ 50.40 เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และเพื่อหยุดการขาดทุนต่อเนื่อง ฝ่ายจัดการจึงได้ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการยุติการดำเนินงานของบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ Ashley Manor Upholstery (AMU) และ Alexander & James (A&J) ซึ่งนำไปสู่การบันทึกรายการด้อยค่าของค่าความนิยมและสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ไม่กระทบเงินสด (Non-cash Loss) จำนวน 623.18 ล้านบาท ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของผลขาดทุนสุทธิรวมของกลุ่มบริษัท
นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TCMC) เปิดเผยว่า “แม้ว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท ในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 จะแสดงผลขาดทุนสุทธิ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการบันทึกรายการด้อยค่าของค่าความนิยมและสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ไม่กระทบเงินสด แต่จะเห็นได้ว่าความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มธุรกิจหลักของเรายังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มธุรกิจ TCM Surface ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับสูงกว่าร้อยละ 40 และกลุ่มธุรกิจ TCM Automotive ได้แสดงให้เห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยสามารถรักษาอัตราส่วนผลกำไรสุทธิต่อยอดขายที่ร้อยละ 7.6 ได้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจ TCM Living ในสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกันอย่างรุนแรง ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและสภาวะตลาดที่ท้าทาย โดยในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารตระหนักถึงปัญหามาโดยตลอด และได้ใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อปรับโครงสร้างกำลังการผลิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และสามารถลดต้นทุนได้สูงถึง 9 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง แต่ยังคงไม่รวดเร็วพอที่จะรับมือกับการหดตัวของตลาดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งทางเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทาน ด้วยเหตุนี้ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ฝ่ายบริหารจึงได้ตัดสินใจปิดโรงงานแห่งหนึ่งจากสองแห่งในสหราชอาณาจักร และยุติกิจการทั้งสองแบรนด์ดังกล่าว เพื่อจำกัดการช่วยเหลือทางการเงินและจำกัดผลกระทบต่อ TCMC
"สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 และต่อเนื่องถึงต้นปี 2569 บริษัทคาดว่าการดำเนินงานจะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามการปรับตัวดีขึ้นของสภาวะตลาดในหลายกลุ่มธุรกิจ พร้อมทั้งมีโอกาสสร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแรงขึ้นเมื่อโครงการใหม่ๆ เริ่มเดินหน้า และอุปสงค์ในตลาดหลักกลับสู่ภาวะปกติ ในปี 2568 บริษัทมุ่งมั่นรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ควบคู่กับการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านการขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่อย่างรอบคอบ และการพัฒนาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน บริษัทให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้เพื่อยกระดับคุณค่าและประสบการณ์ของลูกค้า รวมถึงสร้างประโยชน์ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาองค์กรบนเส้นทางความยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและเสริมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงในระยะต่อไป" นางสาวปิยพร กล่าวทิ้งท้าย
########









No comments:
Post a Comment