ดานอน ประเทศไทย รวมพลังรณรงค์ต่อต้าน
ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
ในงานแถลงข่าว “เด็กไทยฉลาด ต้องไม่ขาดธาตุเหล็ก”
ผลการศึกษาเผยข้อมูลเชิงลึกระบุ เด็กไทยมากกว่า 1 ใน 3 เสี่ยงต่อ
ภาวะโลหิตจาง
ย้ำเด็กไทยมีความเสี่ยงในทุกพื้นที่ ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด
แพทย์หญิงดวงพร ปิณจีเสคิกุล รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (ลำดับที่ 4 จากซ้าย) และ นางสาว ประพิมพ์พรรณ สุวรรณกูฏ ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาเด็กปฐมวัย กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ลำดับที่ 5 จากซ้าย) รศ. นพ. พงศ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ จากคณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล (ลำดับที่ 3 จากซ้าย) แพทริเซีย รังสีสิงห์พิพัฒน์ (ลำดับที่ 2 จากซ้าย) นีน่า อินฟลูเอนเซอร์เจ้าของเพจ "Nina Beauty World" (ลำดับที่ 1 จากซ้าย) ตัวแทนจาก Big C CJ More พี.วาย.กิจศิริ (ลำดับที่ 1-3 จากขวา) และเภสัชกรหญิง วิรัชดา สุทธยาคม ผู้อำนวยการด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพ ดานอน ประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (กลาง) และตัวแทนจากดานอนประเทศไทย
กรุงเทพมหานคร. 6 ธันวาคม 2567 – ดานอน ประเทศไทย ผู้นำระดับโลกด้านอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพ จัดงานแถลงข่าวในวันรณรงค์ภาวะขาดธาตุเหล็กโลก และเปิดตัวงาน “เด็กไทยฉลาด ต้องไม่ขาดธาตุเหล็ก” เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (IDA) และเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนของการตรวจพบภาวะโลหิตจางตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงการดูแลด้านโภชนาการในเชิงรุกเพื่อลดความเสี่ยงภาวะดังกล่าว ที่ผ่านมาดานอนได้ร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์และชุมชน และยังคงเดินหน้าเพื่อพัฒนางานด้านสุขภาพและโภชนาการทั่วประเทศผ่านการส่งเสริมการตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะดังกล่าวตั้งแต่เนิ่นๆ และการสนับสนุนโภชนาการเสริมอาหาร ซึ่งสะท้อนถึงพันธกิจของดานอนในการส่งมอบสุขภาพที่ดีด้วยอาหารให้กับผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดานอนสนับสนุนให้การตรวจคัดกรองภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กเป็นการตรวจภาคบังคับเพื่อให้สามารถรักษาได้เร็วและได้ผลดียิ่งขึ้น โดยงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการรณรงค์ของดานอนเพื่อต่อสู้กับภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในเด็ก และได้รับเกียรติจากแพทย์หญิงดวงพร ปิณจีเสคิกุล รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และ นางสาว ประพิมพ์พรรณ สุวรรณกูฏ ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาเด็กปฐมวัย กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงาน ภายในงานมีการเสวนาโดยกุมารแพทย์ นักโภชนาการจากดานอน ประเทศไทย และตัวแทนคุณแม่เซเลบริตี้ มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับผลการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ความสำคัญของการตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ และการเสริมธาตุเหล็กผ่านอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน
รศ. นพ. พงศ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ จากคณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล ย้ำว่า “ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กสามารถส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการทางร่างกาย และพัฒนาการทางสมอง รวมถึงการทำงานของร่างกายและสมองที่หากการขาดมีความรุนแรงหรือขาดอยู่ในระยะเวลานาน อาจะส่งผลเสียอย่างถาวรได้ ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก อาจไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดังนั้นการตรวจคัดกรองแต่เนิ่นๆ จึงมีความสำคัญอย่างมากในการตรวจพบและจัดการกับภาวะนี้ตั้งแต่ระยะแรกๆ" นายธีรชัย ว่องเมทินี หัวหน้าฝ่ายออกแบบโภชนาการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากดานอน ประเทศไทย เสริมว่า “ในการต่อสู้กับภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก เราจำเป็นต้องเพิ่มอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ ตับ ไข่ ผักใบเขียว หรืออาหารเสริมธาตุเหล็ก เช่น นมเสริมธาตุเหล็กและธัญพืชเข้าไปในอาหารประจำวันของเด็กๆ และจับคู่อาหารเหล่านี้เข้ากับอาหารที่มีวิตามินซีสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกายได้อย่างมาก”
ภายในงาน แพทริเซีย รังสีสิงห์พิพัฒน์ เซเลบริตี้ชื่อดังที่กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง กล่าวว่า “ความตั้งใจของคุณแม่ทุกคนคือดูแลเรื่องโภชนาการของลูกให้ดีที่สุด แต่บางครั้งเราก็ต้องการความรู้เพิ่มเติมค่ะ" นอกจากนี้ แพทริเซียยังได้แบ่งปันเคล็ดลับการเพิ่มอาหารที่มีธาตุเหล็กในมื้ออาหารของเด็ก เช่น เนื้อแดง ถั่ว ผักโขม และการรับประทานคู่กับอาหารที่มีวิตามินซีเพื่อช่วยการดูดซึมธาตุเหล็ก หรือการดื่มนมเสริมธาตุเหล็กเพื่อให้ได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ “เด็กๆ บางครั้งเขาก็เลือกรับประทาน การรับประทานอาหารที่เสริมธาตุเหล็กอย่างการดื่มนมเสริมธาตุเหล็กเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้แน่ใจว่าเราได้รับโภชนาการที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายของเขาค่ะ”
ด้านนีน่า อินฟลูเอนเซอร์เจ้าของเพจ "Nina Beauty World" ได้แบ่งปันประสบการณ์ในฐานะคุณแม่ที่พบว่าลูกมีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก “ตอนที่ลูกของนีน่าได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กนี่ไม่มีอาการเลยนะคะ เราพาเขาไปตรวจเลือดเพราะกังวลที่เขาทานอาหารน้อย แล้วเราก็เพิ่งมารู้ว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่ที่เริ่มมีภาวะนี้ก็ไม่มีอาการชี้บ่งเหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่อย่างเราๆ จึงมีหน้าที่ดูแลให้เขาได้รับการตรวจคัดกรองแต่เนิ่นๆ และจัดเตรียมอาหารให้มีโภชนาการที่เหมาะสม” นีน่าเน้นย้ำว่า "ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง จับคู่กับวิตามินซีเพื่อการดูดซึมที่ดีค่ะ"
ดานอน ประเทศไทย ยืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินงานระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก โดยนอกจากการตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กแบบไม่ต้องเจาะเลือดที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิตภายใต้การดูแลของกรมกิจการเด็กและเยาวชนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 และการมอบเครื่องมือสำหรับตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กแบบไม่ต้องเจาะเลือดให้แก่สำนักอนามัย กรุงเทพมหานครเมื่อเดือนตุลาคม 2567 เพื่อใช้ตรวจเด็กๆ ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 6 แห่งในกรุงเทพมหานครด้วยเป้าหมาย 3,000 คนแล้ว
ดานอน ประเทศไทยยังมีแผนขยายโครงการสร้างความตระหนักรู้และการตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กไปยังสถานสงเคราะห์อื่นๆ ภายใต้กรมกิจการเด็กและเยาวชน รวมทั้งศูนย์บริการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร พร้อมผนึกกำลังกับพันธมิตรในกลุ่มค้าปลีก เช่น บิ๊กซี ซีเจ และพี.วาย.กิจศิริ จำกัดเพื่อจัดบริการตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะดังกล่าวด้วยเครื่องมือแบบไม่มีการเจาะเลือด เพื่อให้เด็กในจังหวัดหลักทั่วประเทศสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรเหล่านี้ ดานอนตั้งเป้าขยายการเข้าถึงการตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถตรวจพบและให้การดูแลได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก โดยความมุ่งมั่นนี้ไม่ได้สิ้นสุดเพียงแค่โครงการเดียว แต่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาพเด็กทั่วประเทศ ทั้งนี้ ดานอน ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าร่วมมือกับภาครัฐ ตลอดจน บุคลากรทางการแพทย์ ชุมชน และพันธมิตรในกลุ่มค้าปลีก เพื่อลดปัญหาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กและยกระดับสุขภาวะโดยรวมของเด็กไทยอย่างยั่งยืน
