ยืนยัน! น้ำมัน 1 ถัง พาไปได้ไกลเกินกว่า 900 กม.
บนเส้นทาง กรุงเทพฯ – พิษณุโลก – เชียงใหม่
ตอกย้ำอัตราการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
พร้อมสมรรถนะการขับขี่ดีเยี่ยม
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี 4 คัน
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี 2 คัน
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี 6 คัน
ตลอดเส้นทางการขับขี่สุดท้าทายเพื่อพิสูจน์ความประหยัดของน้ำมัน 1 ถัง ลูกค้าต่างขับขี่กันอย่างมุ่งมั่น ผสานการใช้เทคนิคสไตล์ตนเองในการขับขี่รถยนต์ Honda e:HEV คู่ใจ สู่ประสบการณ์ที่สนุกสนานตลอดทริป โดยได้พิสูจน์บนเส้นทางการใช้งานจริงหลากหลายรูปแบบ ทั้งในเมือง และทางขึ้น-ลงเขา รวมถึงทางโค้ง และได้พิสูจน์ถึงการทำงานของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด โดยระบบจะเลือกโหมดการขับขี่ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับระดับของแบตเตอรี่ สภาพถนน และพฤติกรรมในการขับขี่ ประกอบด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี 2 คัน
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี 6 คัน
ตลอดเส้นทางการขับขี่สุดท้าทายเพื่อพิสูจน์ความประหยัดของน้ำมัน 1 ถัง ลูกค้าต่างขับขี่กันอย่างมุ่งมั่น ผสานการใช้เทคนิคสไตล์ตนเองในการขับขี่รถยนต์ Honda e:HEV คู่ใจ สู่ประสบการณ์ที่สนุกสนานตลอดทริป โดยได้พิสูจน์บนเส้นทางการใช้งานจริงหลากหลายรูปแบบ ทั้งในเมือง และทางขึ้น-ลงเขา รวมถึงทางโค้ง และได้พิสูจน์ถึงการทำงานของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด โดยระบบจะเลือกโหมดการขับขี่ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับระดับของแบตเตอรี่ สภาพถนน และพฤติกรรมในการขับขี่ ประกอบด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่
• โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
ระบบจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขณะออกตัว เหมาะกับการขับขี่ในเมือง
• โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
มอบอัตราเร่งทรงพลังและนุ่มนวล โดยระบบจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ในขณะที่เครื่องยนต์จะทำหน้าที่ปั่นไฟส่งเข้าสู่มอเตอร์ เพื่อขับเคลื่อนล้อ หรือเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่
•โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
โดยจุดเด่นอยู่ที่ชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง เหมาะกับการขับขี่โดยใช้ความเร็วสูงคงที่
รถยนต์ e:HEV ทุกรุ่นของฮอนด้า ยังมาพร้อมกับระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) เป็นระบบที่ช่วยชะลอความเร็วรถ และสามารถชาร์จไฟกลับไปที่แบตเตอรี่ไฮบริด ช่วยให้รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า ชะลอความเร็วเมื่อเข้าโค้ง หรือขับรถลงทางลาดชันได้โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย ลดการเหยียบเบรกโดยไม่จำเป็นและยังได้พลังงานไฟฟ้าชาร์จกลับไปที่แบตเตอรี่ ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ให้ทั้งความสนุกสนานในการขับขี่ควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมันและความปลอดภัย และทุกรุ่นยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง** (Honda SENSING) มอบความมั่นใจยิ่งขึ้นในทุกการเดินทาง
สำหรับกิจกรรม ‘Honda e:HEV Challenge ประหยัด… ไปถึงไหนนน!’ ได้พิสูจน์ผลลัพธ์แล้วว่า รถยนต์ Honda e:HEV ทุกรุ่น ทั้ง 30 คัน สามารถขับขี่ได้ไกลเกินกว่า 900 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง โดยที่น้ำมันยังเหลือ จากการทดสอบบนเส้นทางจากกรุงเทพฯ – พิษณุโลก – เชียงใหม่ ซึ่งผู้ชนะทั้ง 6 รุ่น สามารถขับขี่ด้วยน้ำมัน 1 ถัง โดยมีรายละเอียดระยะทางรวม ดังนี้
