ในการเปิดศักราชสุดยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
• แผนการเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่นี้ ต่อยอดจากความสำเร็จในปีงบประมาณครั้งสำคัญ (FY25) ซึ่ง ไทรอัมพ์ได้ส่งมอบรถจักรยานยนต์ทั่วโลกมากกว่า 141,683 คัน
• โครงการอันน่าทึ่ง จะเริ่มต้นด้วยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่สู่ตลาด เพื่อเจาะกลุ่มเยาวชนทั่วโลก
• สำหรับลูกค้าที่ต้องการเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่จากไทรอัมพ์ สามารถลงทะเบียนเพื่อรับการอัปเดตได้ที่ www.triumphmotorcycles.co.th
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (Triumph Motorcycles) ประกาศกำหนดการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่และรุ่นปรับปรุงใหม่ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 29 รุ่นภายใน 6 เดือนข้างหน้าต่อจากนี้
แผนการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ เกิดขึ้นจากการลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา และด้วยยอดขายทั่วโลกที่ทำลายสถิติของไทรอัมพ์ต่อเนื่องกันมา 5 ปี ตลอดจนความเชื่อมั่นในโอกาสต่าง ๆ ที่มีอยู่ในตลาดรถจักรยานยนต์โลก แม้ต้องเผชิญกับหลายปัจจัยผันผวน
โดยปีงบประมาณครั้งสำคัญ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 ถึงมิถุนายน 2025 ไทรอัมพ์ได้ส่งมอบรถจักรยานยนต์ทั่วโลกมากกว่า 141,683 คัน ตอกย้ำสถานะผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นถึงยอดขายเติบโตอย่างน่าทึ่งถึง 136% นับตั้งแต่ปี 2019 ผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย 950 ราย ใน 68 ประเทศ
ไทรอัมพ์เตรียมเผยโฉมรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ในงานเปิดตัวระดับโลกหลายงาน โดยเริ่มต้นแคมเปญแรก ‘True Originals Never Settle’ ในวันที่ 21 ตุลาคม 2025 ตามมาด้วยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Made to Upstage’ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2025
ในบรรดารถจักรยานยนต์ใหม่ 29 รุ่นที่เตรียมเปิดตัว ไทรอัมพ์ได้ประกาศเปิดตัวไปแล้ว 7 รุ่น ประกอบ ตระกูลรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า TXP รุ่นใหม่, TF 450-X รุ่นล่าสุด และรถจักรยานยนต์ cross-country อีก 2 รุ่น ซึ่งทั้งหมดจะวางจำหน่ายที่โชว์รูมก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่รถจักรยานยนต์อีก 22 รุ่นที่เหลือ จะเป็นรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ในไลน์อัปที่มีอยู่ รวมถึงรุ่นใหม่ที่พัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ลูกค้าในสหราชอาณาจักร จะสามารถกำหนดสเปกและจองรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ของตนได้ทางออนไลน์ทันทีที่มีการเปิดตัว ผ่านเทคโนโลยีใหม่ ‘Reserve My Triumph’ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกรุ่นรถจักรยานยนต์และสีที่ต้องการ พร้อมวางเงินมัดจำ เพื่อการันตีว่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มแรกที่ได้รับรถใหม่ โดยการส่งมอบจะดำเนินการผ่านผู้แทนจำหน่ายที่ลูกค้าเลือกไว้ เพื่อความสะดวกสบายทั้งด้านการดูแล และการบริการหลังการขาย อย่างไรก็ตามบริการจองรถจักรยานยนต์ใหม่นี้จะทยอยเปิดให้บริการในยุโรปและตลาดหลักอื่น ๆ ตั้งแต่ต้นปี 2026 เป็นต้นไป
รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่จะพร้อมจำหน่ายที่ผู้แทนจำหน่ายไทรอัมพ์ทั่วโลกในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยผู้แทนจำหน่ายแต่ละแห่งจะจัดงานเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงช่วงต้นปีปี 2026 เพื่อให้ลูกค้าได้เป็นหนึ่งในกลุ่มแรก ๆ ที่ชมคอลเลกชันรถจักรยานยนต์ทั้งหมด