เภสัชกรหญิง วิรัชดา สุทธยาคม ผู้อำนวยการด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพ ดานอน ประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวว่า “ดานอนได้สนับสนุนการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก โดยเริ่มจากการสนับสนุนการศึกษาวิจัยความชุกของภาวะความเสี่ยงต่อโรคโลหิตจางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะดังกล่าวกับบุคลากรทางการแพทย์นับจนวันนี้ได้รวมแล้วกว่า 9,000 คน และสนับสนุนการตรวจคัดกรองแต่เนิ่นๆ ซึ่งการผลักดันโครงการนี้ของเราเป็นไปตามพันธกิจในการส่งมอบสุขภาพที่ดีด้วยอาหารให้กับผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงความทุ่มเทของดานอนในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกรอบการทำงานเพื่อความยั่งยืนที่เรียกว่า Danone Impact Journey ซึ่งหัวข้อด้านสุขภาพเป็นหนึ่งในนั้น โดยมีใจความหลักคือโครงการ 1,000 วันแรกที่ดานอนสนับสนุนการให้ความสำคัญแก่โภชนาการของเด็กตั้งแต่อยู่ในท้องแม่จนถึงอายุครบ 2 ปีที่ลืมตาดูโลก เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาพและพัฒนาการของเด็ก สอดคล้องกับพันธกิจในการสร้างอนาคตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้นให้กับครอบครัวไทย”
เกี่ยวกับดานอน
ดานอน เป็นบริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก โดยมีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพใน 3 หมวดหมู่ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นมและแพลนต์เบส น้ำ และโภชนาการเฉพาะทาง ดานอนมีวิสัยทัศน์คือ “สุขภาพของผู้คนและสภาวะของโลกเชื่อมโยงถึงกันและกัน” ที่ขับเคลื่อนให้เราสนับสนุนการบริโภคเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและยั่งยืนขึ้น เพราะเราเชื่อว่าสุขภาพของพวกเราทุกคนส่งผลกับสุขภาพของโลกและความสุขของชุมชน ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ดานอน และกระบวนการส่งมอบผลิตภัณฑ์ของเราจึงมีจุดยืนที่เป็นเอกลักษณ์ในการส่งต่อความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสุขภาพของผู้บริโภค สังคม และโลกของเรา ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ Danone Impact Journey ที่ดานอนให้ความสำคัญและมีแนวทางปฎิบัติเพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และผู้คนรวมถึงชุมชน ในตลอดกระบวนการในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย จากเกษตรกรและชุมชน ผ่านผลิตภัณฑ์ของเรา ส่งต่อถึงผู้บริโภคและครอบครัว ภายในปี 2568 ดานอนมีเป้าหมายในการเป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติ (multinational company) กลุ่มแรกที่ได้รับการรับรอง B Corp™ ในระดับโลก เพื่อสะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างผลกระทบเชิงบวกในด้านโภชนาการ บุคคล สังคม และสิ่งแวดล้อม
ดานอน ประเทศไทย
บริษัท ดานอน สเปเชียลไลซ์ นิวทริชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ทำหน้าที่มอบโภชนาการที่สำคัญให้แก่คนไทยหลากหลายช่วงวัยมาเป็นเวลากว่า 65 ปีแล้ว ภายใต้แบรนด์ “ไฮคิว” ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับโลก และแบรนด์ “ดูเม็กซ์” ที่อยู่คู่กับชาวไทยมานาน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ พัฒนามาจากนวัตกรรมด้านโภชนาการเฉพาะทางที่ทันสมัยที่สุด ดานอน ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยผ่านการลงทุนทั้งในด้านทรัพยากรบุคคลและโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท เช่น โรงงานของดานอนในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ที่เป็นโรงงานที่ผลิตเพื่อกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนั้น ดานอน ประเทศไทยยังได้รับการรับรอง B Corp™ สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างผลกระทบเชิงบวกในด้านโภชนาการ บุคคล สังคม และสิ่งแวดล้อม
งานประชุมวิชาการ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567
เรื่อง "ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในสตรีตั้งครรภ์
และเด็กอายุ 0-5 ปี: ปัญหาที่ท้าทายมายาวนาน”
เนื่องในโอกาส World Iron Deficiency Day