รถยนต์ e:HEV ทุกรุ่นของฮอนด้า ยังมาพร้อมกับระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) เป็นระบบที่ช่วยชะลอความเร็วรถ และสามารถชาร์จไฟกลับไปที่แบตเตอรี่ไฮบริด ช่วยให้รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า ชะลอความเร็วเมื่อเข้าโค้ง หรือขับรถลงทางลาดชันได้โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย ลดการเหยียบเบรกโดยไม่จำเป็นและยังได้พลังงานไฟฟ้าชาร์จกลับไปที่แบตเตอรี่ ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ให้ทั้งความสนุกสนานในการขับขี่ควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมันและความปลอดภัย และทุกรุ่นยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง** (Honda SENSING) มอบความมั่นใจยิ่งขึ้นในทุกการเดินทาง
สำหรับกิจกรรม ‘Honda e:HEV Challenge ประหยัด… ไปถึงไหนนน!’ ได้พิสูจน์ผลลัพธ์แล้วว่า รถยนต์ Honda e:HEV ทุกรุ่น ทั้ง 30 คัน สามารถขับขี่ได้ไกลเกินกว่า 900 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง โดยที่น้ำมันยังเหลือ จากการทดสอบบนเส้นทางจากกรุงเทพฯ – พิษณุโลก – เชียงใหม่ ซึ่งผู้ชนะทั้ง 6 รุ่น สามารถขับขี่ด้วยน้ำมัน 1 ถัง โดยมีรายละเอียดระยะทางรวม ดังนี้
1.ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 934.7 กิโลเมตร
2. ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 929.5 กิโลเมตร
3.ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 933.9 กิโลเมตร
4.ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 926.4 กิโลเมตร
5.ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 945.4 กิโลเมตร
6.ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 930.8 กิโลเมตร
นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ Honda e:HEV ที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ ยังร่วมแบ่งปันเคล็ดลับการขับประหยัดน้ำมันมาฝาก เพื่อให้สามารถขับขี่ได้อย่างประหยัดยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน และเชิญชวนลูกค้าที่สนใจให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Honda e:HEV ไปด้วยกัน
คุณชัยชนะ พูลพิพัฒน์ ลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี กล่าวว่า “เคล็ดลับของผม คือ เน้นการขับขี่ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยใช้ความเร็วที่ประมาณ 60 ถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ได้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี ในทางเรียบอาจจะไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก แต่ในช่วงเวลาที่ขึ้นหรือลงเนินเขา จะต้องจับจังหวะการหน่วงให้ดี โดยช่วงขึ้นเขาอาจจะใช้โหมด ECON รวมถึงให้รถขยับช้า ๆ เพื่อให้เป็นไฟฟ้า และในจังหวะที่ลงเขาก็จะให้รถชาร์จไฟกลับ น่าจะเป็นระยะทางประมาณ 10 กว่ากิโลฯ ที่ผมแทบจะไม่ได้ใช้น้ำมันเลย ทำให้ได้ตัวเลขอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีมาก”
ด้านลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี คุณครรชิต จุดประสงค์ กล่าวว่า “ในระหว่างการแข่งขัน ผมได้ใช้ความสามารถทั้งของรถ และความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อจะทําให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น จากตอนแรกอยู่ที่ 26 กิโลเมตรต่อลิตร ก็ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปที่ 26.4 และจบที่ 27 กิโลเมตรต่อลิตร สูงสุดเท่าที่เคยทําได้เลยครับ ประทับใจมาก ๆ ตอนซื้อรถมา คิดไว้แล้วว่าถ้าซื้อรถใหญ่ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็จะต้องมากขึ้นแน่นอน แต่พอมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ก็พิสูจน์ได้จริง ๆ ว่าแม้รถจะใหญ่ แต่ก็ยังประหยัดน้ำมันมาก ๆ ปกติแล้วผมจะขับในกรุงเทพฯ หลังจากนี้ก็จะนำวิธีการที่ใช้ในการแข่ง ไปใช้ตอนขับในชีวิตประจําวันด้วยครับ”
