บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุน Eastspring Global Low Volatility Equity ลงทุนหุ้นโลกที่มีความผันผวนต่ำ โอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงตลาดขาขึ้น - Siam Outlook

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Monday, February 6, 2023

บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุน Eastspring Global Low Volatility Equity ลงทุนหุ้นโลกที่มีความผันผวนต่ำ โอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงตลาดขาขึ้น


กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 06 กุมภาพันธ์ 2566- บลจ.อีสท์สปริง มองเศรษฐกิจ การลงทุนปี 2566 ยังผันผวน แต่จีนและเอเชีย จะได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศ วางธีมการลงทุนหลากหลายตลอดปีทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเปิดตัว กองทุนเปิด Eastspring Global Low Volatility Equity ลงทุนในกองทุนหลัก Eastspring Investment Global Low Volatility Equity Fund ด้วยทีมบริหารจัดการมืออาชีพ เน้นลงทุนในหุ้นโลกที่มีความผันผวนต่ำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในช่วงตลาดขาลง และโอกาสสร้างผลตอบแทน upside เวลาตลาดปรับขึ้น คาด IPO 14-20 กุมภาพันธ์ ศกนี้



นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2566 จะยังคงมีความผันผวนอยู่ จากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายการเงินและการคลัง และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยมองว่าเศรษฐกิจจีนและเอเชียในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตได้ดีกว่าทื่อื่น จากนโยบายการเปิดประเทศของจีนเมื่อต้นปีผ่านมา และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมกลุ่มเทคโนโลยี ในขณะที่สหรัฐและยุโรปเติบต่ำกว่า 1-1.5% ส่วนเอเชียหลายประเทศได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศ โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม รวมทั้งไทย ในขณะที่อินเดียและ อินโดนีเซีย จะได้ประโยชน์จากการกระจายห่วงโซ่อุปทานเพื่อหนีการพึ่งพาจากจีน

“ขณะนี้เราเริ่มเห็นการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงกลางปี 66 ซึ่งโดยปกติตลาดหุ้นมักจะให้ผลตอบแทนได้ดีทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ที่ได้รับประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ” นางสาวดารบุษป์กล่าว


ด้านนาย Bill Maldonado Chief Investment Officer, Eastspring Investments (Singapore) กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียจะมีบทบาทมากขึ้นในเรื่องของการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม โดยจะเห็นทุกภาคฝ่ายให้ความสนใจและระดมทุนในนวัตกรรมต่าง ๆ มากขึ้น เช่น รถยนต์ไฟฟ้า และพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้เข้าเรื่อง Net Zero ทำให้เกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นอย่างมาก โดยจีนจะเป็นผู้นำการผลิตระบบพลังงานแสงอาทิตย์และครองห่วงโซ่อุปทาน อินโดนิเซียสร้างสวนอุตสาหกรรมซึ่งจะเป็นที่รองรับอุตสาหกรรมสีเขียว เช่น ผลิตแผงแสงอาทิตย์, แบตเตอรี่ลิเธียม และมาเลเซีย อุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์ทดสอบอัตโนมัติ ทำให้เกิดการประหยัดพลังงานและลดขยะได้ นอกจากนี้ยังจะเห็นบริษัทมีการออกนโยบาย ESG และมีการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น รวมถึงนักลงทุนจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับบริษัท มากกว่าใช้เงื่อนไขทาง ESG ในการคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น

สำหรับแนวทางการลงทุนของบลจ.อีสท์สปริงในปี 2566 นี้ จะเน้นการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนหลากหลาย โดยมีธีมการลงทุนทั้งในส่วนของกองทุนต่างประเทศและกองทุนในประเทศ สำหรับกองทุนต่างประเทศนั้นประกอบด้วย 1.หุ้นกลุ่ม defensive ทั้งหุ้นปันผล, หุ้นผันผวนต่ำ รวมถึงหุ้นคุณภาพดีที่มีรายได้และกระแสเงินสดสม่ำเสมอ และมีผลการดำเนินงานไม่ผันแปรตามภาวะเศรษฐกิจมาก จึงเหมาะกับการลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) 2. เน้นลงทุนในภูมิภาคเอเชีย 3.ตราสารหนี้โลกคุณภาพดี และ 4.การลงทุนที่เน้นถึงความยั่งยืน (ESG) ขณะที่กองทุนในประเทศ ได้แก่ 1.หุ้นปันผลและหุ้นขนาดใหญ่ 2.หุ้นกู้เอกชนคุณภาพดีและพันธบัตรรัฐบาล และ 3.ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของไทย (REITs) ที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเมืองและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เริ่มทรงตัว รวมถึงอัตราผลตอบแทน (yield) และส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (yield spread) อยู่ในระดับน่าสนใจราว 6.5%, 3.5% ตามลำดับ