จากซ้าย: รศ.พญ.สุชาอร แสงนิพันธ์กูล สาขาวิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; รศ.พญ. สุชยา ลือวรรณ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์วิทยา ถิฐาพันธ์ ประธานเครือข่ายโภชนาการช่วงแรกของชีวิต…ประเทศไทย หรือ Early Life Nutrition Network Thailand; ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ กรมสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อดีตผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและโภชนาการของ FAO แห่งองค์การสหประชาชาติ และอดีตสมาชิกวุฒิสภาประเทศไทย; นายวินเซนต์ เต ผู้อำนวยการแผนกการตลาด ดานอน ประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และผู้อำนวยการแบรนด์ Aptamil ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้; เภสัชกรหญิง วิรัชดา สุทธยาคม ผู้อำนวยการด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพ ดานอน ประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว,และนางนงค์สุดา มงคลสมัย ผู้อำนวยการแผนกกำกับดูแล ดานอน ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดานอน ได้ร่วมมือกับเครือข่ายโภชนาการช่วงแรกของชีวิต…ประเทศไทย (Early Life Nutrition Network) จัดงานประชุมวิชาการนี้ขึ้นในสัปดาห์เดียวกับวันรณรงค์ภาวะขาดธาตุเหล็กโลก (World Iron Deficiency Day) เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia, IDA) ในสตรีตั้งครรภ์และเด็กในช่วงปฐมวัยแก่บุคลากรทางการแพทย์ โดยการประชุมนี้จัดขึ้น ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ ในวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 การประชุมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างให้บุคลากรทางการแพทย์ผู้ที่เกี่ยวข้องในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ ทารก และเด็กเล็ก ตระหนักถึงความสำคัญของภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ผลกระทบต่อสุขภาพ แนวทางการป้องกัน และการให้คำแนะนำการดูแลด้านโภชนาการที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดธาตุเหล็ก การรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญและผู้ปฏิบัติงานในครั้งนี้จะนำไปสู่ความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนผลการวิจัยล่าสุด และการพัฒนากลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก เพื่อยกระดับผลลัพธ์ทางสุขภาพของแม่และเด็ก โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ 4 ท่าน ได้แก่ ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์วิทยา ถิฐาพันธ์ ประธานเครือข่ายโภชนาการช่วงแรกของชีวิต…ประเทศไทย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ กรมสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อดีตผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและโภชนาการของ FAO แห่งองค์การสหประชาชาติ และอดีตสมาชิกวุฒิสภาประเทศไทย รศ.พญ.สุชาอร แสงนิพันธ์กูล สาขาวิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ รศ.พญ. สุชยา ลือวรรณ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จากซ้าย: ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์วิทยา ถิฐาพันธ์ ประธานเครือข่ายโภชนาการช่วงแรกของชีวิตประเทศไทย (Early Life Nutrition Network) , รศ.พญ.สุชาอร แสงนิพันธ์กูล สาขาวิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
และ รศ.พญ. สุชยา ลือวรรณ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ดานอน ยังคงยืนหยัดในการสนับสนุนครอบครัวไทยในการเผชิญความท้าทายด้านสุขภาพและโภชนาการที่พบในปัจจุบัน โดยเป็นผู้นำในการริเริ่มโครงการต่างๆ รวมถึงการสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็งกับพันธมิตรที่ทำงานด้านการดูแลสุขภาพ เพื่อยกระดับการตรวจคัดกรองภาวะโลหิตจาง และให้ความรู้เรื่องการขาดธาตุเหล็กและวิตามินและแร่ธาตุแก่ผู้ปกครองและผู้ดูแลเด็ก ด้วยทรัพยากรและความเชี่ยวชาญที่มี ดานอนได้นำนวัตกรรมการตรวจวัดระดับฮีโมโกลบินแบบไม่ต้องเจาะเลือดมาใช้ร่วมกับการตรวจด้วยวิธีเจาะเลือดแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นมาตรฐานในการรักษา โดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์จากหลากหลายสาขา เพื่อกำหนดแนวทางการสนับสนุนที่ตรงจุดและทันต่อความต้องการ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและตอบสนองความต้องการที่สำคัญได้อย่างทันท่วงที ด้วยความมุ่งมั่นผ่านการดำเนินงานเหล่านี้ ดานอนจึงพร้อมที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของแม่และเด็กในประเทศไทย
No comments:
Post a Comment