“นโยบายแบบแพ็คเกจ 6 แกนหลักครบวงจร”
พร้อมชี้ ความเสี่ยงของผู้ประกอบการร้านอาหาร
ร้านอาหารเจอโจทย์ท้าทาย กับ 5 ปัจจัย-ด้านพฤติกรรมผู้บริโภคที่ซับซ้อน และ เทรนด์ความต้องการที่ไม่มีรูปแบบตายตัว จงรักภักดีต่อแบรนด์ต่ำ และ เปลี่ยนง่ายตามกระแส
ทั้งนี้ การแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารเครื่องดื่มที่สูง เทรนด์ของร้านอาหารและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ขณะที่ต้นทุนราคาวัตถุดิบอาหารผันผวนในระดับสูง แต่การปรับราคาทำได้จำกัด ส่งผลกระทบต่อรายได้และผลกำไรของผู้ประกอบการ-เป็นอย่างมาก
นางฐนิวรรณ ยังเปิดเผยถึง “ความเสี่ยงของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม มาจากปัจจัยหลักๆ ด้านต้นทุนรอบด้านของธุรกิจร้านอาหารมีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งค่าแรงที่มีสัดส่วนประมาณ 15% ของต้นทุน ขณะที่ค่าสาธารณูปโภคและค่าเช่ามีสัดส่วนรวมกันกว่า 20% ของต้นทุนรวม รวมถึงราคาวัตถุดิบอาหารซึ่งคิดเป็นประมาณ 35% ของต้นทุน ตลอดจน ต้นทุนที่สำคัญอื่นๆ ตลอดจน นโยบายภาษีจากสงครามการค้าที่ทำให้ราคาสินค้าบางประเภทสูงขึ้น โดยราคาวัตถุดิบในประเทศปรับขึ้นหลายรายการ อาทิ ไข่ไก่ และเนื้อหมูสด ขณะที่กลุ่มวัตถุดิบอาหารที่ต้องนำเข้า อาทิ นมผง เนย ชีส แป้งสาลี โกโก้ และเมล็ดกาแฟ แม้จะปรับตัวลดลงจากในช่วงต้นปี 2568 แต่ราคายังผันผวนในระดับสูง ทำให้กลุ่มร้านเครื่องดื่ม ร้านเบเกอรี่และอาหารตะวันตกจะเป็นกลุ่มได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก
นางฐนิวรรณในฐานะ นายกสมาคมฯ เดินหน้าผลัก-“6 มาตรการหลัก ที่เน้นเป็น “นโยบายแบบแพ็คเกจ 6 แกนหลักครบวงจร” โดยครอบคลุมด้าน—ลดต้นทุน-เพิ่มรายได้-พัฒนาทักษะ-ส่งเสริมการตลาด-เพื่อการพัฒนาธุรกิจร้านอาหารอย่างยั่งยืน ต่อภาครัฐ ขานรับต่อจากนโยบาย “คนละครึ่ง”-ของรัฐบาล ที่กำลังจะประกาศใช้ โดย “นโยบายแบบแพ็คเกจ 6 แกนหลักครบวงจร” เพื่อให้ธุรกิจร้านอาหารและท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย ด้านการเงินและภาษี ด้านต้นทุนปฏิบัติการ ด้านแรงงาน-ทักษะ ด้านการตลาดและการท่องเที่ยว ด้านดิจิทัลและนวัตกรรม และสุดท้าย ด้านกฎหมาย-มาตรฐาน-ความยั่งยืน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
“นโยบายแบบแพ็คเกจ 6 แกนหลักครบวงจร”
1. ด้านการเงิน–ภาษี (Cost Relief & Liquidity)
- ซอฟต์โลนดอกเบี้ยต่ำ 1-2% วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท/กิจการ ค้ำโดย บสย. 70% - ยกเว้น/ลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 50-100% เป็นเวลา 1 ปี สำหรับ (อาหาร สุขาภิบาล ดนตรีสด สื่อโฆษณา)
- ภาษีเงินได้บุคคล/นิติบุคคล: หักค่าใช้จ่ายลงทุนยกระดับครัว / ระบบความเย็น / พลังงานสะอาด แบบ Super Deduction 2.0 (หักเพิ่ม 1.5-2 เท่า)
- ภาษีเงินได้บุคคล/นิติบุคคล: หักค่าใช้จ่ายลงทุนยกระดับครัว / ระบบความเย็น / พลังงานสะอาด แบบ Super Deduction 2.0 (หักเพิ่ม 1.5-2 เท่า)
- อัตราค่าไฟ–ค่าน้ำพิเศษ สำหรับกิจการบริการขนาดเล็ก/กลาง (SME Tariff)
- ตลาดกลางวัตถุดิบอาหาร (Centralized Sourcing Hubs) ร่วม อ.ต.ก.