คุณเอกพจน์ บุญหนู แชร์ถึงเทคนิคและความประทับใจต่อ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี ของตนเองว่า “เทคนิคของผม คือ ในช่วงการขับขี่ขึ้นเขา ผมจะเร่งความเร็วส่งขึ้นไป พอถึงช่วงประมาณ 3/4 ของเนิน ผมจะยกคันเร่งออก ให้ความเร็วค่อย ๆ ลด แล้วค่อย ๆ เติมคันเร่งไปทีละนิดเพื่อให้ไปถึงยอดเขา พอถึงยอดเขาก็จะปล่อยให้รถไหลลง และค่อยเติมคันเร่งให้มีแรงส่งออกไปครับ โดยรวมความประทับใจต่อรถคันนี้ คือ ให้ทั้งความประหยัด สะดวกสบาย และการขับขี่ที่มั่นคง ผมตัดสินใจไม่ผิดเลยที่มาเป็นครอบครัว Honda e:HEV ขอขอบคุณฮอนด้ามากครับที่จัดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ ให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกกันครับ”
กิจกรรม ‘Honda e:HEV Challenge ประหยัด… ไปถึงไหนนน!’ ได้พิสูจน์อย่างชัดเจนแล้วว่า รถยนต์ Honda e:HEV ทุกรุ่น สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และด้านอัตราประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ พร้อมทั้งสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้กังวล โดยน้ำมันเพียงถังเดียวก็สามารถพาคุณไปได้ไกลกว่าที่คิดในทุก ๆ เส้นทาง เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและเดินทางไกล ลดความกังวลเมื่อต้องเดินทางไกลแบบไม่ต้องเผื่อเวลาชาร์จ
ลูกค้าท่านใดที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์ Honda e:HEV หรือรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของฮอนด้า สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 โดยสามารถลงทะเบียนทดลองขับล่วงหน้าก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ผ่านทาง www.honda.co.th/testdrive
#HondaThailand #FullHybrideHEV #HondaeHEVจะประหยัดไปไหน
หมายเหตุ:
*อัตราการประหยัดน้ำมันที่ได้จากการทดสอบโดยลูกค้าผู้ใช้จริง ผ่านเส้นทางกรุงเทพฯ - พิษณุโลก - เชียงใหม่ เป็นระยะทางรวมไม่ต่ำกว่า 900 กิโลเมตร อ้างอิงจากการขับขี่และวัดผลในกิจกรรมระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายน 2567 (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)
**ฟังก์ชันการทำงานของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) แต่ละระบบ แตกต่างกันในแต่ละรุ่น
ข้อมูลอัตราประหยัดน้ำมันและระยะทางการวิ่ง
หมายเหตุ: ตัวเลขระยะทางที่แสดงข้างต้น อ้างอิงและไม่เกินจากการคำนวณตาม Eco Sticker (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)
2. ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 929.5 กิโลเมตร
3.ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 933.9 กิโลเมตร
4.ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 926.4 กิโลเมตร
5.ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 945.4 กิโลเมตร
6.ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 930.8 กิโลเมตร
นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ Honda e:HEV ที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ ยังร่วมแบ่งปันเคล็ดลับการขับประหยัดน้ำมันมาฝาก เพื่อให้สามารถขับขี่ได้อย่างประหยัดยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน และเชิญชวนลูกค้าที่สนใจให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Honda e:HEV ไปด้วยกัน
คุณชัยชนะ พูลพิพัฒน์ ลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี กล่าวว่า “เคล็ดลับของผม คือ เน้นการขับขี่ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยใช้ความเร็วที่ประมาณ 60 ถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ได้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี ในทางเรียบอาจจะไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก แต่ในช่วงเวลาที่ขึ้นหรือลงเนินเขา จะต้องจับจังหวะการหน่วงให้ดี โดยช่วงขึ้นเขาอาจจะใช้โหมด ECON รวมถึงให้รถขยับช้า ๆ เพื่อให้เป็นไฟฟ้า และในจังหวะที่ลงเขาก็จะให้รถชาร์จไฟกลับ น่าจะเป็นระยะทางประมาณ 10 กว่ากิโลฯ ที่ผมแทบจะไม่ได้ใช้น้ำมันเลย ทำให้ได้ตัวเลขอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีมาก”
