วันพฤหัสบดี ที่ 26 มกราคม 2566 เวลา 13.30 – 21.00 น. ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ ชั้น 2 โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ฯ
สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) จัดเสวนาครั้งสำคัญต่อภาคเศรษฐกิจ และสังคม “Lifelong Learning & Climate Change” อาวุธไม่ลับ แต่รับมือได้ทุกวิกฤติ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และส่งต่อแรงบันดาลใจในการร่วมพัฒนาประเทศไทย มุ่งสร้างศักยภาพบุคลากร ผลักดันเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย ปรับตัว รับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก
การส่งเสริมความรู้ควบคู่การพัฒนาบุคลากรยังคงเป็นความท้าทายขององค์กรไทยในการขับเคลื่อนองค์กรให้ไปสู่ความสำเร็จ และถือเป็นหัวใจสำคัญ และนี่คือหนึ่งในเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นมาตลอดระยะเวลา 50 ปี ของสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) ในการเป็นผู้ส่งเสริมความรู้ และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเผยแพร่และถ่ายทอดให้แก่บุคลากรไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และสร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศให้พร้อมสู่การแข่งขันบนเวทีสากล
การจัดเสวนาครั้งนี้ จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย–ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. ภายใต้คอนเซ็ปต์ “INSPIRE OUR FUTURE” นอกจากจะเป็นการย้ำถึงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวทันกับกระแสของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็วแล้ว ยังเป็นอีกก้าวหนึ่งในการขับเคลื่อน และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมสร้างความตระหนักรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อย่างมีประสิทธิภาพ
ส.ส.ท. ได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ อันมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเสริมศักยภาพ ร่วมสร้างอนาคตผ่านเทคโนโลยี และการเรียนรู้ตลอดชีวิต ขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจไทย อีกทั้งยังเป็นการรวมตัวกันของเหล่าขุนพลระดับประเทศที่มาร่วมเปิดมุมมองใน 2 หัวข้อสำคัญ “Lifelong Learning & Climate Change” เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
งานจัดในวันพฤหัสบดี ที่ 26 มกราคม 2566 เวลา 13.30 – 21.00 น. ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ ชั้น 2 โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ฯ
เปิดเวทีเสวนาในช่วงบ่าย กับ “Lifelong Learning” สร้างระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต เติมเต็มเป้าหมาย ผลักดันให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืน โดย ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA), ดร. วิโรจน์ จิรพัฒนกุล ผู้บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Skooldio, ต่อเนื่องด้วย “Climate Change” การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก โดย ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานนวัตกรรม และรองผู้จัดการใหญ่ New Business บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ (SCGC) โดยมี ดร. สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ให้เกียรติดำเนินการเสวนา
เสวนาพิเศษ “Lifelong Learning & Climate Change” ในครั้งนี้ นับเป็นการประกาศจุดยืนที่สำคัญของ ส.ส.ท. ในการตื่นตัวรับรู้กับสถานการณ์สำคัญที่กำลังใกล้มาถึง และให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ลดการใช้พลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดตั้ง โครงการ Thailand-Japan Decarbonization Initiatives (TJDI) เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศที่ช่วยผลักดัน และให้การส่งเสริมองค์ความรู้ พัฒนาบุคลากร และองค์กรต่าง ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมทั้ง CO2 เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Carbon neutrality และ Net zero emissions
ตลอดระยะเวลา 50 ปี บนเส้นทางแห่งการผลิตความรู้คู่อุตสาหกรรม ส.ส.ท. ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในการส่งเสริมขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทยทั้งประเทศ ด้วยการเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมความรู้ และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเผยแพร่ และถ่ายทอดให้แก่บุคลากรไทย ผ่านกิจกรรม และการดำเนินงานต่างๆ มากมายสู่ภาคอุตสาหกรรม จวบจนปัจจุบัน
การส่งเสริมความรู้ควบคู่การพัฒนาบุคลากรยังคงเป็นความท้าทายขององค์กรไทยในการขับเคลื่อนองค์กรให้ไปสู่ความสำเร็จ และถือเป็นหัวใจสำคัญ และนี่คือหนึ่งในเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นมาตลอดระยะเวลา 50 ปี ของสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) ในการเป็นผู้ส่งเสริมความรู้ และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเผยแพร่และถ่ายทอดให้แก่บุคลากรไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และสร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศให้พร้อมสู่การแข่งขันบนเวทีสากล
การจัดเสวนาครั้งนี้ จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย–ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. ภายใต้คอนเซ็ปต์ “INSPIRE OUR FUTURE” นอกจากจะเป็นการย้ำถึงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวทันกับกระแสของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็วแล้ว ยังเป็นอีกก้าวหนึ่งในการขับเคลื่อน และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมสร้างความตระหนักรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อย่างมีประสิทธิภาพ
ส.ส.ท. ได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ อันมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเสริมศักยภาพ ร่วมสร้างอนาคตผ่านเทคโนโลยี และการเรียนรู้ตลอดชีวิต ขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจไทย อีกทั้งยังเป็นการรวมตัวกันของเหล่าขุนพลระดับประเทศที่มาร่วมเปิดมุมมองใน 2 หัวข้อสำคัญ “Lifelong Learning & Climate Change” เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
งานจัดในวันพฤหัสบดี ที่ 26 มกราคม 2566 เวลา 13.30 – 21.00 น. ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ ชั้น 2 โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ฯ
เปิดเวทีเสวนาในช่วงบ่าย กับ “Lifelong Learning” สร้างระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต เติมเต็มเป้าหมาย ผลักดันให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืน โดย ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA), ดร. วิโรจน์ จิรพัฒนกุล ผู้บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Skooldio, ต่อเนื่องด้วย “Climate Change” การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก โดย ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานนวัตกรรม และรองผู้จัดการใหญ่ New Business บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ (SCGC) โดยมี ดร. สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ให้เกียรติดำเนินการเสวนา
เสวนาพิเศษ “Lifelong Learning & Climate Change” ในครั้งนี้ นับเป็นการประกาศจุดยืนที่สำคัญของ ส.ส.ท. ในการตื่นตัวรับรู้กับสถานการณ์สำคัญที่กำลังใกล้มาถึง และให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ลดการใช้พลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดตั้ง โครงการ Thailand-Japan Decarbonization Initiatives (TJDI) เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศที่ช่วยผลักดัน และให้การส่งเสริมองค์ความรู้ พัฒนาบุคลากร และองค์กรต่าง ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมทั้ง CO2 เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Carbon neutrality และ Net zero emissions
ตลอดระยะเวลา 50 ปี บนเส้นทางแห่งการผลิตความรู้คู่อุตสาหกรรม ส.ส.ท. ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในการส่งเสริมขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทยทั้งประเทศ ด้วยการเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมความรู้ และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเผยแพร่ และถ่ายทอดให้แก่บุคลากรไทย ผ่านกิจกรรม และการดำเนินงานต่างๆ มากมายสู่ภาคอุตสาหกรรม จวบจนปัจจุบัน
No comments:
Post a Comment