–เอกชน ตัด ตัวกลาง ลดราคาวัตถุดิบ 5-10%
3. ด้านแรงงาน–ทักษะ (Jobs & Skills)
- Upskill/Reskill : ภาษา, มาตรฐานบริการ, Food Safety, การตลาดดิจิทัล, บริหาร ต้นทุน (โดยร่วมกับอาชีวะ / มหาวิทยาลัย/แพลตฟอร์มออนไลน์)
- ช่องทางแรงงานต่างชาติถูกกฎหมายแบบ Fast-Track สำหรับตำแหน่งขาดแคลน ควบคุม มาตรฐานค่าจ้าง/สวัสดิการ
4. ด้านการตลาด–การท่องเที่ยว (Demand Stimulus)
- เทศกาลอาหารจังหวัด/เส้นทาง Food Tourism (Street Food to Fine Dining) เชื่อม แหล่งท่องเที่ยวชุมชน
- แคมเปญ “Clean Food, Safe & Iconic” ผลักดันมาตรฐานร้านท้องถิ่น+คอนเทนต์ หลายภาษา
5. ด้านดิจิทัล–นวัตกรรม (Digital Boost)
- Open Data ภาคท่องเที่ยว-อาหาร (ความต้องการ, ซีซั่น, เทศกาล) ให้ SMEs ใช้ วางแผน
- กองทุนสตาร์ทอัพ FoodTech/TravelTech (โซลูชันลดต้นทุน–ลดสูญเสียอาหาร– พลังงานสะอาด)
- Green Restaurant/Hotel Program: เงินอุดหนุน 30–40% สำหรับอุปกรณ์ประหยัด พลังงาน ลดพลาสติก, จัดการขยะอาหาร
- ปรับปรุงผังเมือง/กฎสถานที่ ส่งเสริมโซนอาหารกลางคืนที่ปลอดภัย มีมาตรฐานเสียง สุขอนามัย
5 ปัจจัย-ด้านพฤติกรรมผู้บริโภคที่ซับซ้อน ที่กระทบต่อธุรกิจร้านอาหาร “ความแปลกใหม่+ประสบการณ์+คุณภาพ+สุขภาพ+ราคาสมเหตุสมผล”
ท้ายสุด
ท้ายสุด
เป็นอีกหนึ่งผลกระทบจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยประกอบด้วย 5 ปัจจัยสำคัญ คือ “ความแปลกใหม่+ประสบการณ์+คุณภาพ+สุขภาพ+ราคาสมเหตุสมผล” ได้กลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ของผู้บริโภคใน
ปัจจุบัน
และเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่ได้มีรูปแบบตายตัว ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ต่ำและเปลี่ยนแปลงตามกระแสอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับรูปแบบธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่
ด้วยตลาดที่เข้าง่ายแต่แข่งขันสูงจากจำนวนผู้ให้บริการที่มีมาก หลักหลายแสนร้าน ตลอดจนร้านอาหารในบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ส่งผลให้แข่งขันของธุรกิจร้านอาหารดุเดือด การรักษาผลกำไรของธุรกิจให้ได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จึงยังเป็นโจทย์ที่ท้าทาย
การรับมือและแนวทางการปรับตัว
และเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่ได้มีรูปแบบตายตัว ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ต่ำและเปลี่ยนแปลงตามกระแสอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับรูปแบบธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่
ด้วยตลาดที่เข้าง่ายแต่แข่งขันสูงจากจำนวนผู้ให้บริการที่มีมาก หลักหลายแสนร้าน ตลอดจนร้านอาหารในบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ส่งผลให้แข่งขันของธุรกิจร้านอาหารดุเดือด การรักษาผลกำไรของธุรกิจให้ได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จึงยังเป็นโจทย์ที่ท้าทาย
การรับมือและแนวทางการปรับตัว
การทำร้านอาหารยุคนี้ต้องรอบรู้ เข้าใจทั้งผู้บริโภคว่าต้องการอะไร และปรับตัวให้ทันสภาวะเศรษฐกิจ ลดต้นทุน: ผู้ประกอบการต้องรัดเข็มขัด ควบคุมค่าวัตถุดิบ และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด. ที่สำคัญที่สุด คือ
การตลาดออนไลน์ การไม่มีตัวตนบนโลกออนไลน์ทำให้ร้านอาหารกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องสร้างตัวตนและการรับรู้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อลดการพึ่งพาแค่เพียงหน้าร้าน เท่านั้น ยิ่งกว่านี้ การทำโปรโมชั่นกระตุ้นตลาดร่วมกับพันธมิตรอย่างแอปพลิเคชั่นจัดส่งอาหารไปยังที่พัก (Food Delivery Application) เพื่อเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้และกระตุ้นยอดขาย ได้อีกทางหนึ่ง นางฐนิวรณ กล่าวปิดท้าย
No comments:
Post a Comment