ด้านลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี คุณครรชิต จุดประสงค์ กล่าวว่า “ในระหว่างการแข่งขัน ผมได้ใช้ความสามารถทั้งของรถ และความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อจะทําให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น จากตอนแรกอยู่ที่ 26 กิโลเมตรต่อลิตร ก็ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปที่ 26.4 และจบที่ 27 กิโลเมตรต่อลิตร สูงสุดเท่าที่เคยทําได้เลยครับ ประทับใจมาก ๆ ตอนซื้อรถมา คิดไว้แล้วว่าถ้าซื้อรถใหญ่ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็จะต้องมากขึ้นแน่นอน แต่พอมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ก็พิสูจน์ได้จริง ๆ ว่าแม้รถจะใหญ่ แต่ก็ยังประหยัดน้ำมันมาก ๆ ปกติแล้วผมจะขับในกรุงเทพฯ หลังจากนี้ก็จะนำวิธีการที่ใช้ในการแข่ง ไปใช้ตอนขับในชีวิตประจําวันด้วยครับ”
คุณเอกพจน์ บุญหนู แชร์ถึงเทคนิคและความประทับใจต่อ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี ของตนเองว่า “เทคนิคของผม คือ ในช่วงการขับขี่ขึ้นเขา ผมจะเร่งความเร็วส่งขึ้นไป พอถึงช่วงประมาณ 3/4 ของเนิน ผมจะยกคันเร่งออก ให้ความเร็วค่อย ๆ ลด แล้วค่อย ๆ เติมคันเร่งไปทีละนิดเพื่อให้ไปถึงยอดเขา พอถึงยอดเขาก็จะปล่อยให้รถไหลลง และค่อยเติมคันเร่งให้มีแรงส่งออกไปครับ โดยรวมความประทับใจต่อรถคันนี้ คือ ให้ทั้งความประหยัด สะดวกสบาย และการขับขี่ที่มั่นคง ผมตัดสินใจไม่ผิดเลยที่มาเป็นครอบครัว Honda e:HEV ขอขอบคุณฮอนด้ามากครับที่จัดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ ให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกกันครับ”
กิจกรรม ‘Honda e:HEV Challenge ประหยัด… ไปถึงไหนนน!’ ได้พิสูจน์อย่างชัดเจนแล้วว่า รถยนต์ Honda e:HEV ทุกรุ่น สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และด้านอัตราประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ พร้อมทั้งสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้กังวล โดยน้ำมันเพียงถังเดียวก็สามารถพาคุณไปได้ไกลกว่าที่คิดในทุก ๆ เส้นทาง เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและเดินทางไกล ลดความกังวลเมื่อต้องเดินทางไกลแบบไม่ต้องเผื่อเวลาชาร์จ
ลูกค้าท่านใดที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์ Honda e:HEV หรือรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของฮอนด้า สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 โดยสามารถลงทะเบียนทดลองขับล่วงหน้าก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ผ่านทาง www.honda.co.th/testdrive
#HondaThailand #FullHybrideHEV #HondaeHEVจะประหยัดไปไหน
หมายเหตุ:
*อัตราการประหยัดน้ำมันที่ได้จากการทดสอบโดยลูกค้าผู้ใช้จริง ผ่านเส้นทางกรุงเทพฯ - พิษณุโลก - เชียงใหม่ เป็นระยะทางรวมไม่ต่ำกว่า 900 กิโลเมตร อ้างอิงจากการขับขี่และวัดผลในกิจกรรมระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายน 2567 (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)
**ฟังก์ชันการทำงานของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) แต่ละระบบ แตกต่างกันในแต่ละรุ่น
ข้อมูลอัตราประหยัดน้ำมันและระยะทางการวิ่ง
หมายเหตุ: ตัวเลขระยะทางที่แสดงข้างต้น อ้างอิงและไม่เกินจากการคำนวณตาม Eco Sticker (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)
No comments:
Post a Comment