สำหรับประเทศไทย ลูกค้าและผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ที่พร้อมเปิดตัว รวมถึงการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th/ และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand
แม้ภาคอุตสาหกรรมโดยรวมจะเผชิญความท้าทายอย่างมาก แต่ไทรอัมพ์ยังคงยืนหยัดความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมและคุณภาพอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ผ่านการลงทุนอย่างเป็นประวัติการณ์ในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในเสน่ห์อันยั่งยืนของการขับขี่รถจักรยานยนต์ ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทั่วโลก
การเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นล่าสุด Tiger Sport 800 ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ขณะที่รุ่น Speed Triple RS และ RX ก็มีส่วนช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตแข็งแกร่ง เครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของไทรอัมพ์ในประเทศจีน บราซิล และอินเดีย มีผลการดำเนินงานในตลาดที่แข็งแกร่งอย่างมากตลอดทั้งปีที่ผ่านมา และแรงผลักดันนี้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นจากการที่ไทรอัมพ์ได้ขยายตลาดไปยังกลุ่มตลาดใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น รถจักรยานยนต์ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี รถจักรยานยนต์ออฟโรดสมรรถนะสูง และล่าสุดกับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่เป็นเยาวชน
โดยไทรอัมพ์ เพิ่งเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับเยาวชนเป็นครั้งแรก ได้แก่ ‘Triumph TXP’ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีจาก OSET ประกอบด้วย 4 รุ่นใหม่ ปรับระดับสมรรถนะได้ตามผู้ขับขี่ ผสานดีไซน์พรีเมียมเข้ากับฟีเจอร์ความปลอดภัยครบครัน ด้วยพื้นฐานเทคโนโลยีบุกเบิกของ OSET เสริมด้วยความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและวิศวกรรมจากไทรอัมพ์ ทำให้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทรอัมพ์รุ่น TXP โดดเด่นด้วยโครงรถน้ำหนักเบา การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์สำหรับผู้ขับขี่ ดีไซน์แบบผสมผสาน 2 รูปแบบในหนี่งเดียวอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และโดดเด่นด้วยสี Triumph Performance Yellow และสี Graphite Black
ขณะที่การเปิดตัวรุ่น TF 450-X เมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นการสานต่อความสำเร็จของการแข่งขันออฟโรดครั้งแรกของไทรอัมพ์ โดยรถจักรยานยนต์ทั้ง Motocross และ Enduro ต่างสร้างผลงานอันโดดเด่น ด้วยการคว้าชัยชนะและโพเดียมในการแข่งขันระดับนานาชาติมากมาย อาทิ รายการ FIM MXGP, EnduroGP, SuperEnduro และ AMA SuperMotocross Championship ทำให้รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่น TF 250-X, TF 450-RC, TF 250-E และ TF 450-E ต่างพิสูจน์ศักยภาพในระดับสูงสุดบนเวทีการแข่งขันออฟโรดที่แสนท้าท้ายที่สุดในโลก
นอกจากนี้ในเวทีการแข่งขันทั่วทั้งยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย ไทรอัมพ์ยังสร้างชื่อด้วยการคว้าแชมป์ระดับชาติและโพเดียมหลายรายการ อาทิ ACU British MX2 Motocross Championship ที่ Tommy Searle ขับขี่รถจักรยานยนต์ TF 250-X จนสามารถคว้าแชมป์ไปครอง และรายการ Assoluti d'Italia Enduro Championship ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดในช่วงต้นฤดูกาล ซึ่ง Morgan Lesiardo นักแข่งชาวอิตาลีสามารถคว้าแชมป์รุ่น 250 4T ด้วยรถจักรยานยนต์ TF 250-E
ในขณะเดียวกัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี ประกอบไปด้วย Speed 400, Scrambler 400 X และ Scrambler 400 XC ถือเป็นรถรุ่นสำคัญในการเร่งการเติบโตของไทรอัมพ์ทั่วภูมิภาคเอเชีย
พอล สเตราท์ ประธานเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า “แรงขับเคลื่อนที่เราได้สร้างขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่น่าทึ่งและยอดเยี่ยม อีกทั้งยอดขายที่ทำลายสถิติ การขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ และจำนวนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเหล่านี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เรามีต่ออนาคต แม้ตลาดจะยังคงมีความท้าทายในหลาย ๆ ด้าน แต่เส้นทางของไทรอัมพ์มีความชัดเจน เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบรถจักรยานยนต์ที่เต็มไปด้วยความเร้าใจ ล้ำสมัย และผลิตตามมาตรฐานคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้าทั่วโลก”
###
หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ
เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1902 และเพิ่งฉลองครบรอบ 120 ปี แห่งการเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไปในปี 2022 เป็นเวลากว่าสามทศวรรษ
ที่ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ซึ่งมีฐานการผลิตใน Hinckley, Leicestershire และได้มีการผลิตรถจักรยานยนต์ที่เป็นต้นแบบ ซึ่งเป็นการผสมผสานดีไซน์ คุณลักษณะ เสน่ห์ และสมรรถนะเฉพาะตัวเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
เรื่องราวความสำเร็จระดับโลกของแบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษ
ยอดขายรถจักรยานยนต์ทั่วโลกสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 141,683 คัน ในปีงบประมาณล่าสุดของไทรอัมพ์ (ปีงบประมาณ 2568: กรกฎาคม 2567-มิถุนายน 2568) ผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย 950 รายใน 68 ประเทศ ตอกย้ำสถานะของไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ในฐานะผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ
ในปัจจุบัน ไทรอัมพ์ มีพนักงานทั่วโลกกว่า 3,000 คน และมีสาขาตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร อเมริกาเหนือ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน (สแกนดิเนเวีย) เบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย จีน และไทย รวมถึงเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายอิสระ ไทรอัมพ์ มีโรงงานผลิตอยู่ใน Hinckley, Leicestershire และประเทศไทย รวมถึงโรงงาน CKD ในบราซิลและอินเดีย
กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับโลก
• ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในสิ่งที่นักบิดทั่วโลกกำลังมองหา ความหลงใหลในการส่งมอบการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้าทุกคน และความใส่ใจ
ในรายละเอียดที่มอบรถจักรยานยนต์คุณภาพสูงสุด Triumph นำเสนอรถจักรยานยนต์ชั้นนำประเภทต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ครอบคลุม รถจักรยานยนต์
โมเดิร์นคลาสสิก โรดสเตอร์ และรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ ตั้งแต่ TR-Series 400cc ที่สามารถเข้าถึงได้ไปจนถึง Rocket 3 ที่มีเครื่องยนต์ 2500cc อันทรงพลัง ทุกรุ่นมีสไตล์ คุณภาพ และสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์
• มอบการขับขี่ที่สนุกสนาน คล่องตัว และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักขี่ทุกวัยและทุกระดับประสบการณ์ เช่น Speed 400 และ Scrambler 400 X เปิดตัว
