นายวรเทพ อัศวนิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงชัยแอร์ควอลิตี้ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ แบรนด์ Blueair (บลูแอร์) เผยว่า หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 รุนแรงขึ้นในช่วง 2-3 ปีหลัง ทำให้เครื่องฟอกอากาศ Blueair ได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของคนกลุ่มใหญ่มากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากผู้คนต่างต้องการเครื่องฟอกอากาศที่มีทั้งประสิทธิภาพการใช้งาน มีอัตราการฟอกสูง เพื่อทำให้บ้านมีอากาศบริสุทธิ์ปลอดฝุ่น 100% และที่สำคัญ หลายคนยังคาดหวังถึงบริการหลังการขายที่มีคุณภาพอีกด้วย จนส่งผลให้ Blueair ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ครบถ้วน ได้กลายเป็นแบรนด์เครื่องฟอกอากาศตัวเลือกแรกที่หลายคนนึกถึงในที่สุด
“โดยทั่วไปแล้ว ปัญหาฝุ่น PM 2.5 นับเป็นปัญหามลพิษแผลใหญ่ที่เกิดอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับเมืองใหญ่ในประเทศกำลังพัฒนา แน่นอนว่าช่วงที่ปริมาณฝุ่นมีมากขึ้น ผู้คนก็ตื่นตัวในการเปิดใช้เครื่องฟอกกันมากขึ้น ทว่าปัญหาที่บริษัทได้เจอคือช่วงเวลาที่ฝุ่นลดลง ผู้คนกลับลดความสำคัญกับการใช้งานเครื่องฟอกอากาศลงไปด้วย ทั้งๆ ที่ปริมาณของฝุ่นนั้นยังมีความหนาแน่นสูงอยู่ และมากพอที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว บริษัทจึงได้พยายามเสริมความเข้าใจในตัวลูกค้า ด้วยการใช้ทีม Service เข้าดูแลลูกค้าเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม และบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน เพื่อคอยจัดการให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นถึงความสำคัญของอากาศบริสุทธิ์ที่ทุกคนควรได้รับในอีกทาง”
ทางด้าน นายบุญฤทธิ์ ฉันสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แสงชัย แอร์ควอลิตี้ จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แบรนด์ Blueair ถือเป็นเครื่องฟอกอากาศจากสวีเดนที่มีโพสิชั่นชัดเจนมาก โดยเฉพาะการโฟกัสกับการทำเครื่องฟอกอากาศเพียงอย่างเดียว ต่างจากคู่แข่งผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ทั่วไป ที่มีการ OEM ผลิตภัณฑ์หลายชนิด แต่ไม่ได้มีนวัตกรรมที่โดดเด่นในผลิตภัณฑ์ชนิดใดเป็นพิเศษ จนทำให้ Blueair กลายเป็นผู้นำนวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศอย่างชัดเจน และยังเป็นแบรนด์แรกที่นำเทคโนโลยี IoT มาใช้ในผลิตภัณฑ์อีกด้วย
นอกจากนี้ แสงชัยแอร์ฯ ยังได้ดำเนินการนำจุดแข็งนี้มาฉีกตัวเองให้หนีห่างจากคู่แข่งมากขึ้น ด้วยการสร้างทีม Service ที่แข็งแกร่ง กระจายตัวคอยให้บริการหลังการขายดูแลลูกค้าถึงบ้าน ซึ่งในปัจจุบันนี้ Blueair ได้มีทีม Service รวมแล้วกว่า 10 ทีม
ทีม Blueair Service เป็นการบริการหลังการขาย ที่เป็นจุดแข็งของแบรนด์เครื่องฟอกอากาศจากสวีเดน โดยนอกจากบริการทั่วไปอย่างการซ่อมบำรุง หรือการตรวจเช็คสภาพผลิตภัณฑ์แล้ว ทีม Service ของ Blueair ยังเป็นแบรนด์เดียวที่มีการดูแลผู้บริโภคด้วยบริการทำความสะอาดฟรีถึงบ้าน ในเดือนที่ 6 หลังซื้อผลิตภัณฑ์ รวมถึงให้บริการ call center แจ้งเตือนการเปลี่ยนไส้กรองทุก 1 ปี เพื่อให้การดูแลที่ดีที่สุดกับลูกค้าในระยะยาว อีกทั้ง แสงชัยแอร์ฯ ยังได้ดำเนินการต่อยอดจุดแข็งของทีม Service ด้วยการสร้างโชว์รูมสำหรับบริการเครื่องฟอกอากาศ Blueair โดยเฉพาะ เปิดให้ลูกค้าสามารถนำผลิตภัณฑ์มาเข้ารับการซ่อมบำรุง จากทีมช่าง Service ที่มีประสบการณ์ได้ตลอดเวลา
“การมีทีม Service ที่แข็งแกร่ง ประกอบกับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทำให้ Blueair เป็นที่เชื่อมั่นของกลุ่มลูกค้าระดับบน มากกว่า 20,000 รายในปัจจุบัน ที่มีการซื้อซ้ำอยู่เรื่อยๆ และยังมีการแนะนำกันปากต่อปากอีกด้วย อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมาบริษัทต้องเจอกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทำให้ยอดการเติบโตตกลงไปเล็กน้อย ซึ่งในปี 64 นี้ แสงชัยแอร์ฯ เริ่มลุยตลาดรอบใหม่ด้วยการเสริมทีม Service ให้แข็งแรงขึ้น พร้อมทั้งเตรียมที่จะทำในสิ่งที่เรานำหน้าคนอื่นมาตลอด ด้วยการยกระดับนวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศไปอีกขั้น สร้างเจเนอเรชั่นใหม่เพื่อทิ้งระยะหนีคู่แข่งออกไปอีกครั้ง ในช่วง Q2 และใช้เป็นอาวุธหลักในการพาคนไทยผ่านวิกฤต PM 2.5 รวมถึงช่วยให้บริษัทเพิ่มยอดขายขึ้น 50% หรือตั้งเป้าอยู่ที่ 150 ล้านบาท ในปีนี้” นายบุญฤทธิ์ ทิ้งท้าย
ผู้สนใจ “เครื่องฟอกอากาศ Blueair” สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ได้ที่ Line official : @blueair, Facebook : Blueair Thailand หรือสั่งซื้อผ่านทาง Shopee, Lazada, Robinson online, Central online รวมถึงห้างสรรพสินค้า Central, Power Buy, Paragon, Emporium, The Mall และ บุญถาวร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-628-2200
No comments:
Post a Comment