รองผอ. อ.ส.ค. “สุชาติ” เดินหน้าพัฒนาการผลิตนมของเกษตรกรไทย ชูธงใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี พร้อมชักชวนสร้างสุขภาพแข็งแรงสู้โควิด-19 ด้วยการบริโภคนมและผลิตภัณฑ์ ของอ.ส.ค. หลังตลาดตอบรับดี พร้อมขยายการผลิตโยเกิร์ตพร้อมดื่ม “Chew-D”
นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า เนื่องด้วยในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าภาคอุตสาหกรรมโคนมของประเทศไทย ต้องได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคธุรกิจ ดังนั้นก้าวต่อไปของการประกอบอาชีพการเลี้ยงโคนมของเกษตรกร และการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมนม จึงจำเป็นต้องก้าวสู่แนวทาง Next Normal ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยพัฒนา ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญของการดำเนินงานของ อ.ส.ค. ในปี 2564 ที่จะมุ่งเน้นการสนับสนุนและพัฒนาด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย นำมาซึ่งการสร้างความเข้มแข็งแก่ทุกภาคส่วน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเฉพาะในส่วนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ที่ต้องได้รับการสนับสนุนเกิดการพัฒนาเพื่อก้าวสู่การเป็นสมาร์ทฟาร์เมอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิต ทำให้เกิดการพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน ดังนั้น ปี 2564 จึงเป็นปีที่ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจให้การพัฒนาเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเต็มความสามารถ
“ สำหรับปริมาณน้ำนมดิบในภาพรวมของปี 2564 ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน คาดว่าจะมีปริมาณที่ไม่เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่ผ่านมา คือ ผลผลิตรวมทั้งประเทศที่ประมาณ 3,500 ตันต่อวัน ในฐานะที่อ.ส.ค.เป็นหน่วยงานหลักในการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร จึงกำหนดเป้าหมายในการทำตลาดเพื่อสัดส่วนการจำหน่ายน้ำนมให้ได้มากขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับการซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรให้ได้เท่าปีที่ผ่านมาที่ประมาณ 700 ตันต่อวัน ซึ่งจะช่วยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการจำหน่ายน้ำนมดิบของเกษตรกร”
นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้นในปี 2564 อ.ส.ค. ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค นมโคแท้ 100% ไม่ผสมนมผง จึงกำหนดเป้าหมายที่จะมีมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมด้านการตลาด ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงร้านไทย-เดนมาร์ค มิลค์แลนด์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น นำไปสู่การเพิ่มปริมาณการดื่มนมจากเมนูเครื่องดื่มต่างๆที่ใช้ส่วนผสมของนมไทย-เดนมาร์ค ทำให้มีรสชาติ หอม มัน อร่อย และได้ประโยชน์จากนมโคสดแท้ๆ โดยเมื่อเร็ว ๆนี้ อ.ส.ค.ได้นำศิลปินกลุ่ม BNK48 จำนวน 12 คน นำโดยเฌอปราง และ สมาชิก 11 คน เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ในการสร้างการจดจำ ส่งเสริม และรณรงค์การบริโภคนมในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา รวมถึงประชาชนทั่วไปให้เลือกดื่มนมโคแท้ 100% ไม่ผสมนมผง ดังนั้นจึงขอเชิญชวนทุกท่านได้ไปสัมผัสและดื่มนมจากเมนูเครื่องดื่มต่างๆ ปัจจุบันของร้านไทย-เดนมาร์ค มิลค์แลนด์ มากกว่า 100 สาขา ทั่วประเทศ
“ สำหรับผลิตภัณฑ์นมชนิดอื่นๆ ที่อ.ส.ค.ได้จัดจำหน่ายในตลาดเวลานี้ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เช่น โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ปราศจากไขมัน ยูเอชที กลิ่นเสาวรส ผสมเนื้อบุก ตราไทย-เดนมาร์ค “Chew-D” ที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ดูแล รักษารูปร่าง ชอบการดื่มนม แต่ก็อยากควบคุมน้ำหนัก โดยให้พลังงานทั้งหมด เพียง 60 กิโลแคลอรี่ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคที่ต่างบอกว่าเป้นผลิตภัณฑ์นมที่โดดนมาก ดังนั้นอ.ส.ค.จึงมีปรับกระบวนการผลิตให้สามารถผลิตโยเกิร์ตพร้อมดื่ม “Chew-D” ได้ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการขยายช่องทางจัดจำหน่ายด้วยการเพิ่มการวางจำหน่ายจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าที่เป็นโมเดิลเทรดต่างๆ”
นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ ผลิตภัณฑ์ “ไทย-เดนมาร์ค แลคโตส ฟรี” ที่เป็นทางเลือกใหม่ของนมพร้อมดื่มยูเอชทีที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่แพ้น้ำตาลแลคโตส ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโคเช่นกัน รวมถึง “ชานมไทย-เดนมาร์คไข่มุกบุก” โดยนำชานมไต้หวันเมนูยอดฮิตของแอร์เอเชียผสมกับนมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผงมีแคลเซียมธรรมชาติสูง ของนมไทย-เดนมาร์คกลายเป็นเมนูใหม่ให้รสชาติหอมมันเป็นเอกลักษณ์จำหน่ายในทุกเที่ยวบินอีกด้วย ซึ่งความร่วมมือระหว่าง อ.ส.ค. กับสายการบินแอร์เอเชียในครั้งนี้ ถือเป็นปฏิบัติการทางตลาดเชิงรุกครั้งสำคัญของผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คในช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา
“ ดังนั้นในส่วนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ขอให้มั่นใจได้ว่า อ.ส.ค.พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อการพัฒนาอย่างเต็มที่ ภายใต้แนวนโยบาย นวัตกรรมและเทคโนโลยีโคนมไทยสู่ NEXT NORMAL ขณะที่ผู้บริโภคขอให้มั่นใจกับผลิตภัณฑ์นมชนิดต่าง ๆ ของอ.ส.ค. ซึ่งผลิตจากนมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง ซึ่งถือเป็นอาหารที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ท่ามกลางการดำเนินชีวิตแบบวิถีปกติใหม่ หรือ New Normal” นายสุชาติกล่าวทิ้งท้าย
No comments:
Post a Comment