ในปี 2023 พร้อมแพลตฟอร์มเครื่องยนต์เดี่ยวใหม่ล่าสุด (TR Series) ซึ่งแสดงถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมส่งมอบประสบการณ์ให้กับนักบิดรุ่นใหม่ ปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้ขยายเพิ่มครอบคลุม Scrambler 400 XC
• Modern Classics มาพร้อมเครื่องยนต์สูบคู่ Bonneville ในตำนานของ Triumph ที่ตั้งชื่อ เพื่อเฉลิมฉลองสถิติความเร็วบนบกของ Triumph ในปี 1956
บน Bonneville Salt Flats ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา Bonneville เป็นรถซูเปอร์ไบค์สัญชาติอังกฤษดั้งเดิมและเป็นผู้ชนะการแข่งขัน โดยได้รับเลือกจากนักขี่รถจักรยานยนต์ชื่อดังในอดีต ที่มีความโดดเด่นด้านการควบคุมและสไตล์ ปัจจุบัน รถตระกูล Bonneville ได้รับการพัฒนา โดยมีเทคโนโลยีที่เน้น ผู้ขับขี่เป็นหลัก และสไตล์คัสตอมสุดเท่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย Bonneville Bobber, Speedmaster, Thruxton RS, Speed Twin 900, Speed Twin 1200, Scrambler 900, Scrambler 1200 และ Bonneville T120 และ T100 อันเป็นเอกลักษณ์
• ตระกูล Roadsters เริ่มต้นด้วย Trident 660 และ Daytona 660 ที่คล่องตัวและเป็นที่นิยม ตามด้วย Street Triple 765 และปิดท้ายด้วย Speed Triple 1200 RS และ RX สำหรับนักขี่ในกลุ่ม Adventure Triumph มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ Tigers ระดับตำนานครบทุกรุ่น โดยเริ่มตั้งแต่ Tiger Sport 660 ไปจนถึงกลุ่ม Tiger Sport 800 และ Tiger 900 และสุดท้ายคือกลุ่ม Tiger 1200
• การเปิดตัวครั้งแรกของ Triumph ในสนามแข่งขันออฟโรดได้นำมาซึ่งผลงานที่โดดเด่น ด้วยชัยชนะในการแข่งขันและตำแหน่งโพเดียมสำหรับ TF 250-X, TF 450-RC, TF 250-E และ TF 450-E ซึ่งทั้งหมดได้ส่งมอบผลงานในระดับสูงสุดบนเวทีการแข่งขันออฟโรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ในปี 2025 ยังได้เปิดตัวรุ่น TF 450-X และรุ่นครอสคันทรีใหม่สองรุ่น ได้แก่ TF 250-C และ TF 450-C
• ในเดือนตุลาคม 2025 ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดตัว รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับเยาวชนรุ่นแรกของบริษัท ภายใต้ตระกูล Triumph TXP ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีของ OSET การร่วมมือกับทีม OSET ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไทรอัมพ์ในปี 2022 นี้ ส่งผลให้เกิดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด 4 รุ่น ที่มาพร้อมสมรรถนะไฟฟ้าที่ปรับได้ ดีไซน์พรีเมียม และฟีเจอร์ความปลอดภัยในตัวสำหรับเด็กอายุเพียง 3 ปีขึ้นไป รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นถูกออกแบบทั้งหมดด้วยเฟรม, โครงสร้าง, การควบคุม และชิ้นส่วน ที่เหมาะสมกับวัยของผู้ขับขี่ ปรับให้เหมาะกับขนาดร่างกายและประสบการณ์การขับขี่ของเด็ก เพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยและสนุกสนานที่สุด
ไทรอัมพ์ เรซซิ่ง
• Triumph มีประวัติศาสตร์การแข่งรถอันรุ่งโรจน์ โดยเข้าแข่งขันและชนะการแข่งขันในเกือบทุกประเภทและทุกสาขา ซึ่งนับเป็นความสำเร็จด้านการแข่งขันรถจักรยานยนต์สาย Sport นับตั้งแต่การคว้าแชมป์ Isle of Man TT ครั้งที่สองในปี 1908 ไปจนถึงความสำเร็จบนท้องถนนและสนามแข่งในยุค 1960 ทั้งในยุโรป และอเมริกา ไปจนถึงความสำเร็จในการแข่งรถร่วมสมัยด้วยรถ Triumph รายการ SuperSport และ World SuperSport racing ในปี 2014 และ 2015
ชัยชนะรายการ Isle of Man SuperSport TT ในปี 2014 และ 2019 โดย Gary Johnson และ Peter Hickman บวกกับความเร็วเฉลี่ยมากกว่า 130 ไมล์ต่อชั่วโมงในปี 2023 โดย Peter Hickman บน Triumph STR765 ของเขา ตลอดจนชัยชนะรอบสุดท้ายอันน่าตื่นเต้นในการแข่งขัน Daytona 200 ในตำนาน
โดย Brandon Paasch บน Street Triple 765 ในปี 2022
ตำนานการแข่งรถของ Triumph ยังคงดำเนินต่อไปในฐานะซัพพลายเออร์เครื่องยนต์แต่เพียงผู้เดียวในการแข่งขัน FIM Moto2™ World Championship นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2019 Triumph Motorcycles มอบเครื่องยนต์สามสูบ 765cc ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อการแข่งขันให้กับทุกทีม โดยแต่ละคันมีพื้นฐานมาจาก
ขุมพลัง Street Triple RS ชั้นนำของคลาส นิยามใหม่ของคลาสนี้ Triumph ทำลายสถิติครั้งแล้วครั้งเล่าในปีแรก รวมถึงความเร็วสูงสุด Moto2™ ที่ +300 กม./ชม. เป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ ผลตอบรับที่ยอดเยี่ยม และความร่วมมือที่ Triumph มีกับนักบิดและทีมของพวกเขา และการตอบรับอย่างเหลือเชื่อจากแฟน ๆ Triumph ทั่วโลก ทำให้ Triumph และ Dorna ตัดสินใจขยายความสัมพันธ์ในปี 2021 และอีกครั้งในปี 2023
ด้วยการลงนาม สัญญาฉบับใหม่ต่อการแข่งขันอีก 5 ปี (2025-2029)
Triumph กำลังทำงานร่วมกับ PTR Triumph Factory Racing เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน World Supersport Championship ประจำปี 2025 โดยมี Tom Booth-Amos และ Oli Bayliss ร่วมแข่งขันด้วย Street Triple 765 ซึ่ง Macadam Triumph Factory Racing ยังคงดำเนินต่อไปโดยมี Luke Stapleford (รองแชมป์ประจำปี 2024) และ Max Wadsworth นักบิดจาก British Supersport เข้าร่วมในการแข่งขัน National Sportbike Championship โดยทีมมีนักบิด 4 คนในการแข่งขันด้วย Daytona 660 ได้แก่ Brodie Gawith, Jayden Martin, Katie Hand, Lewis Smart พร้อมด้วย PHR Triumph’s Harrison Dessoy
ในปี 2023 Triumph ประกาศความตั้งใจที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน MXGP/MX2 และ SuperMotocross World Championships ปี 2024 และหลังจากฤดูกาลแรกที่ประสบความสำเร็จ กำลังแข่งกับทีมนักแข่งสี่คนสำหรับปี 2025 Jalek Swoll, Austin Forkner, Jordon Smith และ Mikkel Haarup กำลังแข่งให้กับผู้ผลิตชาวอังกฤษ โดยแข่งขันทั้งสองฝั่งของ Supercross และซีรีส์ Pro Motocross เต็มรูปแบบด้วย TF 250-X Triumph คว้าชัยชนะ Main Event ครั้งแรกใน Supercross ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และได้ขึ้นโพเดียมในซีรีส์ Pro Motocross ในปี 1924 และ 1925 ในการแข่งขัน FIM MX2 World Championship Camden McLellan กำลังแข่งขันเป็นปีที่สองบนเครื่องจักรของ Triumph เคียงข้าง Guillem Farres ด้วยผลงานบนโพเดียมในปี 1924 และ 1925 รวมถึงชัยชนะครั้งแรกในโมโตในเดือนเมษายน 2025
ในเดือนกันยายน 2024 Triumph ได้ประกาศว่า Paul Edmondson ตำนานมอเตอร์สปอร์ตและอดีตแชมป์โลก ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมอย่างเป็นทางการของโปรแกรมเอ็นดูโรของ Triumph Factory Racing ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ได้เป็นตัวแทนในการแข่งขันเอ็นดูโรระดับสูงสุดทั่วโลก ในปี 2025 Jonny Walker คว้าอันดับ 2 โดยรวมในการแข่งขัน SuperEnduro World Championship ด้วยรถ TF 250 ของเขา และจบการแข่งขัน Red Bull Erzbergrodeo ปี 2025 ด้วยรถ TF 250-E สี่จังหวะมาตรฐานเกือบเท่าตัว การแข่งขัน EnduroGP บนรถ TF 250-E ของ Triumph คือคู่หูมากประสบการณ์ Jamie McCanney และ Mikael Persson Triumph ได้เข้าร่วมการแข่งขัน International Six Days Enduro ครั้งแรกในเดือนสิงหาคม โดยรถ TF 250-E ช่วยให้อิตาลีคว้าชัยชนะในรายการ World Team Trophy และทีมสวีเดนได้ขึ้นโพเดียมเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ รวมถึงจบการแข่งขันในห้าอันดับแรกของประเภทบุคคลอย่างน่าประทับใจ
No comments:
Post a Comment