ดังนั้นเพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีในการลงทุน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จึงร่วมกับ Eastspring Investments (Singapore) เปิดตัวกองทุนเปิด Eastspring Global Low Volatility Equity (ES-LOVE) ที่เน้นลงทุนในหุ้นโลกโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้พอร์ตโดยรวมมีความผันผวนต่ำ ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสี่ยงในช่วงตลาดขาลง พร้อมสร้างผลตอบแทนที่ดีเมื่อตลาดปรับตัวเป็นขาขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายนักลงทุนที่สนใจระหว่างวันที่ 14-20 กุมภาพันธ์ 2566 มูลค่า 5,000 ล้านบาท

กองทุนเปิด Eastspring Global Low Volatility Equity มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว คือ กองทุน Eastspring Investment Global Low Volatility Equity Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class C Acc USD ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80% ในรอบบัญชี กองทุนหลักจะเน้นการลงทุนในหุ้นทั่วโลกโดยใช้ปัจจัยเชิงปริมาณโดยให้ความสำคัญกับหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและโมเมนตัมที่ดี ซึ่งมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ได้ใกล้เคียงกับดัชนีหุ้นโลก MSCI Ac World ด้วยความผันผวนที่ต่ำกว่า โดยจะคัดเลือกหลักทรัพย์ประมาณ 250-350 เข้าพอร์ตลงทุนจากหุ้นทั่วโลกที่มากถึง 15,000 ตัว สำหรับกลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะเน้นลงทุนได้แก่ กลุ่มสุขภาพ, สื่อสาร, สินค้าจำเป็น เป็นต้น

“จุดเด่นของ Eastspring Investment Global Low Volatility Equity Fund อยู่ที่การคัดเลือกหุ้นในพอร์ตซึ่งจะตั้งต้นจากจำนวนหุ้นที่มากถึง 15,000 ตัวจากดัชนี S&P BMI Index ซึ่งจะสร้างโอกาสลงทุนได้ดี ประกอบกับทีมงานที่บริหารกองทุนดังกล่าวมีประสบการณ์เฉลี่ยราว 16 ปี นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมากลยุทธ์ดังกล่าวสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับ ดัชนีชี้วัด MSCI AC World Minimum Volatility Index โดยจากข้อมูลย้อนหลัง 3 ปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ 2.96% และ 1.62% ตามลำดับ ในขณะที่ข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 5.48% และ 4.57 % ตามลำดับ รวมถึงมีผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่ดี เนื่องจากในช่วงตลาดขาลง กลยุทธ์ดังกล่าว ฯ จะปรับตัวลงตามตลาดประมาณ 59% ขณะที่ตลาดขาขึ้นจะปรับตัวตามตลาดประมาณ 71% (ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 – 31 ธันวาคม 2565) นางสาวดารบุษป์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัทฯ หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

                                                       #####

เกี่ยวกับ อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์

อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ ในฐานะบริษัทจัดการสินทรัพย์ของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential) กลุ่มผู้ให้บริการทางการเงินระดับสากล เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย บริหารสินทรัพย์ในนามของผู้ลงทุนรายย่อยและผู้ลงทุนสถาบันทั้งหมดกว่า 222,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ข้อมูล ณ 30 มิถุนายน 2564) เริ่มให้บริการครอบคลุมตลาดเอเชียตั้งแต่ปี 2537 อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ เป็นหนึ่งในบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค* มอบโซลูชั่นด้านการลงทุนสำหรับสินทรัพย์ประเภทต่างๆ อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนแบบผสม กองทุนเชิงปริมาณวิเคราะห์ (Quantitative)และสินทรัพย์ทางเลือก โดยมุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่มีคุณภาพสูงแก่ลูกค้าในระยะยาว

การลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ และทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของ อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ มีหน้าที่ในการพิจารณาส่งเสริมแนวทางการปฏิบัติอย่างมีธรรมาภิบาลในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ให้สอดคล้องกับปรัชญาและกระบวนการการลงทุนของพวกเขา บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะปรับธุรกิจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับโครงการความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนระดับโลก โดยอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ เป็นผู้ลงนามภายใต้ United Nations-supported Principles for Responsible Investment (PRI) ขององค์การสหประชาชาติ และ Asia Investor Group on Climate Change

*อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (ไม่รวมบริษัทร่วมทุน) เป็นบริษัทที่ถือหุ้นเต็ม / บริษัทย่อยที่ถือหุ้นโดยอ้อม / บริษัทในเครือของพรูเด็นเชียล จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจในสหราชอาณาจักร ส่วนบริษัทต่างๆ ของอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (รวมบริษัทร่วมทุน) และพรูเด็นเชียล จำกัด (มหาชน) มิได้มีความสัมพันธ์ใดๆ กับ พรูเด็นเชียล ไฟแนนเชียล อิงค์ (Prudential Financial. Inc) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีถิ่นที่ตั้งทางธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือกับ Prudential Assurance Company ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ M&G plc ที่จัดตั้งขึ้นในสหราชอาณาจักร

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages